ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อานาปานสติ ๑๖ ขั้น  (อ่าน 842 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
อานาปานสติ ๑๖ ขั้น
« เมื่อ: ธันวาคม 11, 2022, 06:50:58 am »
0


อานาปานสติ ๑๖ ขั้น

"ราหุล เธอจงเจริญอานาปานสติเถิด เพราะอานาปานสติที่บุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก อานาปานสติที่บุคคลเจริญแล้วอย่างไร ทำให้มากแล้วอย่างไร จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไปสู่ป่าก็ดี ไปสู่โคนไม้ก็ดี ไปสู่เรือนว่างก็ดี นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า มีสติหายใจเข้า มีสติหายใจออก

๑. เมื่อหายใจเข้ายาวก็รู้ชัดว่า “เราหายใจเข้ายาว” เมื่อหายใจออกยาวก็รู้ชัดว่า “เราหายใจออกยาว”
๒. เมื่อหายใจเข้าสั้นก็รู้ชัดว่า “เราหายใจเข้าสั้น” เมื่อหายใจออกสั้นก็รู้ชัดว่า “เราหายใจออกสั้น”
๓. สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจออก”
๔. สำเหนียกว่า “เราระงับกายสังขารหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เราระงับกายสังขารหายใจออก”

๕. สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้ปีติหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้ปีติหายใจออก”
๖. สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้สุขหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้สุขหายใจออก”
๗. สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้จิตตสังขารหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้จิตตสังขารหายใจออก”
๘. สำเหนียกว่า “เราระงับจิตตสังขารหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เราระงับจิตตสังขารหายใจออก”

๙. สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้จิตหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เรากำหนดรู้จิตหายใจออก”
๑๐. สำเหนียกว่า “เราทำจิตให้บันเทิงหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เราทำจิตให้บันเทิงหายใจออก”
๑๑. สำเหนียกว่า “เราตั้งจิตมั่นหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เราตั้งจิตมั่นหายใจออก”
๑๒. สำเหนียกว่า “เราเปลื้องจิตหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เราเปลื้องจิตหายใจออก”

๑๓. สำเหนียกว่า “เราพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยงหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เราพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยงหายใจออก”
๑๔. สำเหนียกว่า “เราพิจารณาเห็นความคลายออกได้หายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เราพิจารณาเห็นความคลายออกได้หายใจออก”
๑๕. สำเหนียกว่า “เราพิจารณาเห็นความดับไปหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เราพิจารณาเห็นความดับไปหายใจออก”
๑๖. สำเหนียกว่า “เราพิจารณาเห็นความสละคืนหายใจเข้า” สำเหนียกว่า “เราพิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออก”

อานาปานสติที่บุคคลเจริญแล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้ ย่อมมีผลมากมีอานิสงส์มาก"

"ราหุล เมื่ออานาปานสติอันบุคคลเจริญแล้วอย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้ ลมอัสสาสะ (หายใจเข้า) ลมปัสสาสะ (หายใจออก) ครั้งสุดท้ายที่ปรากฏชัด ย่อมดับไปที่ไม่ปรากฏชัด ยังไม่ดับไป”

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสภาษิตนี้แล้ว ท่านพระราหุลมีใจยินดีชื่นชมพระภาษิต ของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล

@@@@@@@

จะเป็นได้ว่า พระศาสดาทรงสอนพระราหุลให้เจริญทั้งสมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนาไปพร้อมกันดังเช่น วิปัสสนาที่มีขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์ และตามด้วยการเจริญเมตตาภาวนาเพื่อละพยาบาท อสุภะภาวนาเพื่อละราคะ ความยินดีในกาม เป็นต้น ซึ่งพระพุทธองทรงสอนตามจริตและอุปนิสัยของพระราหุล





ขอขอบคุณ :-
ภาพ : pinterest
วิทยานิพนธ์ : ศึกษาการปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลในมหาราหุโลวาทสูตร หน้าที่ ๒๐-๒๑ โดย พระชัฏฐวีร์ อนาลโย (อนันตกลิ่น) วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ตามหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนาบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พุทธศักราช ๒๕๕๘
URL : sb.mcu.ac.th/userfiles/file/thesis/วิปัสสนาภาวนา/2558/30.pdf
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 11, 2022, 07:42:45 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ