« เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2023, 05:41:14 am »
0
.
ถ้าอยากให้สุข...เราก็ต้องทุกข์โดย มงคล | 21 มี.ค. 2554ความทุกข์มักมาก่อนความสุขเสมอ ทุกๆคนจึงต้องอดทนเพื่อความสบาย เหมือนบรรพบุรุษของเราที่สละเลือด เนื้อ ชีวิต เพื่อความสะดวกสบายของลูกหลานไทย แต่บางคนก็ขี้เกียจ ไม่ยอมทำงานจนในที่สุดก็เป็นขอทาน แต่ถ้าใครขยันหากเป็นคนจนก็สามารถรวยขึ้นได้ หากรวยอบู่แล้วก็สามารถที่จะรวยๆขึ้นได้อีก
บางคนนั้นไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังยืนอยู่บนซากเนื้อ ซากกระดูกของบรรพบุรุษไทยของเรา ที่ยอมสละชีวิตเพื่อบ้านเมืองเพื่อความสบายของลูกหลานไทย เราจึงต้องขยันรักษาบ้านเมือง ตัวเอง และผู้อื่น เพื่อชาติเราจะได้มีความสุข สมกับที่บรรพบุรุษเราเคยสละมา
ความเห็น #1 / pituckch / 22 มี.ค. 2554 เวลา 20:32 น.
เห็นด้วยเลยครับว่าก่อนที่เราจะมีความสุขมันก็ต้องมีความทุกข์ก่อนแต่รวมๆแล้วจะทุกข์ซะมากกว่าสุขครับ ความสุขอันเกิดจาก รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ต่างๆเหล่านี้เป็นความสุขชั่วคราวครับเป็นของไม่เที่ยงเดียวก็กลับมาทุกข์ใหม่
ความเห็น #2 / มงคล / 23 มี.ค. 2554 เวลา 16:26 น.
ถูกแล้ว ความสุขในธรรมสิ สุขมากกว่าหลายเท่าแถมยังสุขยั่งยืนด้วย
ความเห็น #3 / หิ่งห้อยน้อย / 17 เม.ย. 2554 เวลา 14:46 น.
ดูกรจุนทะ การประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุข ๔ ประการเหล่านี้ ย่อมเป็นไป
เพื่อความหน่าย
เพื่อความคลายกำหนัด
เพื่อความดับ
เพื่อความสงบระงับ
เพื่อความรู้ยิ่ง
เพื่อความตรัสรู้
เพื่อพระนิพพาน โดยส่วนเดียว , ๔ ประการเป็นไฉน.??
@@@@@@@
ดูกรจุนทะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่ ข้อนี้ เป็นการประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุขข้อที่ ๑
ดูกรจุนทะ ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายในเป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะวิตกวิจารสงบ ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ ข้อนี้เป็นการประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุขข้อที่ ๒
ดูกรจุนทะ ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุมีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยกายเพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยะเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขอยู่ ข้อนี้เป็นการประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุข ข้อที่ ๓
ดูกรจุนทะ ก็ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ ข้อนี้เป็นการประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุขข้อที่ ๔
@@@@@@@
ดูกรจุนทะ การประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุข ๔ ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นไป
เพื่อความหน่าย
เพื่อความคลายกำหนัด
เพื่อความดับ
เพื่อความสงบระงับ
เพื่อความรู้ยิ่ง
เพื่อความตรัสรู้
เพื่อพระนิพพาน โดยส่วนเดียว
จากพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=11&item=115&items=2&preline=0
เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
ขอบคุณที่มา :
http://www.dhammathai.org/kaveedhamma/dbview.php?No=110