ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เสียง “โหวดคนอีสาน” สื่อพญาแถนหยุดฝน แลนด์มาร์ก ใหม่แห่ง เมืองร้อยเอ็ด  (อ่าน 910 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เสียง “โหวดคนอีสาน” สื่อพญาแถนหยุดฝน แลนด์มาร์ก ใหม่แห่ง เมืองร้อยเอ็ด

“หอโหวดร้อยเอ็ด” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของภาคอีสาน ตั้งอยู่กลางเมืองในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด หน้าบึงพลาญชัย บนเนื้อที่รวม 124 ไร่ มีความสูง 101 เมตร เทียบเท่าอาคารสูง 35 ชั้น

ภายในมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวและลิฟต์อัคคีภัย 1 ตัว แบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็น 12 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นสำนักงานและห้องน้ำสาธารณะ...ชั้นที่ 2 เป็นโถงต้อนรับ บริการจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์และประวัติหอโหวด...ชั้นที่ 3 เป็นโถงจำหน่ายสินค้าที่ระลึกและร้านกาแฟ...ชั้นที่ 4 เป็นร้านอาหารและโคเวิร์กกิ้งสเปซ

ชั้นที่ 28 เป็นพื้นที่ให้เช่าเพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ...ชั้นที่ 29 เป็นจุดบริการตู้หยอดเหรียญ เครื่องดื่ม ไอศกรีม ห้องน้ำลอยฟ้า จุดขึ้นลิฟต์โดยสารขาลง...ชั้นที่ 30 เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มลอยฟ้า...ชั้นที่ 31 เป็นจุดจอดลิฟต์โดยสารขาขึ้น จุดชมวิวภายใน 360 องศา และกล้อง ส่องทางไกล...ชั้นที่ 32 เป็นชั้นชมวิวในอาคารงานระบบอาคาร...ชั้นที่ 33 เป็นชั้นแสดงพิพิธภัณฑ์เมือง...ชั้นที่ 34 เป็นชั้นที่ต่อเติมใหม่ตามสัญญาเพิ่มเติม เป็นจุดชมวิวนอกอาคารเอาต์ดอร์แบบ 360 องศา โดยมีไฮไลต์จุดชมวิวพื้นกระจกใส ...สกายวอล์กและจุดโหนสลิงโรยตัวในอนาคต



สุดท้ายเป็นชั้นที่ทุกคนต่างต้องไปถึงให้ได้สักครั้งหนึ่ง นั่นก็คือชั้นที่ 35 เป็นชั้นสูงสุดที่ต่อเติมใหม่ตามสัญญาเพิ่มเติมเป็น “หอพระ” ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธมิ่งเมืองมงคล พระพุทธรูปประจำจังหวัดร้อยเอ็ด

O O O

“โหวด”...เครื่องดนตรีขนาดเล็ก กะทัดรัด ราคาย่อมเยา รูปทรงสวยงาม ในอดีตวันวานเป็นของเล่นของคนอีสานใช้แกว่งเล่นเหมือน “สนู” ต่อมาได้ดัดแปลงมาเป็นเครื่องเล่นดนตรีของวงดนตรีพื้นเมืองประเภทเครื่องเป่า สามารถเป่าหรือแกว่งให้เกิดเสียงได้

กระทั่ง “โหวด” ได้กลายเป็นเครื่องดนตรีแห่งวงการดนตรีอีสานจริงๆเมื่อไม่กี่สิบปีมานี่เอง โดยผู้คิดค้นพัฒนาให้เป็นเครื่องดนตรีแบบที่เห็นในปัจจุบันคือ อาจารย์ทรงศักดิ์ ประทุมสินธุ์ อาจารย์ประจำวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด ซึ่งได้คิดค้นและนำออกแสดงเมื่อปี พ.ศ.2511



“โหวด” ทำจากไม้กู่แคน ซึ่งเป็นปลายที่เหลือจากการทำแคน แต่มีรูปแบบการกำเนิดเสียง แตกต่างจากแคน โดยแคนมีลิ้นเป็นตัวให้กำเนิดเสียง แต่โหวดไม่มีลิ้น ให้กำเนิดเสียงโดยการไหลของลม ระดับเสียงสูง...ต่ำ ขึ้นอยู่กับขนาดความโต และความยาวของลูกโหวด หรือขึ้นอยู่กับปริมาตรความจุลมของลูกโหวดนั่นเอง

หากมีความจุมาก เสียงจะต่ำ หากมีความจุน้อย เสียงจะสูง ลูกโหวด ด้านหัวของแต่ละลูก เสี้ยมปลายให้แหลมเป็นปากปลาฉลาม และนำแต่ละลูก มาติดเข้ากับแกนโดยรอบ เรียงลำดับจากยาวไปหาสั้น โหวดมาตรฐาน มี 13 ลูก 5 โน้ตตามโน้ตเพลงพื้นบ้านอีสานคือ มี ซอล ลา โด เร

สามารถบรรเลงเพลงลายใหญ่ และลายสุดสะแนนได้ หรือหากต้องการใช้เล่นร่วมกับลายน้อยและลายโป้ซ้าย ก็สามารถปรับคีย์ลูกโหวดให้สูงขึ้นได้

“คนโบราณ”...มีความเชื่อว่าโหวดเกิดขึ้นมาหลายพันปีแล้ว ตามนิยายปรัมปราที่เล่าขานกันมา “โหวดคนอีสาน”...นับแต่โบราณนานมาแล้วเชื่อกันว่า เป็นสื่อที่มนุษย์ใช้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอให้ฝนหยุดตกในที่นี้หมายถึง “พญาแถน” ผู้ซึ่งประทานน้ำฝนให้ตกในเมืองมนุษย์ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว

ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายกับผลิตผลได้...อีกทั้งยังเป็นผลให้ไม่เป็นที่นิยมเล่นโหวดกันในฤดูฝนเพราะกลัวฝนแล้ง

O O O

หมู่บ้านเห็ดผึ้ง–หนองก่าม ตำบลหนองหมี อำเภอราศีไศล จังหวัดศรีสะเกษ มีการจัดงาน “ประเพณีฟาดโหวด” ที่สืบทอดกันมานานแล้วนับตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งจะจัดกันหลังจากงานประเพณีบุญเดือนหก...ชาวอีสานจุดบั้งไฟ เพื่อส่งสัญญาณบอกกล่าวเทวดา พญาแถนขอให้ “ฝน” ตกลงมายังโลกมนุษย์

เพื่อที่จะได้มีน้ำทำไร่ ไถนา ประกอบอาชีพการเกษตร



ครั้นเทวดา พญาแถน ได้ปล่อยน้ำฝนลงมายังโลกมนุษย์อย่างเพียงพอตามความต้องการแล้ว คนอีสานก็จะพากันจัดงานบุญเดือน 10 ฟาดโหวด เพื่อแจ้งข่าวต่อเทวดา พญาแถน..ผู้ทำให้ฝนตกลงมาได้รับรู้รับทราบว่า “ปริมาณน้ำฝน” ที่ปล่อยมายังโลกมนุษย์ขณะนี้เพียงพอต่อการทำไร่ทำนาแล้ว

...ขอให้ฝนหยุดตก

ภูมิหลัง “พญาแถน” หรือ “ผีฟ้า” หรือ “ผีแถน” นั้น ชาวอีสานมีความเชื่อว่าเป็นเทวดามากกว่าเป็นผี...ผีฟ้าจึงเป็นผีที่อยู่ระดับสูงกว่าผีชนิดอื่นๆ ส่วน “แถน” นั้น...มีความเชื่อว่าเป็นคำเรียกรวมถึงเทวดา

และ...แถนที่ใหญ่ที่สุดคือ “แถนหลวง” ซึ่งเชื่อว่าเป็นพระอินทร์

ผีฟ้าหรือผีแถนนั้นแต่ละพื้นที่มีการเรียกที่แตกต่างกันไป โดยมีความเชื่อว่าผีฟ้านั้นสามารถที่จะดับยุคเข็ญหรือทำลายล้างอุป สรรคทั้งปวงได้ สามารถที่จะช่วยเหลือมนุษย์ที่เดือด ร้อนได้ การที่มนุษย์เกิดการเจ็บป่วยนั้นเนื่องจากไปละเมิดต่อผี การละเมิดต่อบรรพบุรุษ การรักษาต้องมีการเชิญผีฟ้ามาสิงสถิตอยู่ในร่างคนทรง

เรียกว่า...“ผีฟ้า นางเทียน”



ความเชื่อสำคัญ...เป็นการขอขมาพญาแถนให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เพื่อที่จะได้มีน้ำใช้ในการทำการเกษตร ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นที่สืบทอดต่อกันมาแต่โบราณให้คงอยู่สืบไปชั่วลูกหลาน อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับกลุ่มคนในชุมชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรในทางที่ดีขึ้น

เปิดบันทึกอีกหนึ่งศรัทธาความเชื่อในพิธีกรรม “รำแถน” ชาวกูย ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ นับเป็นพิธีกรรมที่มีมาแต่โบราณ เชื่อกันว่าเป็นการ ...ขอขมาพญาแถน

ขอให้พญาแถน...ช่วยปกป้องคุ้มครองให้คนในชุมชนอยู่ดีกินดีมีสุข ไร้โรคภัยไข้เจ็บ

พิธีกรรมรำแถนหนุนนำให้มีแต่ความสุขความเจริญ โรคภัยไข้เจ็บใดๆไม่เบียดเบียน หรือหากคนในชุมชนเกิดเจ็บป่วยไม่สบายขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ก็จะประกอบพิธีรำแถนขับไล่สิ่งชั่วร้ายนั้นออกไป

คล้ายกับลักษณะประเพณีของการรำผีฟ้า... ปอบผีฟ้า แถบภาคเหนือนั่นเอง

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.





Thank to : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2483906
โดย รัก-ยม ,28 ส.ค. 2565 , 06:43 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ