ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: I can buy myself flowers หลังห่าฝนแห่งความรัก ดอกไม้ที่ซื้อให้ตัวเองจะงามที่สุด  (อ่าน 907 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




I can buy myself flowers หลังห่าฝนแห่งความรัก ดอกไม้ที่ซื้อให้ตัวเองจะงามที่สุดเสมอ

Summary

     • ล้ม-ลุก-ทุกข์-cry คือคอลัมน์ว่าด้วยความทุกข์และความแซดในสังคมสมัยใหม่ เขียนโดย ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์ กองบรรณาธิการไทยรัฐพลัส ผู้มีขวบวัยอยู่ในกลุ่มก้อนที่ใครๆ ก็เรียกว่าเป็น ‘Sad Generation’ แต่กลับเชื่ออย่างยิ่งว่าพวกเราต่างล้ม พร้อมๆ กับที่พยายามลุก และเมื่อทุกข์ เราก็แค่ Cry

     • สัปดาห์นี้ว่าด้วยคำที่พูดง่ายแต่บางครั้งทำยาก อย่างการ ‘รักตัวเอง’ คล้องจองไปกับ ‘Flowers’ เพลงฮิตเพลงใหม่ของ ไมลีย์ ไซรัส ที่ย้ำเตือนว่าเราสามารถซื้อดอกไม้ และมอบความรักให้ตัวเองได้ดีกว่าใคร และบางทีการรักตัวเองนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไร้ที่ติ แต่อาจตั้งต้นจากห่าฝนแห่งความรักได้เหมือนกัน



Mmm, I didn’t wanna leave you, I didn’t wanna lie
Started to cry, but then remembered I
ฉันไม่ได้อยากจะทิ้งเธอไป ไม่ได้อยากจะโกหกเลย
ฉันเริ่มที่จะร้องไห้ออกมา แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าฉันน่ะ..

I can buy myself flowers
Write my name in the sand
ฉันซื้อดอกไม้ให้ตัวเองก็ได้นี่
หรือเขียนชื่อของฉันเองลงไปบนผืนทราย

ช่วงที่ผ่านมาเพลง Flowers ของนักร้องสาว ไมลีย์ ไซรัส ไต่ขึ้นชาร์ตอย่างรวดเร็วน่าอัศจรรย์ใจ เนื้อหาของเพลงทำให้หลายคนย้อนนึกถึงการเลิกราระหว่างตัวเธอและอดีตสามี เลียม เฮมส์เวิร์ท จนเกิดการขุดโมเมนต์ต่างๆ ในอดีตออกมา ‘ระลึกถึง’  กันให้แซ่ด

และอาจเป็นพลัง ความเป็นอิสระ ความมั่นใจของไมลีย์ที่ส่งผ่านมาพร้อมบทเพลง ที่ทำให้ Flowers กลายเป็นบ่อพลังความรักตัวเองขนาดใหญ่ ที่แฟนๆ สามารถจุ่มขาลงไปตักตวงได้ในระยะเวลา 3 นาที 20 วินาที


@@@@@@@

ฉันเองก็ตกเป็นทาสของเพลงนี้เช่นกัน  -- “ช่วงนี้ Manifest ตัวเองด้วยเพลง Flowers ว่ะ”  ฉันบอกเพื่อนไปอย่างนั้น เมื่อพบว่าตัวเองเปิดเพลงนี้ฟังเป็นร้อยๆ รอบ และรู้ดีว่าไม่ใช่แค่ตัวฉันเท่านั้น ในชีวิตของเราๆ การหาบ่อพลังความรักตัวเองให้พบเป็นเรื่องสำคัญเสมอ

แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกที่เราจะตระหนักว่า ฉันก็ซื้อดอกไม้ให้ตัวเองได้ ฉันสามารถเขียนชื่อตัวเองลงไปบนผืนทรายโดยไม่มีชื่อของใครอีกคน ส่วนหนึ่งอาจเพราะความรักเป็นสิ่งที่เราวิ่งตามเสมอ ทำไมจะไม่ล่ะ ก็มันออกจะหอมหวาน!

ดอกไม้ที่ได้จากใครบางคน แม้จะเป็นช่อที่ถูกจัดมาเห่ยๆ แค่ไหน มันก็หอมชื่นใจ และในหาดทรายสีขาวครีม ยามตะวันตกดินที่มีแดดโทนอุ่นไล้ผืนน้ำ มันก็สวยพิลึกถ้ามีใครสักคนเคียงข้างกัน

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าช่วงเวลาเหล่านั้น ก็คือยามที่ไม่มีช่วงเวลาเหล่านั้นนี่เอง เราตระหนักถึงความสุขจากตัวเองได้อย่างที่ไมลีย์ทำหรือเปล่า ได้เพียงสักครึ่งหนึ่งไหม หากเราอยู่ในห่าฝนและลมกระโชกของสิ่งที่เรียกว่าความรัก

@@@@@@@

Talk to myself for hours
Say things you don’t understand
คุยกับตัวเองเป็นชั่วโมงก็ได้ด้วย
และพูดในสิ่งที่เธอไม่เข้าใจ

I can take myself dancing
And I can hold my own hand
ฉันสามารถพาตัวเองเต้นรำ
จับมือของตัวเองไว้

บางครั้งความรักเป็นรางวัลที่หนึ่ง แต่บางครั้งก็เป็นเลขที่ไม่ตรงกับลอตเตอรี่ในมือ แถมการผิดหวังจากความรักก็เล่นงานคนไม่เลือกหน้า ไม่ว่าสวยหล่อ เก่งเฉียบ เข้มแข็งทรงพลังขนาดไหน เราย่อมมีช่วงเวลาที่พังไม่เป็นท่าเพราะมันอยู่บ้าง

หากคุณเป็นคนที่รักตัวเองได้เก่งอย่างยิ่งยวด สามารถตัดขาดจากความรักในทันทีที่มันเป็นพิษ หรือตบไหล่ตัวเองแล้วมูฟออนได้ไวเป็นเส้นตรง (ไม่ใช่วงกลม) ฉันขอยกแก้วดื่มให้ด้วยใจยินดี

แต่ผู้คนอีกมากที่ฉันได้พบนั้น รักตัวเองเก่ง และไม่เก่งพอๆ กัน

@@@@@@@

พูดง่ายๆ คือความรักตัวเองไม่ได้เป็นสีขาวดำ มันอาจเป็นอุดมคติที่ดูสวยหรูแข็งแกร่ง แต่ในความเป็นจริงนั้นกลับทุลักทุเลเสมอ ฉันเห็นมานักต่อนัก คุณเองก็เหมือนกันใช่ไหมคะ

เพื่อนเกย์คนหนึ่งของฉันเป็นคนที่ดูแลตัวเองเก่งมาก รักษาหุ่นแซ่บๆ ราวมีขนมปังแถวแปะตรงหน้าท้องได้ดีเลิศ เขาตื่นเช้า ออกไปวิ่ง รบราฆ่าฟันกับอุปสรรคการงาน กลับมาถ่ายเซลฟี่หน้ากระจกได้ภาพปังๆ ยามเย็น พร้อมกับมีหนุ่มๆ ให้จิ๊จ๊ะด้วยไม่เคยขาด เป็นคนประคองสมดุลชีวิตได้เก่งแบบที่หลายคนอิจฉา

แต่บางครั้งก็เป็นเขาอีก ที่ไม่รู้จะเอายังไงกับความรัก ปล่อยตัวเองยืนอยู่ท่ามกลางพายุอย่างสับสน และในเวลาแบบนั้นฉันก็รู้ดีว่า ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร สุดท้ายแล้วต้องปล่อยให้เวลาค่อยๆ เร่งความรักตัวเอง ยุยงให้เขาเริ่มกางร่ม แล้วออกหาที่กำบังพายุเสีย

“อีกรสชาติความเป็นผู้ใหญ่ คือการอกหักแล้วยังต้องเก็บให้มิดไงล่ะ”  ฉันได้ยินประโยคนี้จากรุ่นพี่คนหนึ่ง ที่เล่าว่าคนบางคนอาจดูแข็งแกร่ง แบกถือความรับผิดชอบไว้อย่างมืออาชีพ มีรอยยิ้มส่งเป็นกำลังใจให้คนอื่นเสมอ ทั้งที่เขาอาจเจ็บหนักมาเช่นกัน ไม่ว่าจะเปิดเปลือยบาดแผลให้คนอื่นเห็น หรือต้องแอบเลียแผลเงียบๆ ชีวิตมีจังหวะที่คนเราจะดูไม่เท่เอาเสียเลย และช่วงเวลาแบบนี้ความรักตัวเองก็ไม่ได้ขุดกันขึ้นมาง่ายๆ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้หมายความเราไม่มีมันอยู่

ฉันว่าไมลีย์ในเพลง Flowers ก็คงเหมือนกัน หลังจากเลิกรากับเลียม กลับมาแต่งงานกัน และสุดท้ายก็หย่าขาด คงมีหลายจังหวะเวลาที่ไมลีย์ไม่สามารถเต้นสะบัด เดินสับขาบนส้นสูง อย่างที่เราเห็นในมิวสิกวิดีโอ แต่อย่าลืมว่า สุดท้ายก็เป็นเธอนี่แหละ ที่ปล่อยเพลง Flowers ออกมาให้เราได้ฟังและเขียนถึงในวันนี้

@@@@@@@

นี่แหละมั้งความรักตัวเอง ไม่สมบูรณ์แบบ ร่ำร้องเสียสติ แต่ก็กลับมายืนหยัดสะบัดผมได้ในที่สุด

    "ไม่ว่าจะเปิดเปลือยบาดแผลให้คนอื่นเห็น หรือต้องแอบเลียแผลเงียบๆ ชีวิตมีจังหวะที่คนเราจะดูไม่เท่เอาเสียเลย และช่วงเวลาแบบนี้ความรักตัวเองก็ไม่ได้ขุดกันขึ้นมาง่ายๆ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้หมายความเราไม่มีมันอยู่"

Yeah, I can love me better than you can
ใช่ ฉันสามารถรักตัวเองได้มากกว่าที่เธอจะรักเสียอีก

วิธีการกลับมารักตัวเองของแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน บางคนต้องผ่านการร่ำสุรา ให้ฤทธิ์มึนเมาพาหลับหลงในวังวนรัก แล้วค่อยฟื้นอีกครั้งเมื่อมันเจือจาง พอได้เห็นสภาพเหนื่อยอ่อนของตัวเองในยามเช้า อาจมีสักวันที่บอกตัวเองว่า ไม่เอาละ ฉันขอสร่างจากการรักคนอื่นดีกว่า

บางคนเลือกการแต่งตัวเก๋ ประโคมประทินโฉมตัวเองแบบจัดเต็ม ปาดลิปสติกสีเก่งลงบนปาก พรมน้ำหอมเย้ายวนอีกนิด แล้วยิ้มอย่างผู้ชนะในกระจก -- สวยขนาดนี้ จะไม่รักตัวเองได้อย่างไร

บางคนอาศัยเสียงของผู้คนรอบข้าง ที่ย้ำเตือนว่าเรามีความหมายกับพวกเขาแค่ไหน และในสายตาของพวกเขา เราเยี่ยมยอดอย่างไร จึงไม่ควรคู่กับน้ำตา เสริมทัพด้วยกอดอบอุ่นของคนที่เรารัก แค่นั้นก็เพียงพอ

@@@@@@@

หรือดูนักร้องสาวทรงพลัง พ่วงตำแหน่งแม่ค้าเครื่องสำอางแห่งยุคอย่าง ริฮานน่า เมื่อถูกถามว่า “คุณทำยังไงในวันที่รู้สึกไม่มั่นใจ ไม่ทรงพลังเอาเสียเลย”

เธอก็ตอบอย่างง่ายๆ ว่า “เอ่อ...เสแสร้งเอาสิ”
“เฟกเอาเหรอ จนกว่าคุณจะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ น่ะเหรอ” คนสัมภาษณ์ถามย้ำ
“เออสิ ทำไมจะไม่ล่ะ” ริฮานน่าตอบพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ

เห็นไหม มีหลายวิธีในการทำสิ่งซึ่งนามธรรมสุดๆ อย่างการรักตัวเอง บางทีมันก็คล้ายกับการปลอบใจตัวเอง บางครั้งมันคล้ายกับการเสแสร้งให้ตัวเองค่อยๆ เชื่อเช่นนั้น แต่ท่ามกลางวิธีการมากมาย ฉันว่าหนึ่งวิธีที่ทรงพลังที่สุด ก็คือการระลึกถึงยามที่เราร้องไห้ ยามที่เรามัวเมาด้วยเบียร์แก้วแล้วแก้วเล่า ยามที่เราปกปิดความโทรมของจิตใจและร่างกายไม่ไหว

บางครั้งเราก็แค่ต้องจดจำตัวเองยามพลัดตกจากความสัมพันธ์ จำใบหน้าของใครอีกคนที่ผลักให้เรายืนท่ามกลางพายุและห่าฝน หรือทำให้เราต้องกลั้นใจออกไปทำงาน เก็บกอดความเจ็บช้ำไว้ข้างใน และต้องกลับมาตั้งคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าการรักตัวเองคืออะไร และทำอย่างไรกันแน่ -- ฉันว่าการระลึกเช่นนี้ เป็นอีกวิธีที่จะค่อยๆ ดึงความรักตัวเองกลับมา หรือจะเรียกว่าเริ่มนับหนึ่งเรียนรู้มันใหม่อีกครั้งก็ได้

@@@@@@@

จริงอยู่ เราไม่จำเป็นต้องผ่านความเจ็บช้ำเพื่อให้รักตัวเอง ถ้าเลือกได้ ใครๆ ก็อยากจะรักตัวเองตั้งแต่ต้น บอกตัวเองได้ตั้งแต่แรกว่าฉันมีคุณค่า และไม่คู่ควรกับความสัมพันธ์ห่าเหวทุกชนิด แต่ถ้าเราทำเช่นนั้นยังไม่ได้ ก็ไม่เห็นเป็นไรที่จะจุ่มตัวเองลงในความเศร้าสักพัก ก่อนที่จะเปลี่ยนไปแช่บ่อแห่งการรักตัวเองภายหลัง

เมื่อเรายืนไหว ก็ค่อยออกไปซื้อดอกไม้ ตะโกนร้องเพลงของไมลีย์ไปด้วยกัน 

พร้อมนะคะทุกคน 1 2 3...
“ไอแคนบายมายเซลฟ์ฟลาวเว้ออออออออร์”




Thank to : https://plus.thairath.co.th/topic/spark/102721#aWQ9NjI3ZTBiNDU1ZWMxOGEwMDEyODliZWY0JnBvcz0wJnJ1bGU9MA==
Thairath Plus › Spark › Opinion › Lifestyle | 28 ม.ค. 66 : creator : ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ