ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หลักความเชื่อโบราณลอยเคราะห์ วันลอยกระทง ให้หมดทุกข์ หมดโศก  (อ่าน 889 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



หลักความเชื่อโบราณลอยเคราะห์ วันลอยกระทง ให้หมดทุกข์ หมดโศก

วันลอยกระทงในปีนี้ตรงกับวันที่ 8 พ.ย.2565 ตามตำราโบราณนอกจากจะขอขมาและบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังเป็นการลอยเคราะห์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ลอยหมดทุกข์โศก ขจัดโรคภัยที่เผชิญอยู่ ซึ่งต้องมีเคล็ดลับสำคัญหลายขั้นตอน

“อัมรินทร์ สุขสมัย” ผู้ศึกษาด้านโหราศาสตร์และไสยเวท กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทงตามความเชื่อพุทธศาสนาโบราณ เป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่อยู่ใต้แม่น้ำ ขณะเดียวกันไทยรับวัฒนธรรมมาจากอินเดียที่มีประเพณีลอยประทีป ส่วนอีกความเชื่อคือเป็นการบูชาพระแม่คงคาตามความเชื่อของคนสมัยก่อนที่ทำอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งต้องใช้น้ำจากแม่น้ำในการดูแลพืชผล

“บางพื้นที่เรียกประเพณีนี้ว่าลอยประทีป โดยทำฐานประทีปเป็นกรวยไปลอยไปตามสายน้ำ เป็นการบูชาสายน้ำ อีกด้านหนึ่งตามความเชื่อของคติชนเป็นการลอยเคราะห์ มีการนำเล็บ เส้นผม เศษเสื้อผ้า ของผู้ที่ต้องการสะเดาะเคราะห์ ลอยไปกับสายน้ำ”

ตามความเชื่อทางศาสนาโบราณนิยมทำกระทงเป็นรูปดอกบัว มีการบันทึกไว้ในไตรภูมิพระร่วง ว่าดอกบัวเป็นดอกไม้ชนิดแรก ที่บานพร้อมกับการเกิดขึ้นของโลกใบนี้ ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมลอยกระทงในรูปทรงดอกบัวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากแสดงถึงความบริสุทธิ์ โดยในกระทงมีเพียงดอกไม้ธูปเทียน หรือบางท้องถิ่นมีการใส่ข้าวตอก เพราะถือว่าเป็นเครื่องสักการะใช้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขณะที่การลอยกระทงตามความเชื่อของการลอยเคราะห์ จะใช้โอกาสนี้ในการทำพิธีปีละครั้งสำหรับคนที่มีเคราะห์ ด้วยการตัดเล็บ เส้นผม และชายผ้า ไปใส่ไว้ในกระทง แล้วสวดส่งเคราะห์ เพื่อฝากเคราะห์ที่กำลังเผชิญอยู่ให้ไปพร้อมกับสายน้ำ ขณะเดียวกันก็ให้เกิดความสุขร่มเย็นเหมือนกับสายน้ำ



หลักการปฏิบัติของการลอยเคราะห์ เมื่อปล่อยกระทงลงในน้ำแล้ว ต้องหันหลังเดินออกมาทันที ห้ามหันไปมอง หรือวักน้ำเพื่อให้กระทงลอยออกไปจากฝั่ง ต่างจากการลอยกระทงตามประเพณีทั่วไป ที่ปัจจุบันจะยืนดูกระทงให้ลอยไปจากฝั่ง

ในอดีตหลายพื้นที่มีการลอยเคราะห์ในวันลอยกระทง และมีข้อห้ามไม่ให้ไปเก็บกระทงของผู้ที่ลอยแล้ว เพราะในกระทงมีเคราะห์ของผู้อื่นตามความเชื่อ ซึ่งอาจส่งผลร้ายให้เกิดขึ้นกับผู้ที่ไปเก็บกระทง

ตามหลักความเชื่อโบราณการลอยเคราะห์ในวันลอยกระทง พิธีสำคัญคือต้องสวดคาถาส่งเคราะห์ เพื่อให้พิธีกรรมมีความสมบูรณ์ แต่ที่ผ่านมาหลายคนมีความเชื่อที่ผิด ในการใส่เงินลงไปในกระทง ต่างจากสมัยก่อนที่ใส่ข้าวตอก สัญลักษณ์แห่งความงอกงาม ความอุดมสมบูรณ์ และเจริญก้าวหน้าในชีวิต

การลอยกระทงเสมือนการไปทำบุญทั่วไป ควรทำใจให้บริสุทธิ์ เพราะแต่เดิมเป็นพิธีกรรมในการบูชารอยพระพุทธบาทที่จมอยู่ใต้แม่น้ำ ขณะเดียวกันเป็นการบูชาพระธาตุจุฬามณี ซึ่งเชื่อว่าสายน้ำจะนำพาแรงอธิษฐานไปสู่สรวงสวรรค์ โดยคตินี้มาจากอินเดีย ในการบูชาแม่น้ำคงคาด้วยการลอยประทีป

สำหรับทัศนคติของคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับประเพณีลอยกระทงเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เพราะหลายคนมองว่าเป็นความสนุกสนานมากกว่าจะเป็นงานบุญเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรประชาสัมพันธ์ และนำเสนอทัศนคติที่ดีงามให้กับคนรุ่นใหม่รับทราบมากขึ้น.






Thank to : https://www.thairath.co.th/scoop/culture/2543821
4 พ.ย. 2565 14:03 น. ,ไทยรัฐออนไลน์
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ