ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทานกัณฑ์...นบีมุฮัมมัด  (อ่าน 903 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ทานกัณฑ์...นบีมุฮัมมัด
« เมื่อ: มิถุนายน 13, 2022, 06:41:19 am »
0



ทานกัณฑ์...นบีมุฮัมมัด

เด็กวัดพุทธคุ้นชื่อทานกัณฑ์ ตอนที่สามของเทศน์มหาชาติ... (ตอนหนึ่ง ทศพร ตอนสอง หิมพานต์) พระเวสสันดร อธิษฐานจะบริจาคทานใหญ่...สะดุดใจครับ เมื่อเจอ “ทานกัณฑ์” ของนบีมุฮัมมัด ของอิสลาม

ใน “ศาสนาเปรียบเทียบ” (สำนักพิมพ์ศรีปัญญา พิมพ์ครั้งที่ 10 พ.ศ.2563) ศาสดาจารย์พิเศษ เสฐียร พันธรังสี เขียนเรื่องศาสนาอิสลาม...ตอน นบีมุฮัมมัดเริ่มเผยแพร่คำสอน...แล้วถูกต่อต้านจากชาวเมืองมักกะฮ์ ที่นับถือเทวรูปต่างๆ รุนแรงถึงขั้นต้องย้ายครอบครัวหนีภัยไปอยู่ไกลถึงเอธิโอเปีย

ชาวเมืองยัษริบที่นับถือมั่นคง ขอร้องให้ท่านนบีเปลี่ยนสถานที่สอนศาสนา...ท่านนบีเห็นด้วย ออกเดินทางผ่านทะเลทรายกว้างใหญ่ ข้ามภูเขาหลายลูก ลงหลักปักฐานสร้างมัสยิดแห่งแรก

เมืองนี้จึงเปลี่ยนชื่อเป็น มะดีนะฮ์ แปลว่า เมืองของท่านนบี

แต่เมืองนี้อยู่บนที่สูง ถูกลมพายุเสมอๆ บางครั้งฝนตกหนักติดต่อกันนานถึงหกเดือน สาวกชาวมะดีนะฮ์คุ้นเคยอากาศก็อยู่ได้ แต่สาวกที่เป็นชาวมักกะฮ์มักเจ็บป่วยเนืองๆ

นบีมุฮัมมัดก็ยังแข็งแรง เทศน์สอนได้ทุกวันศุกร์ คำสอนตอนนี้ มักเน้นให้ทุกคนอดทนต่อความยากลำบาก และเมื่อชีวิตมีแต่ความยากลำบาก ท่านนบีก็สอนให้มีเมตตากรุณา เจือจานแบ่งปันกัน

@@@@@@@

เทศน์กัณฑ์หนึ่ง ท่านนบีเริ่มต้นว่า เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างแผ่นดิน พระองค์ทรงสร้างภูเขาบนแผ่นดินได้แน่นแฟ้น มีมลาอิกะฮ์ ทูลถามว่า “สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นนั้น ยังมีสิ่งใดบ้างที่กล้าแข็งยิ่งกว่าภูเขา.?”

“เหล็กแข็งกว่าภูเขา” พระอัลลอฮ์ตรัสตอบ “เพราะเหล็กตีภูเขาให้แตกได้” “อะไรที่แข็งกว่าเหล็ก.?”

“ไฟแข็งกว่าเหล็ก เพราะไฟละลายเหล็กได้” “อะไรแข็งยิ่งกว่าไฟ?” “น้ำ เพราะน้ำดับไฟได้”

“อะไรที่มีกำลังแรงยิ่งกว่าน้ำ.?” “ลม เพราะลมทำให้น้ำปั่นป่วนได้”

มาถึงตอนนี้ มลาอิกะฮ์ทูลถามว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้บริหารโลก มีสิ่งใดบ้างที่พระองค์สร้างให้กล้าแข็งยิ่งกว่าลม.?”

พระอัลลอฮ์ตรัสตอบว่า “มี คือการที่สาธุชนบำเพ็ญกุศลทาน ถ้าให้ด้วยมือขวา และซ่อนมือขวาเสียให้พ้นมือซ้าย การให้ทานนั้นชนะได้ซึ่งสิ่งทั้งปวง”

@@@@@@@

เทศนาของท่านนบีมุฮัมมัดเรื่องนี้ ศาสตราจารย์พิเศษ เสฐียร พันธรังสี ใช้คำว่า “ทานกัณฑ์”

อาจารย์เสฐียรเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาอิสลามกับศาสนายิว ...ในเมืองมะดีนะฮ์ เวลานั้นมีชาวยิวมาทำมาหากินอยู่มาก พวกเขาเคร่งครัดในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม นับถือพระยะโฮวาองค์เดียว ไม่นิยมรูปเคารพพระเป็นเจ้าต่างๆ เวลาจะนมัสการก็หันหน้าออกไปทางกรุงเยรูซาเล็ม แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ของตน

นบีมุฮัมมัดเรียกคนยิวว่า “ชาวคัมภีร์” เป็นการยกย่องและเคยกล่าวยกย่องพระเยซูผู้ประกาศศาสนาคริสต์ว่าเป็นนบี ผู้รับคำสอนมาจากพระยะโฮวา

อาจารย์เสฐียรบอกว่า ความเป็นไปในชีวิตของนบีมุฮัมมัด ที่เมืองมะดีนะฮ์ เป็นไปด้วยความลำบากยากเข็ญ มีอันตรายจากศัตรูที่ต้องต่อสู้อยู่รอบข้าง

เทศน์ทานกัณฑ์ ย้ำให้ชาวอิสลามเอื้อเฟื้อเจือจานกันและกัน ช่วยกันเองแล้ว ท่านนบียังแสวงไมตรีจากชาวยิวและชาวคริสต์ แสดงถึงความใจกว้าง ไม่น่าแปลกใจวันนี้ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาใหญ่หนึ่งในสามของโลก

ผมอ่านศาสนาเปรียบเทียบแล้วชอบทานกัณฑ์ของท่านนบีมาก กำลังคิดว่าจะตามไปหาทานกัณฑ์ฉบับพระเวสสันดรอ่านอีกสักครั้ง ตอนเด็กอ่านแล้วคิดไปอย่าง อ่านตอนแก่ ได้ประเด็นคิดใหม่ พระเวสสันดรฉบับพุทธเรา...ท่านให้ทรัพย์สินมีค่ามากมาย ไม่เว้นให้เมีย ให้ลูกเล็กสองคนไปเป็นคนใช้ขอทาน...คนในโลกสมัยใหม่ จะยอมรับได้แค่ไหน ก็ไม่รู้.






Thank to : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2413442#aWQ9NjI2YTRhM2FkZWI5NzkwMDEzNjQwNzE3JnBvcz0wJnJ1bGU9MA==
โดย กิเลน ประลองเชิง , 9 มิ.ย. 2565 05:18 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ