ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บุกวัดลับย่านฝั่งธนฯ ดูงานแสดงไฟในวิหาร แล้วล้อมวงฟังประวัติศาสตร์ชุมชนผ่านหนังก  (อ่าน 850 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




บุกวัดลับย่านฝั่งธนฯ ดูงานแสดงไฟในวิหาร แล้วล้อมวงฟังประวัติศาสตร์ชุมชนผ่านหนังกลางแปลง

Summary

    สำรวจสถานที่ในเมือง แบบที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อนกับงาน UNFOLDING BANGKOK ภายใต้คอนเซปต์ HIDDEN TEMPLE วัด (ลับ) ย่านฝั่งธนฯ ในคราวนี้เราจะพาไปตะลุยวัดภุมรินทร์ราชปักษี พร้อมกิจกรรมการฉาย Projection Mapping เวิร์กช็อป และการบอกเล่าประวัติศาสตร์ชุมชน




สถานที่ที่เราจะไปเที่ยววันนี้อยู่ห่างจากบ้านเราชนิดเดินได้ แต่เชื่อไหมว่าเรากลับไม่เคยได้ยินชื่อของ ‘วัดภุมรินทร์ราชปักษี’ มาก่อน ทั้งๆ ที่เป็นวัดที่อยู่คู่พื้นที่ย่านฝั่งธนแถวบ้านเรามานานตั้งแต่ก่อนจะตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ แถมภายในวิหารก็มีภาพจิตรกรรมบอกเล่าเรื่องราวในพุทธประวัติที่สวยงาม และละเอียดลออ (มากๆ) ซึ่งสันนิษฐานกันว่าภาพเหล่านี้ถูกวาดขึ้นเมื่อครั้งมีการบูรณะวัดในสมัยรัชกาลที่ 3 ไม่เกินรัชกาลที่ 4 โดยช่างสกุลวังหน้า กลุ่มช่างที่เก่งกาจในสมัยนั้น

ทั้งๆ ที่ในความคิดของเรา คือ หากมีศิลปะที่สวยงามขนาดนี้อยู่ในวัด คงน่าจะทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จัก ใครๆ ก็คงต้องอยากมาสักการะเยี่ยมชม แต่ความจริงกลับไม่ใช่อย่างนั้น เพราะวัดภุมรินทร์ราชปักษี ไม่ได้เป็นเพียงแค่วัดที่ถูกหลงลืมจากคนในพื้นที่ หากแต่คือ ‘วัดร้าง’ ที่จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันสำคัญเท่านั้น 

การที่เราได้มาชมความสวยงามของวัดในวันนี้ ก็เพราะจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2565 สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ร่วมกับ Urban Ally และศูนย์ข้อมูลสถาปัตยกรรมไทย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เขามีการจัดงาน UNFOLDING BANGKOK ภายใต้คอนเซปต์ HIDDEN TEMPLE วัด (ลับ) ย่านฝั่งธนฯ ขึ้นมา และงานนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Colorful Bangkok 2022 ด้วย






โดยกิจกรรมภายในงานมีตั้งแต่การฉาย Projection Mapping และ Interactive Projection เวิร์กช็อปทำพวงมโหตร การแสดงดนตรีไทย การละเล่นผีลอบ หรือการละเล่นเชิงความเชื่อและจิตวิญญาณของชุมชนบางกอกน้อย รวมไปถึงตลาดเล็กๆ ให้แวะชิมอาหารในย่าน ไปจนถึงการฉายหนังกลางแปลงดูสารคดีเกี่ยวกับชุมชน และรับชมหนังฮิตอย่าง Friend Zone สิ้นสุดทางเพื่อน และแฟนฉัน

อย่างที่บอกว่าวัดแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านเรานัก พอเห็นว่ากิจกรรม Projection Mapping จะเริ่มแสดงชุดแรกตอนหกโมงเย็น เราที่ลืมคิดเรื่องการเผื่อเวลามาต่อคิวเลยออกเดินทางมาถึงวัดเวลางานเริ่มแบบพอดีเป๊ะ เลยได้รับคิวให้เข้าชมในเวลาสองทุ่มไปตามระเบียบ (แต่โชคดีที่มีคนวิ่งมาสละคิวเพราะเพื่อนมาไม่ทันพอดี เราเลยได้เข้าชมรอบแรกแบบงงๆ ใครที่อยากมาแบบกลับไม่ดึก อย่าลืมเผื่อเวลานะ การแสดงประมาณ 20 นาที เข้าชมได้ครั้งละ 15 คน)

หลังได้บัตรจากคุณพี่ใจดี นั่งรอเพียงไม่นาน คนดูแลก็ทยอยปล่อยให้ 15 คนแรกเข้าไปในตัววิหารที่มืดสนิท จากนั้นก็ค่อยๆ มีแสงต่างๆ ปรากฏมารอบๆ บริเวณ พร้อมฉายไปยังภาพจิตรกรรม และพระประธานด้านหลังบ้างบางครั้ง ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ






ศาสตราจารย์ ดร.ชาตรี ประกิตนนทการ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร อธิบายเกี่ยวกับงานครั้งนี้ไว้ว่า

“งานที่ศิลปินทำขึ้นมาจะปรากฏเป็นสัญลักษณ์สำคัญ 15 อย่าง ไล่เรียงกันมาตามเนื้อหาในพุทธประวัติ โดยสัญลักษณ์นั้นแยกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือสัญลักษณ์ภาพจิตรกรรมว่าด้วย สัตตมหาสถาน หรือสถานที่สำคัญ 7 แห่งหลังพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วได้ไปเสวยวิมุตติสุขใน 7 แห่งนั้น เช่น เมื่อพูดถึง โพธิบัลลังก์ หากสังเกตใน Projection Mapping ก็จะมีเส้นของต้นโพธิ์อยู่ด้านหลังพระประธาน หรือเมื่อพูดถึงสัปดาห์ที่มีฝนตกลงมาหนักมากแล้วมีพญานาคขึ้นมาแผ่พังพานบังฝนให้พระพุทธเจ้า ศิลปินก็จะทำเป็นเงาของพญานาคขึ้นมา”

“ส่วนที่สองในคัมภีร์โบราณเรียกว่า อัฏฐมหาสถาน หรือสถานที่สำคัญ 8 แห่งที่พระพุทธเจ้าแสดงปาฏิหาริย์ครั้งสำคัญ โดย Projection Mapping ก็จะฉายภาพเหตุการณ์สำคัญนั้นๆ ขึ้นมา เช่น ตอนที่พระพุทธเจ้าทรงทรมานช้างธนปาลหัตถี สยบช้างที่ดุร้ายให้เชื่อง ก็จะมีภาพช้างสีแดงสื่อถึงความโกรธเกรี้ยววิ่งออกมา จากนั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีของช้างเป็นสีทองแล้วค่อยๆ ยกงวงขึ้นเพื่อสื่อถึงความพุทธบูชาต่อหน้าพระพุทธเจ้า หรือในตอนที่พระพุทธเจ้าขึ้นไปโปรดพุทธมารดา ก็จะมีภาพเหมือนเทวดากำลังลอยลงมา สื่อให้เห็นว่าพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นสูงแล้วมีเทวดาต่างๆ มารอต้อนรับ หรือในช่วงการปรินิพพานตอนท้ายๆ ที่กำลังจะจบ Projection Mapping เราจะเห็นเป็นดอกไม้ร่วงลงมา ซึ่งจะตรงกับพุทธประวัติที่บอกไว้ว่าตอนพระพุทธเจ้าปรินิพพานนั้นมีดอกไม้ ใบไม้ร่วงลงมา เป็นสัญลักษณ์พุทธบูชาครั้งสุดท้าย” 






ถัดจากการชมแสงสีภายในตัววิหาร ทางด้านหลังก็มี interactive projection ที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน เป็นการฉายแสงไปยังพระพุทธรูปที่อยู่ด้านหลังวิหาร โดยที่เบื้องหน้าจะมีปุ่มให้กดดอกไม้ ซึ่งมีทั้งดอกบัว ดอกกล้วยไม้ ดอกดาวเรือง ดอกพุด ดอกบานไม่รู้โรย ดอกจำปี ดอกแก้ว ดอกเบญจมาศ และดอกเข็ม จากนั้นดอกไม้ที่เรากดก็จะปรากฏแสงขึ้นไปด้านบน เสมือนได้ส่งดอกไม้สักการะพระ เป็นจุดที่นำเทคโนโลยีมาเชื่อมกับชีวิตประจำวันของคนได้อย่างดีงาม สวยและทำให้เรารู้สึกสนุกกับการมาครั้งนี้มากๆ

เดินชมบริเวณรอบๆ งานไปได้สักพัก ส่องคนทำพวงมโหตร และฟังคุณป้าในชุมชนนั่งร้องเพลงร่วมกับวงดนตรีไทยไม่นาน บริเวณลานที่ฉายหนังกลางแปลงก็พร้อมเปิดสารคดีย่านบางกอกน้อยให้เราชม

ภายในวิดีโอสารคดี เล่าถึงประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ ผ่านการตั้งคำถามถึงลักษณะของพื้นที่ อาหารการกิน การประกอบอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ในช่วงภาวะสงคราม ไปจนถึงเรื่องลี้ลับ






คุณลุง คุณป้าในคลิปวิดีโอเล่าว่าพื้นที่บริเวณบางกอกน้อยนั้นเป็นสวนผลไม้มาก่อน มีผลไม้ขึ้นชื่อคือทุเรียน และเงาะ ชีวิตของคนแถบนี้อยู่กับสายน้ำ ในอดีตสามารถว่ายน้ำข้ามแม่น้ำกันได้สบาย เพราะน้ำยังไม่เป็นคลื่นสูง และมีเรือใหญ่มากมายอย่างในทุกวันนี้ 

ส่วนคนในชุมชนก็ประกอบไปด้วยหลายเชื้อชาติ มีชุมชนมุสลิม ประกอบอาชีพทำที่นอน คนไทยทำขนมไทย รับราชการทหารเรือ แขกฮินดู เลี้ยงวัว คนจีน เลี้ยงเป็ด ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ต่างพึ่งพาอาศัยกัน

แน่นอนว่ามาเที่ยววัดก็ต้องมีเรื่องผี คุณป้าในสารคดีเล่าสิ่งที่ทำเอาคนที่นั่งดูภาพยนตร์อยู่ร้องฮือ ด้วยการบอกว่าที่ย่านนี้ ผีดุมาก แล้วเล่าถึงการละเล่นผีลอบที่เล่นกันแค่ในวันสงกรานต์ ชวนวิญญาณปู่ย่ามาร้องเล่น เพื่อความสมัครสมานสามัคคี (ที่วัดดุสิตตารามซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน มีการสาธิตการละเล่นนี้ให้ชมกันด้วย)






แม้ว่าจากที่สังเกตคนที่มางานนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเหล่าคุณป้าที่มีอายุ ซึ่งเราเดาว่าเป็นคนในพื้นที่เอง แต่ถึงอย่างนั้นก็มีวัยรุ่นอยู่มากเช่นกัน ใครที่กำลังหาอะไรทำสุดสัปดาห์ เราอยากแนะนำให้มาที่นี่มากๆ พอได้รู้ประวัติศาสตร์ในพื้นที่ที่ตัวเองอยู่อาศัยแล้วก็สนุกขึ้นมากเลย

นอกจากวัดร้างในย่านบางกอกน้อย ในวันที่ 17-25 ธันวาคม งาน Unfolding Bangkok : Hidden Temple ก็มีการพาไปเปิดประสบการณ์วัดลับย่านฝั่งธนฯ กันต่อที่ วัดพระยาศิริไอยสวรรค์ และวัดสวนสวรรค์ แถวบางยี่ขันด้วย ติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เพจ Urban Ally นะ





Thank to :-
website : https://plus.thairath.co.th/topic/everydaylife/102546
Thairath Plus › Everyday Life 16 ธ.ค. 65
creator/Author : ปวีณ์กานต์ อินสว่าง
ฟรีแลนซ์ที่หวังจะมีของอร่อยกินในทุกวัน และมีงานทำในทุกเดือน
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ