ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จัก "ก๊าซเรือนกระจก" ตัวการ "ภาวะโลกร้อน"  (อ่าน 931 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0





รู้จัก "ก๊าซเรือนกระจก" ตัวการ "ภาวะโลกร้อน"

มนุษย์อย่างเรา เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ "ก๊าซเรือนกระจก"

ปรากฏการณ์ "ก๊าซเรือนกระจก" คือ

ก๊าซเรือนกระจก ประกอบด้วยก๊าซหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ไนตรัสออกไซด์ ซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์ โอโซน สารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน และฮาโลคาร์บอน ซึ่งก๊าซเหล่านี้จะมีหน้าที่เก็บกักรังสีความร้อนจากผิวโลก แล้วคายรังสีความร้อนนั้นกลับลงมา ทำให้อุณหภูมิบนผิวโลกร้อนขึ้นกว่าเดิม เปรียบเหมือนกระจกที่สะท้อนรังสีความร้อนไม่ให้ออกไปจากโลก จึงเรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก (greenhouse effect) และเรียกการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เข้าใจง่ายว่า การปล่อยคาร์บอน (carbon emission)

@@@@@@@

"ก๊าซเรือนกระจก" มาจากไหน.?

นายอภิสิทธิ์ เสนาวงค์ นักวิชาการชำนาญการพิเศษ สำนักรับรองคาร์บอนเครดิต องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หากหลายคนยังมองว่า ก๊าซเรือนกระจก ตัวการที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนนั้นเป็นเรื่องไกลตัว แต่อยากให้รู้เลยว่า "มนุษย์" อย่างเราก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกิด "ก๊าซเรือนกระจก" ได้เหมือนกัน เพราะมนุษย์ คือ ตัวการที่ปล่อยคาร์บอนฯ ออกสู่ชั้นบรรยากาศ

โดย "ก๊าซเรือนกระจก" เปรียบเสมือนฟิล์มที่ห่อหุ้มโลก ลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศบางๆ มีหน้าที่กรองแสงอาทิตย์ไม่ให้รังสีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ลงมาสู่โลกมากเกินไป ขณะเดียวกันก็ช่วยให้โลกมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการอาศัยอยู่ของสิ่งมีชีวิต แต่ถ้ามี "ก๊าซเรือนกระจก" มากเกินไปก็จะทำให้โลกอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ที่เราเรียกว่า "ภาวะโลกร้อน" กระทั่งเกิดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต

แต่ถ้าถามว่า โลกเราไม่ควรมีคาร์บอนฯ ในชั้นบรรยากาศเลยจะดีไหม? นายอภิสิทธิ์ อธิบายว่า ไม่ เพราะจะไม่มีชั้นบรรยากาศที่กรองรังสีอันตรายจากดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมายังโลก และที่ไม่ดีไปกว่านั้น ถ้าเราไม่มีก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศเลย กลางวันเราจะร้อนมาก และกลางคืนก็จะหนาวมาก

ทั้งนี้ ก๊าซเรือนกระจก มีทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (Natural Greenhouse Gas) เช่น ไอน้ำ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการหายใจของสิ่งมีชีวิต เป็นต้น

และก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์สร้างขึ้น (Anthropogenic Greenhouse Gas) เช่น ก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ถ่านหินในกระบวนการการผลิตไฟฟ้า การเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์ กระบวนการหมักของจุลินทรีย์จากน้ำในนาข้าว กระบวนการในภาคอุตสาหกรรม สารทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศ แอร์รถยนต์ และระบบทำความเย็นในอาคาร เป็นต้น

ดังนั้น อยากให้ตระหนักไว้ว่า มนุษย์ ตัวเล็กๆ อย่างเรานี่แหละที่ช่วยทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถ ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ การสร้างขยะ ฯลฯ

@@@@@@@

ก๊าซเรือนกระจก ทำให้ "โลกร้อน" ขึ้นจริงหรือ

มีหลักฐานและปรากฏการณ์มากมายที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้ร่วมกันศึกษา ติดตาม และวิจัย จนยืนยันได้ว่าภาวะโลกร้อนกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ

นายอภิสิทธิ์ อธิบายว่า หลักฐานที่บ่งบอกว่าโลกร้อนขึ้นคือ ก๊าซเรือนกระจกในอากาศเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ โดย 8 พันกว่าปีก่อน คาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศมีอยู่ประมาณ 300 PPM (PPM คือ 1 ส่วนในล้านส่วน) แต่ 100 กว่าปีที่ผ่านมามันเพิ่มจาก 300 PPM มาอยู่ที่ 419 PPM แม้จะยังไม่ทำให้ใครตาย แต่ก็ทำให้หลายคนตระหนักถึงคำว่าโลกร้อน เพราะมีทฤษฎีที่บอกไว้ว่า หากมีคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศเกิน 450 PPM จะทำให้โลกวิบัติ สิ่งมีชีวิตจะอยู่ไม่ได้แล้ว

นอกจากนี้ สมัยก่อนอุณหภูมิเฉลี่ยจะไม่เกิน 1 องศาฯ แต่ในช่วงไม่ถึง 100 ปี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 1.1 องศาฯ เหมือนจะเล็กน้อย แต่หลายคนรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิความร้อนในบ้านเราเพิ่มมากขึ้น ดังเช่นเมื่อช่วงปลายเมษายน 2566 ที่เกิดคลื่นความร้อนปกคลุมเอเชีย และสุดท้าย น้ำแข็งขั้วโลกที่ละลาย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1-2 องศาฯ แต่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นอาจไม่สมดุลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม่ หรือการเกิดของสิ่งมีชีวิต โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่าสิ่งมีชีวิตกว่าร้อยละ 30 เผชิญความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ผลผลิตข้าวและธัญพืชอาจลดลง มนุษย์ในฐานะที่ต้องพึ่งระบบนิเวศและอาหาร ก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย

นอกจากนี้ ภาวะโลกร้อน ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทำให้อากาศแปรปรวนไปจากเดิม และมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น.





Thank to : https://www.thairath.co.th/news/sustainable/2706884
6 ก.ค. 2566 09:00 น. | ไทยรัฐออนไลน์
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ