ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อุปมา ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ดุจขอนไม้ลอยน้ำ | ทารุขันธสูตรที่ ๑  (อ่าน 843 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0





อุปมาผู้ประพฤติพรหมจรรย์ดุจขอนไม้ลอยน้ำ | ทารุขันธสูตรที่ ๑

พุทธวิธีปฏิบัติธรรม : อุปมาผู้ประพฤติพรหมจรรย์ดุจขอนไม้ลอยน้ำ
ทารุขันธสูตรที่ ๑ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๘ ข้อที่ ๓๒๒-๓๒๔
คลิกฟังได้ที่ : https://youtu.be/zE9HSn61_fc

ข้อแนะนำในการปฏิบัติ : ก่อนจะฟัง พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง เมื่อได้สมาธิดีแล้วฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง

ความยาววีดีโอ : 5:44 นาที ,เวลาปฏิบัติ : 12:00 นาที




สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำคงคา ได้ทอดพระเนตรเห็นท่อนไม้ใหญ่ท่อนหนึ่ง อันกระแสน้ำพัดลอยมาริมฝั่ง แล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า

   ดูกรภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายเห็นหรือไม่ ท่อนไม้ใหญ่โน้นอันกระแสน้ำพัดลอยมาในแม่น้ำคงคา
   ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าท่อนไม้จะไม่เข้ามาใกล้ฝั่งนี้หรือฝั่งโน้น จักไม่จมเสียในท่ามกลาง จักไม่เกยบก ไม่ถูกมนุษย์หรืออมนุษย์จับเอาไว้ ไม่ถูกน้ำวน ๆ ไว้ จักไม่เน่าในภายใน ท่อนไม้นั้นจักลอยไหลเลื่อนไปสู่สมุทรได้
   ข้อนั้นเพราะเหตุไร.?
   เพราะเหตุว่า กระแสน้ำแห่งแม่น้ำคงคาลุ่มลาดไหลไปสู่สมุทร ฉันใด

   ถ้าท่านทั้งหลายจะไม่แวะเข้าฝั่งข้างนี้หรือฝั่งข้างโน้น ไม่จมลงในท่ามกลาง ไม่เกยบก ไม่ถูกมนุษย์หรืออมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกเกลียวน้ำวน ๆ ไว้ จักไม่เป็นผู้เสียในภายในไซร้ ท่านทั้งหลายจักโน้มน้อมเอียงโอนไปสู่นิพพาน
   ข้อนั้นเพราะเหตุไร.?
   เพราะเหตุว่า สัมมาทิฐิย่อมโน้มน้อมเอียงโอนไปสู่นิพพาน ก็ฉันนั้นเหมือนกัน


   @@@@@@@

   คำว่า ฝั่งนี้ เป็นชื่อแห่ง อายตนะภายใน ๖
   คำว่า ฝั่งโน้น เป็นชื่อแห่ง อายตนะภายนอก ๖
   คำว่า จมในท่ามกลางเป็นชื่อแห่ง นันทิราคะ
   คำว่า เกยบก เป็นชื่อแห่ง อัสมิมานะ

   ก็มนุษย์ผู้จับเป็นไฉน.?
   ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้คลุกคลี เพลิดเพลิน โศกเศร้าอยู่กับพวกคฤหัสถ์ เมื่อเขาสุขก็สุขด้วย เมื่อเขาทุกข์ก็ทุกข์ด้วย ย่อมถึงการประกอบตนในกิจการอันบังเกิดขึ้นแล้วของเขา นี้เรียกว่ามนุษย์ผู้จับ

   อมนุษย์ผู้จับเป็นไฉน.?
   ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมประพฤติพรหมจรรย์ ปรารถนาเป็นเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่งว่า ด้วยศีล ด้วยวัตร ด้วยตบะ หรือด้วยพรหมจรรย์นี้ เราจักได้เป็นเทวดาหรือเทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง นี้เรียกว่าอมนุษย์ผู้จับ

   คำว่า เกลียวน้ำวน ๆ ไว้ เป็นชื่อแห่ง กามคุณ ๕

   ความเป็นของเน่าในภายในเป็นไฉน.?
   ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก ไม่สะอาด มีความประพฤติน่ารังเกียจ มีการงานปกปิดไว้ ไม่เป็นสมณะ ก็ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ ไม่เป็นพรหมจารี ก็ปฏิญาณว่าเป็นพรหมจารี เป็นผู้เน่าในภายใน มีใจชุ่มด้วยกาม เป็นดุจขยะมูลฝอย นี้เรียกว่าความเป็นผู้เน่าในภายใน





Thank to : https://uttayarndham.org/buddhology/6201/อุปมาผู้ประพฤติพรหมจรรย์ดุจขอนไม้ลอยน้ำ-ทารุขันธสูตรที่-๑
ทารุขันธสูตรที่ ๑ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๘ ข้อที่ ๓๒๒-๓๒๔
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ