ปุจฉา-วิสัชนา | ถามเองตอบเอง ตอบโดยไม่ตอบ (ก็มีอยู่)
ปุจฉา – วิสัชนา อ่านว่า ปุด-ฉา วิ-สัด-ชะ-นา
(๑) “ปุจฉา”
เขียนแบบบาลีเป็น “ปุจฺฉา” (มีจุดใต้ จฺ) อ่านว่า ปุด-ฉา รากศัพท์มาจาก ปุจฺฉฺ (ธาตุ = ถาม) + อ (อะ) ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ : ปุจฺฉฺ + อ = ปุจฺฉ + อา = ปุจฺฉา แปลตามศัพท์ว่า “การถาม” “ข้อที่ควรถาม” หมายถึง คำถาม (a question)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า “ปุจฉา : (คำกริยา) ถาม เช่น ขอปุจฉาพระคุณเจ้า. (ป.).”
@@@@@@@
(๒) “วิสัชนา”
บาลีเป็น “วิสฺสชฺชน” อ่านว่า วิด-สัด-ชะ-นะ รากศัพท์มาจาก วิ (คำอุปสรรค = วิเศษ, แจ้ง, ต่าง) + สชฺชฺ (ธาตุ = ตอบ, ชี้แจง; สละ, ละ) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), ซ้อน สฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ (วิ + สฺ + สชฺช) : วิ + สฺ + สชฺช = วิสฺสชฺชฺ + ยุ > อน = วิสฺสชฺชน แปลตามศัพท์ว่า
(1) “การตอบ”
(2) “การสละอย่างวิเศษ”
อภิปรายแทรก
“วิสฺสชฺชน” ที่แปลตามศัพท์ว่า “การสละอย่างวิเศษ” ในที่นี้ก็หมายถึง การแก้ปัญหานั่นเอง กล่าวคือ วาดเป็นภาพว่า ปัญหาหรือข้อสงสัยเปรียบเหมือนสิ่งที่ถูกผูกไว้ในใจ ผู้ตอบปัญหามาแก้เชือกที่ผูกความสงสัยนั้นออก นั่นคือ สละความสงสัยออกไปจากใจ ดังนี้ “วิสฺสชฺชน” จึงหมายถึง การแก้ปัญหา หรือตอบปัญหา
“วิสฺสชฺชน” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้
(1) การบริจาค, การมอบให้ (giving out, bestowing)
(2) การส่งออก, การขับออก (sending off, discharging)
(3) การวิสัชนา, การตอบ (answer, reply)
หลักภาษา
“วิสฺสชฺชน” ในบาลีอาจสะกดได้ถึง 4 แบบ คือ
(1) “วิสฺสชฺชน” ดังที่สะกดในที่นี้
(2) วิสฺสชฺชน + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ เป็น “วิสฺสชฺชนา”
(3) ไม่ซ้อน สฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ สะกดเป็น “วิสชฺชน”
(4) วิสชฺชน + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ เป็น “วิสชฺชนา”
ในภาษาไทย คำนี้ใช้เป็น “วิสัชนา” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า “วิสัชนา : (คำกริยา) ตอบ, ชี้แจง, เช่น ขอวิสัชนาดังนี้. (ป. วิสชฺชนา).”
@@@@@@@
ขยายความ
“ปุจฉา” กับ “วิสัชนา” มักมาควบคู่กัน มี “ปุจฉา” แล้วต้องมี “วิสัชนา” หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง มี “วิสัชนา” ก็เพราะมี “ปุจฉา”
ในคัมภีร์ แสดงประเภทของ “ปุจฉา” ว่ามี 5 อย่าง ดังนี้
(1) อทิฏฐโชตนาปุจฉา = คำถามเพื่อส่องลักษณะที่ยังไม่เห็นให้กระจ่าง (ยังไม่รู้เรื่องนั้นๆ มาก่อน ถามเพื่อหาข้อมูล)
(2) ทิฏฐสังสันทนาปุจฉา = คำถามเทียบเคียงลักษณะที่เห็นแล้ว (พอรู้เรื่องนั้นๆ มาบ้าง ถามเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง)
(3) วิมติเฉทนาปุจฉา = คำถามเพื่อตัดความสงสัย (เพราะสงสัยจึงไต่ถาม, ถามเพราะอยากรู้โดยสุจริตใจ)
(4) อนุมติปุจฉา = คำถามเพื่อขอคำรับรอง เช่นให้รับรองว่าความเห็นความเชื่อของผู้ถามในเรื่องนั้นๆ ถูกต้อง (ถามหาพวก)
(5) กเถตุกัมยตาปุจฉา = คำถามเพราะผู้ถามประสงค์จะตอบเอง (ถามเองตอบเอง)
___________________________________________
ที่มา : สุมังคลวิลาสินี ภาค 1 หน้า 105 (พรหมชาลสุตตวัณณนา)
ส่วน “วิสัชนา” เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “พยากรณ์” ท่านแบ่งประเภทไว้ 4 อย่าง ดังนี้
(1) เอกังสพยากรณ์ = ตอบตรงๆ หรือตอบเป็นคำขาดไม่อ้อมค้อม
(2) ปฏิปุจฉาพยากรณ์ = ย้อนถามให้ผู้ถามชี้ประเด็นออกมาก่อนแล้วจึงตอบ
(3) วิภัชชพยากรณ์ = ตอบแบบแยกประเด็นเป็นเรื่องๆ ไป
(4) ฐปนียพยากรณ์ = ตอบโดยไม่ตอบ เพราะเห็นว่าไร้สาระ หรือเห็นว่าผู้ถามไม่ได้ถามเพราะต้องการคำตอบ แต่ถามหาเรื่อง
_____________________________________________
ที่มา : สังคีติสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกฺวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 11 ข้อ 255
@@@@@@@
แถม
“วิสัชนา” หรือวิธีตอบแต่ละอย่างต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับ “ปุจฉา” แต่ละเรื่อง ไม่ใช่ทุกอย่างใช้ได้กับความสงสัยทุกเรื่อง เช่น ไม่ว่าใครจะถามเรื่องอะไร ไม่ตอบทั้งสิ้น แล้วอ้างว่าเป็นการปฏิบัติตามหลัก “ฐปนียพยากรณ์” อย่างนี้ย่อมไม่ถูกต้อง
ดูก่อนภราดา.! แก้ปัญหาด้วย(การลง)มือ(ทำ)กันให้มาก ก็จะแก้ปัญหาด้วยปากน้อยลงขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : ทองย้อย แสงสินชัยทอง
web :
dhamma.serichon.us/2021/12/14/ปุจฉา-วิสัชนา-ถามมา-ตอบไ/ posted date : 14 ธันวาคม 2021 ,By admin.