ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ภิกษุไม่พึงทำงานก่อสร้างให้มาก | พึงเว้นห่างหมู่ชน ไม่พึงขวนขวายเพื่อประจบสกุล  (อ่าน 875 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0







มหากัจจายนเถรคาถา ว่าด้วย คาถาสุภาษิตของพระมหากัจจายนเถระ

เหตุการณ์ : ภาษิตของพระมหากัจจายนเถระ ท่านพระมหากัจจายนะกล่าวสอนพระภิกษุทั้งหลาย ว่าดังนี้

    ภิกษุไม่ควรทำการงานให้มาก ควรหลีกเร้นหมู่ชน ไม่ควรขวนขวายเพื่อยังปัจจัยให้เกิด
    ภิกษุผู้ติดรสอาหาร ภิกษุนั้นชื่อว่าเป็นผู้ขวนขวายเพื่อยังปัจจัยให้เกิด และชื่อว่าละทิ้งประโยชน์อันจะนำความสุขมาให้

    การไหว้การบูชาในสกุลทั้งหลาย เป็นเปือกตม ละได้ยาก
    ไม่ควรแนะนำสัตว์อื่นให้ทำกรรมอันเป็นบาปและไม่พึงส้องเสพกรรมนั้นด้วยตนเอง

    คนเราย่อมไม่เป็นโจรหรือเป็นมุนีเพราะคำของบุคคลอื่น บุคคลรู้จักตนเองว่าเป็นอย่างไร เทพเจ้าทั้งหลายก็รู้จักบุคคลนั้น ว่าเป็นอย่างนั้น
    พวกใดรู้ตัวว่าจักพากันไปสู่มัจจุราช ความทะเลาะวิวาทย่อมระงับไปเพราะพวกนั้น

    บุคคลผู้มีปัญญาถึงจะสิ้นทรัพย์ก็ยังเป็นอยู่ได้ ผู้มีปัญญาถึงมีตาดี ก็ทำเหมือนคนตาบอด ถึงมีหูดีก็ทำเป็นดังคนหูหนวก ถึงมีปัญญาก็ทำดังคนใบ้ ถึงมีกำลังก็ทำเป็นดังคนทุรพล แต่เมื่อประโยชน์เกิดขึ้น ถึงจะนอนอยู่ในเวลาใกล้ตาย ก็ยังทำประโยชน์นั้นได้


 


ขอขอบคุณ :-
อ้างอิง : มหากัจจายนเถรคาถา พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๖ ข้อที่ ๓๖๖
URL : https://uttayarndham.org/node/2258





 :25:

อีกสำนวนหนึ่ง....

๑. มหากัจจายนเถรคาถา ภาษิตของพระมหากัจจายนเถระ

(พระมหากัจจายนเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า)

[๔๙๔] ภิกษุไม่พึงทำงานก่อสร้างให้มาก(๑-) พึงเว้นห่างหมู่ชน ไม่พึงขวนขวายเพื่อประจบสกุล ภิกษุผู้ขวนขวายนั้นชื่อว่าติดในรส ย่อมละทิ้งประโยชน์ที่จะนำความสุขมาให้

[๔๙๕] ด้วยว่านักปราชญ์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ได้กล่าวการไหว้และการบูชาในตระกูลทั้งหลายว่า เป็นเปือกตม เป็นลูกศรอันแหลมคมซึ่งถอนขึ้นได้ยาก เป็นสักการะที่คนชั่วละได้ยาก

[๔๙๖] ภิกษุไม่พึงแนะนำให้คนอื่นกระทำกรรมชั่ว และไม่พึงส้องเสพกรรมชั่วนั้นเสียเอง เพราะสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

[๔๙๗] คนเราจะเป็นโจรเพราะคำพูดของผู้อื่นก็หาไม่ จะเป็นมุนีเพราะคำพูดของผู้อื่นก็หาไม่ และบุคคลรู้จักตนเองว่าเป็นอย่างไร แม้เทพทั้งหลายก็รู้จักเขาว่าเป็นอย่างนั้น

[๔๙๘] พวกอื่นย่อมไม่รู้ว่า พวกเราย่อยยับอยู่ในโลกนี้ บรรดาชนเหล่านั้น ชนเหล่าใดรู้แจ้งอยู่ ความทะเลาะวิวาทกันย่อมระงับได้จากสำนักของคนเหล่านั้น

[๔๙๙] ผู้มีปัญญาถึงจะสิ้นทรัพย์ ก็เป็นอยู่ได้ ส่วนคนมีทรัพย์ แต่ไม่มีปัญญา ก็เป็นอยู่ไม่ได้
             
[๕๐๐] บุคคลย่อมได้ยินเสียงทุกอย่างด้วยหู ย่อมเห็นรูปทุกอย่างด้วยตา ส่วนนักปราชญ์ไม่พึงละทิ้งทุกอย่างที่ได้เห็น ที่ได้ยิน

[๕๐๑] ผู้เป็นปราชญ์นั้นถึงมีตาดี ก็พึงทำเป็นเหมือนคนตาบอดถึงมีหูดี ก็พึงทำเป็นเหมือนคนหูหนวก ถึงมีปัญญา ก็พึงทำเป็นเหมือนคนใบ้ ถึงมีกำลัง ก็พึงทำเป็นเหมือนคนอ่อนแอ ครั้นเมื่อประโยชน์เกิดขึ้นแล้ว ถึงจะนอนในเวลาใกล้จะตาย ก็ยังทำประโยชน์ให้สำเร็จได้


เชิงอรรถ : (๑-) ไม่พึงเริ่มงานก่อสร้างใหม่ ที่ใหญ่ เช่นการสร้างวัดใหม่เป็นต้น ซึ่งขัดต่อการบำเพ็ญสมณธรรม แต่งานปฏิสังขรณ์เสนาสนะที่ทรุดโทรม ซึ่งใช้ความพยายามเล็กน้อย ควรทำแท้ เพื่อปฏิบัติบูชาพระดำรัสของพระศาสดา (ขุ.เถร.อ. ๒/๔๙๔/๑๖๔)



ที่มา : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
website : https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=26&siri=366
ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ : http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=366
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2023, 07:51:41 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ