ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธศาสตร์ – พุทธศาสน์ ต่างกันอย่างไร  (อ่าน 2529 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29390
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



พุทธศาสตร์ – พุทธศาสน์ ต่างกันอย่างไร

พุทธศาสตร์ และ พุทธศาสน์ อ่านว่า พุด-ทะ-สาด เหมือนกันทั้ง 2 คำ ประกอบด้วยคำว่า “พุทธ” “ศาสตร์” และ “ศาสน์”

(๑) “พุทธ”

เขียนแบบบาลีเป็น “พุทฺธ” (มีจุดใต้ ทฺ) อ่านว่า พุด-ทะ รากศัพท์มาจาก พุธฺ (ธาตุ = รู้) + ต ปัจจัย, แปลง ธฺ ที่สุดธาตุเป็น ทฺ, แปลง ต เป็น ธฺ (นัยหนึ่งว่า แปลง ธฺ ที่สุดธาตุกับ ต เป็น ทฺธ) : พุธฺ + ต = พุธฺต > พุทฺต > พุทฺธ (พุธฺ + ต = พุธฺต > พุทฺธ) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้รู้ทุกอย่างที่ควรรู้”

“พุทฺธ” แปลตามศัพท์ได้เกือบ 20 ความหมาย แต่ที่เข้าใจกันทั่วไปมักแปลว่า
     (1) ผู้รู้ = รู้สรรพสิ่งตามความเป็นจริง
     (2) ผู้ตื่น = ตื่นจากกิเลสนิทรา ความหลับไหลงมงาย
     (3) ผู้เบิกบาน = บริสุทธิ์ผ่องใสเต็มที่

ความหมายที่เข้าใจกันเป็นสามัญ หมายถึง “พระพุทธเจ้า” แต่ในที่นี้ “พุทธ” หมายถึงทุกองค์ประกอบที่รวมกันเป็นพระพุทธศาสนา


@@@@@@@

(๒) “ศาสตร์”

เป็นรูปคำสันสกฤต บาลีเป็น “สตฺถ” อ่านว่า สัด-ถะ รากศัพท์มาจาก

    (1) สสฺ (ธาตุ = เบียดเบียน) + ถ ปัจจัย, แปลง สฺ ที่ (ส)-สฺ เป็น ตฺ : สสฺ + ถ = สสฺถ > สตฺถ แปลตามศัพท์ว่า “วัตถุเป็นเครื่องเบียดเบียนสัตว์” คำเดิมหมายถึง “ของมีคม” ความหมายนี้ตรงกับสันสกฤตว่า “ศสฺตฺร” แปลว่า ดาบ, มีด, อาวุธ ใช้ในภาษาไทยว่า ศัสตรา หรือ ศาสตรา บางทีก็พูดควบกันว่า ศาสตราวุธ หรือ ศาสตราอาวุธ (weapon, sword, knife)

    (2) สรฺ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + ถ ปัจจัย แปลง รฺ เป็น ตฺ : สรฺ + ถ = สรฺถ > สตฺถ แปลตามศัพท์ว่า “หมู่เป็นที่เป็นไปแห่งส่วนย่อยทั้งหลาย” ความหมายนี้ตรงกับสันสกฤตว่า “สารฺถ” หมายถึง กองเกวียนของพ่อค้า, กองคาราวาน, ขบวนยานพาหนะ (caravan)

    (3) สาสฺ (ธาตุ = สอน) + ถ ปัจจัย, รัสสะ (หดเสียง) อา ที่ สา-(สฺ) เป็น อะ (สาสฺ > สสฺ), แปลง สฺ เป็น ตฺ : สาสฺ + ถ = สาสฺถ > สสฺถ > สตฺถ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งเป็นเครื่องสอนเนื้อความ” ความหมายนี้ตรงกับสันสกฤตว่า “ศาสฺตฺร” หมายถึง คัมภีร์, ตำรา, ศิลปะ, วิชาความรู้ (science, art, lore)

“ศาสตร” มีความหมาย 2 อย่าง คือ

    (ก) หมายถึง “ของมีคม” ตามบาลี “สตฺถ” ในข้อ (1) ความหมายนี้สันสกฤตเป็น “ศสฺตฺร”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า (สะกดตามต้นฉบับ)
    “ศสฺตฺร : (คำนาม) ‘ศัสตระ,’ อายุธ, อาวุธทั่วไป; เหล็ก; เหล็กกล้า; ดาพ, กระบี่; มีด, พร้า; a weapon in general, iron; steel; a sword; a knife.”

     ความหมายนี้ในภาษาไทยสะกดเป็น “ศัสตรา” และ “ศาสตรา”
     พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
     (1) ศัสตรา, ศัสตราวุธ : (คำนาม) ของมีคมเป็นเครื่องฟันแทง, อาวุธต่าง ๆ. (ส.).
     (2) ศาสตรา : (คำนาม) ศัสตรา.

     (ข) หมายถึง “วิชาความรู้” ตามบาลี “สตฺถ” ในข้อ (3) ความหมายนี้สันสกฤตเป็น “ศาสฺตฺร”
     สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า (สะกดตามต้นฉบับ)
    “ศาสฺตฺร : (คำนาม) ‘ศาสตร์’ คำสั่งหรือบัญชา; เวท, วิทยา, ธรรมศาสตร์, กฎหมาย; หนังสือทั่วไป; an order or command; scripture or Veda, science, institutes of religion, law; a book in general.”

     ความหมายนี้ในภาษาไทยสะกดเป็น “ศาสตร” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ศาสตร-, ศาสตร์ : (คำนาม) ระบบวิชาความรู้, มักใช้ประกอบหลังคําอื่น เช่น วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ มนุษยศาสตร์. (ส.).”

@@@@@@@

(๓) “ศาสน์”

บาลีเป็น “สาสน” อ่านว่า สา-สะ-นะ รากศัพท์มาจาก –
     (1) สาส (ธาตุ = สั่งสอน) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ) : สาสฺ + ยุ > อน = สาสน แปลตามศัพท์ว่า (1) “คำอันท่านสั่งสอน” (2) “คำเป็นเครื่องสั่งสอนชาวโลกพร้อมทั้งเทวโลก”
     (2) สสฺ (ธาตุ = เบียดเบียน) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), ทีฆะต้นธาตุ คือ อะ ที่ ส-(สฺ) เป็น อา (สสฺ > สาสฺ) : สสฺ + ยุ > อน = สสน > สาสน แปลตามศัพท์ว่า “คำสั่งสอนที่เบียดเบียนกิเลส”

“สาสน” ในบาลีใช้ในความหมาย 3 อย่าง คือ
     (1) คำสอน = teaching หรือที่เรียกทับศัพท์ว่า “ศาสนา”
     (2) คำสั่ง (ในทางปกครองบังคับบัญชา) = order (to rule, govern)
     (3) ข่าว = message คือที่เราคุ้นกันในคำว่า “สาส์น” (สาน)
     ในที่นี้ “สาสน” หมายถึง คำสอน หรือ การสั่งสอน

      บาลี “สาสน” ใช้ในภาษาไทยเป็น “ศาสน” และ “ศาสนา”
      พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า
     “ศาสน-, ศาสนา : (คำนาม) ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลัก คือแสดงกําเนิดและความสิ้นสุดของโลกเป็นต้น อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทําตามความเห็นหรือตามคําสั่งสอนในความเชื่อถือนั้น ๆ. (ส. ศาสน ว่า คําสอน, ข้อบังคับ; ป. สาสน).”


@@@@@@@

การประสมคำ

     ๑. พุทธ + ศาสตร์ = พุทธศาสตร์ แปลว่า “หลักวิชาหรือหลักความรู้ในพระพุทธศาสนา” = พระพุทธศาสนามีหลักธรรมอะไรบ้าง
     ๒. พุทธ + ศาสน์ = พุทธศาสน์ แปลว่า “ศาสนาของพระพุทธเจ้า” = เรื่องราวทั่วไปเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา

ขยายความ

คำว่า “พุทธศาสตร์” และ “พุทธศาสน์” ที่แยกความหมายดังกล่าวข้างต้นชัดเจน อยู่ในชื่อหนังสือ 2 เล่ม คือ –
     (1) พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
     (2) พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์

     - พจนานุกรมทั้ง 2 เล่มนี้เป็นผลงานการจัดทำของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
     - พจนานุกรมทั้ง 2 เล่มนี้มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2506 สมัยที่ท่านผู้จัดทำยังเป็น “พระมหาประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9” แห่งสำนักวัดพระพิเรนทร์ กรุงเทพฯ

ดูก่อนภราดา.! โรคหายไม่ได้ เพียงแค่คนไข้รู้ตำรายา





ผู้เขียน : ทองย้อย แสงสินชัย
web : dhamma.serichon.us/2021/12/07/พุทธศาสตร์-พุทธศาสน์-ต่/
posted date : 7 ธันวาคม 2021 ,By admin.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ