ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศาสนาผี ศาสนาเก่าแก่ที่สุดในโลก คนนับถือมากสุดในโลก  (อ่าน 980 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




ศาสนาผี ศาสนาเก่าแก่ที่สุดในโลก คนนับถือมากสุดในโลก

คนในไทยทุกวันนี้มักอ้างตามประเพณีว่านับถือศาสนาพุทธ-ไม่นับถือศาสนาผี บางคนแสดงความรังเกียจเหยียดหยามความเชื่อผี แม้นักวิชาการจำนวนหนึ่งก็ปฏิเสธการมีอยู่จริงของศาสนาผี แต่ความจริงคนส่วนมากนับถือศาสนาผีในชีวิตประจำวัน (ควบคู่กับนับถือพราหมณ์และพุทธ เป็น “ผี-พราหมณ์-พุทธ” คือศาสนาไทย) เช่น

ศาลผีบริเวณบ้านและในวัด (คือศาลเจ้าที่และศาลพระภูมิ เรียกรวมว่า “พระภูมิเจ้าที่”) ศาลผี มี 4 เสา เรียกศาลเจ้าที่, ศาลตายาย, ศาลปู่ย่า, ศาลเพียงตา ฯลฯ ศาลพระภูมิ มีเสาเดียว (สัญลักษณ์เขาพระสุเมรุ) อยู่ในประเภทศาลผี คนปฏิบัติต่อศาลพระภูมิเหมือนศาลผี ที่สำคัญ คือ มีในไทย ไม่มีในอินเดีย

- เก็บอัฐิ ในเจดีย์, กำแพงวัด ฯลฯ สืบเนื่องจาก “ฝังศพครั้งที่ 2” ในอุษาคเนย์ ราว 2,500 ปีมาแล้ว (อินเดียเผาเสร็จโยนลงแม่น้ำคงคา ไม่มีเก็บกระดูก)

- บายศรีสู่ขวัญ มีในทุกช่วงสำคัญของชีวิตตั้งแต่เกิด (หรือก่อนเกิด) จนตาย (หรือหลังตาย) เพื่อผู้รับทำขวัญพ้นจากความวิตกกังวลหวาดกลัวหรือตกใจต่อเหตุการณ์ไม่ดีจะมีขึ้น แล้วสร้างความมั่นใจและรู้สึกมั่นคงแก่ผู้รับทำขวัญ

ทำขวัญก่อนเริ่มทำกิจกรรมอื่นๆ เรียก “บายศรีสู่ขวัญ”

- “บายศรี” คือ ข้าวขวัญ เป็นข้าวหุงชุดแรก (ด้วยกระบอกไผ่) ในเดือน 3 เซ่นผีฟ้าผีแถน ทุกวันนี้เรียก “ข้าวหลาม”
- “ทำขวัญ” หรือ “สู่ขวัญ” คือขับลำคำคล้องจอง (ปัจจุบันเรียกร่าย) มีดนตรีคลอ (โบราณใช้แคน) เกลี้ยกล่อม “ขวัญ” ให้อยู่กับ “มิ่ง” (คือร่างกายเนื้อตัวของคนนั้นๆ) เรียก “มิ่งขวัญ” เพื่อความเป็นปกติของชีวิต

@@@@@@@

ทำขวัญนาค เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาพุทธยอมรับอำนาจของศาสนาผี

- ก่อนเข้าพิธีบวชเป็นภิกษุ 1 วัน ชายคนนั้นถูกเรียกว่า “นาค” ต้องเข้าพิธีทำขวัญนาคโดยหมอขวัญ (สมัยแรกเป็นหญิง ปัจจุบันเป็นชาย)

- คำทำขวัญนาคเป็นคำคล้องจองเรียกร่าย มีเนื้อหาพรรณนาพระคุณของแม่ ด้วยการย้ำว่า เพราะแม่คลอดออกมาแล้วเลี้ยงดูจนโต นาคจึงมีโอกาสบวชเป็นภิกษุ ถ้าแม่ไม่คลอดไม่เลี้ยงดูนาคก็ไม่ได้บวช

เท่ากับศาสนาพุทธยอมรับอำนาจของศาสนาผี หรือศาสนาผีมีอำนาจเหนือศาสนาพุทธ ศาสนาผีเชื่อเรื่องขวัญ ซึ่งไม่เหมือนวิญญาณทางศาสนาพราหมณ์-พุทธ และต่างกันมาก วิญญาณในศาสนาพราหมณ์-พุทธมีดวงเดียวในมนุษย์ทุกคน เมื่อคนตายวิญญาณก็ออกจากร่างไปเกิดใหม่ในทันที ขวัญในศาสนาผีมีนับไม่ถ้วน เมื่อคนตาย แต่ขวัญไม่ตาย แล้วถูกเรียกว่า “ผี” เรื่องราวของขวัญเกี่ยวข้องกับมิ่ง, หิ่ง, แนน ฯลฯ ซึ่งยังเข้าไม่ถึง จึงไม่เข้าใจและอธิบายไม่ได้ในขณะนี้

ขวัญเป็นคำออกเสียงในภาษาไทยปัจจุบัน ซึ่งใกล้ชิดเป็นคำเดียวและความหมายเดียวกับภาษาจีนว่า หวัน (กวางตุ้ง) ฮุ้น (แต้จิ๋ว) น่าเชื่อว่าเป็นระบบความเชื่อร่วมกันมาแต่เดิม

[มีคำอธิบายอยู่ในหนังสือหลายเล่ม ได้แก่
  (1.) ไทย-จีน ของ พระยาอนุมานราชธน (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2479) พิมพ์ครั้งที่สอง พ.ศ.2505 หน้า 93,
  (2.) บทความเรื่อง “พิธีกรรมหลังความตาย มีส่งขวัญคล้ายกันทั้งไทยและจีน” ในหนังสือ “คนไท” ไม่ใช่ “คนไทย” แต่เป็นเครือญาติชาติภาษา ของ เจีย แยนจอง สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2548 หน้า 86]

คนปัจจุบันยังเชื่อถือเรื่องขวัญ แต่เข้าใจว่าเป็นวิญญาณ เมื่อมีคนตาย(บนพื้นที่สาธารณะ) จะนิมนต์พระสงฆ์เชิญวิญญาณคนตายกลับไปบ้าน แท้จริงวิญญาณออกจากร่างไปจุติแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าจุติที่ไหน? ส่วนขวัญยังอยู่ต่างมิติแต่ไม่รู้อยู่ไหน.? ดังนั้น ที่นิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีเชิญกลับบ้าน ไม่ใช่เชิญวิญญาณ แต่แท้จริงแล้วเป็นเชิญขวัญ


ศาลผีในบริเวณบ้าน มีศาลเจ้าที่และศาลพระภูมิ (ไม่รู้สถานที่และที่มาของภาพ)

ในโลก

    1. ศาสนาผีเป็นศาสนาสากลเก่าแก่ที่สุดในโลก มีครั้งแรกเมื่อโลกมีมนุษย์หลายพันปีมาแล้ว – “มนุษย์มี ศาสนาผีก็มา”
    2. ศาสนาผีเป็นที่นับถือยาวนานของคนทั้งโลก จึงมีคนนับถือมากที่สุดก่อนมีศาสนาอื่น และยังนับถือสืบเนื่องยาวนานที่สุดจปัจจุบันถึงอนาคต
    3. ศาสนาผีมีศาสนสถานขนาดใหญ่โตมโหฬารเป็นที่รู้จักกว้างขวางทั่วไปในโลก เช่น พีระมิดในอียิปต์, สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ในจีน เป็นต้น
    4. ศาสนาผียกย่องหญิงมีอำนาจเหนือชาย หญิงที่เป็นผีมีอำนาจในโลกตะวันตกถูกเรียกว่า “เทพี” ฯลฯ ส่วนโลกของไท-ไต ถูกเรียกว่า “แม่” หรือ “เจ้าแม่”


คนตาย ส่วนขวัญไม่ตาย ไม่เวียนว่ายตายเกิด แต่วิญญาณในคนตายไม่อยู่แล้ว ไปจุติแล้วที่ไหนไม่รู้ ฉะนั้นที่เชิญกันเสมอคือขวัญ ไม่ใช่วิญญาณ [หมอดูเชิญดวงวิญญาณผู้ตายมาเข้าร่างทรง ได้บอกว่าดวงวิญญาณออกมาจากหลุมแล้วยืนร้องไห้ใกล้กับหลุมไปไหนไม่ได้ ไปเกิดก็ไม่ได้ ดวงวิญญาณจึงร้องไห้อยู่แถวนั้น แม่และเครือญาติจึงทำบุญอุทิศส่วนบุญและเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน คดีฆ่าหั่นศพฝังดิน ที่ จ.ขอนแก่น พ.ศ.2560 (ภาพจาก https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_578420)]

ในไทย

    1. คนในดินแดนไทยหลายชาติพันธุ์ นับถือศาสนาผีตั้งแต่สมัยเริ่มแรกมากกว่า 3,000 ปีมาแล้ว เพราะสมัยนั้นยังไม่รู้จักอินเดียและยังไม่ติดต่ออินเดีย (แม้ในอินเดียขณะนั้นก็นับถือศาสนาผี) โครงกระดูกมนุษย์อายุหลายพันปีที่นักโบราณคดีขุดพบที่บ้านเก่า (จ.กาญจนบุรี) และที่บ้านเชียง (จ.อุดรธานี) จึงเนื่องในวัฒนธรรมทางศาสนาผีซึ่งไม่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ-พราหมณ์ ดังนั้น จะอธิบายพิธีกรรมหลังความตายเมื่อหลายพันปีมาแล้วตามแนวคิดของศาสนาพุทธ-พราหมณ์ มิได้

    2. บ้านเมืองโบราณทั่วโลกหลายพันปีมาแล้ว นับถือศาสนาผี ในไทย ชุมชนเมืองใหญ่มีคูน้ำคันดินรูปกลมรีล้อมรอบ นับถือศาสนาผีที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ราว 2,000 ปีมาแล้ว หรือ พ.ศ.500 เคยถูกนักวิชาการฝรั่งเศสเจ้าอาณานิคม อธิบายว่าสมัยนั้นไทยและอุษาคเนย์ยังเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน นับถือผีบ้าผีบอ ต้องรับศาสนาจากอินเดียจึงเติบโตเป็นบ้านเมือง แต่หลักฐานโบราณคดีที่พบต่อมาจนทุกวันนี้ยืนยันตรงข้ามว่ามีบ้านเมืองใหญ่โตนับถือศาสนาผีก่อนรับพุทธ-พราหมณ์ •


 


ขอขอบคุณ :-
ที่มา ซ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 ตุลาคม 2565
คอลัมน์ : สุจิตต์ วงษ์เทศ
เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2565
website : https://www.matichonweekly.com/column/article_617707
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ