ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าอยากให้สุข...เราก็ต้องทุกข์  (อ่าน 914 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ถ้าอยากให้สุข...เราก็ต้องทุกข์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2023, 05:41:14 am »
0
.



ถ้าอยากให้สุข...เราก็ต้องทุกข์
โดย มงคล | 21 มี.ค. 2554

ความทุกข์มักมาก่อนความสุขเสมอ ทุกๆคนจึงต้องอดทนเพื่อความสบาย เหมือนบรรพบุรุษของเราที่สละเลือด เนื้อ ชีวิต เพื่อความสะดวกสบายของลูกหลานไทย แต่บางคนก็ขี้เกียจ ไม่ยอมทำงานจนในที่สุดก็เป็นขอทาน แต่ถ้าใครขยันหากเป็นคนจนก็สามารถรวยขึ้นได้ หากรวยอบู่แล้วก็สามารถที่จะรวยๆขึ้นได้อีก

บางคนนั้นไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังยืนอยู่บนซากเนื้อ ซากกระดูกของบรรพบุรุษไทยของเรา ที่ยอมสละชีวิตเพื่อบ้านเมืองเพื่อความสบายของลูกหลานไทย เราจึงต้องขยันรักษาบ้านเมือง ตัวเอง และผู้อื่น เพื่อชาติเราจะได้มีความสุข สมกับที่บรรพบุรุษเราเคยสละมา




ความเห็น #1  / pituckch / 22 มี.ค. 2554 เวลา 20:32 น.

เห็นด้วยเลยครับว่าก่อนที่เราจะมีความสุขมันก็ต้องมีความทุกข์ก่อนแต่รวมๆแล้วจะทุกข์ซะมากกว่าสุขครับ ความสุขอันเกิดจาก รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ต่างๆเหล่านี้เป็นความสุขชั่วคราวครับเป็นของไม่เที่ยงเดียวก็กลับมาทุกข์ใหม่




ความเห็น #2  / มงคล / 23 มี.ค. 2554 เวลา 16:26 น.

ถูกแล้ว ความสุขในธรรมสิ สุขมากกว่าหลายเท่าแถมยังสุขยั่งยืนด้วย




ความเห็น #3  / หิ่งห้อยน้อย / 17 เม.ย. 2554 เวลา 14:46 น.

ดูกรจุนทะ การประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุข ๔ ประการเหล่านี้ ย่อมเป็นไป
    เพื่อความหน่าย
    เพื่อความคลายกำหนัด
    เพื่อความดับ
    เพื่อความสงบระงับ
    เพื่อความรู้ยิ่ง
    เพื่อความตรัสรู้
    เพื่อพระนิพพาน โดยส่วนเดียว , ๔ ประการเป็นไฉน.??

@@@@@@@

ดูกรจุนทะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่ ข้อนี้ เป็นการประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุขข้อที่ ๑

ดูกรจุนทะ ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายในเป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะวิตกวิจารสงบ ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ ข้อนี้เป็นการประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุขข้อที่ ๒

ดูกรจุนทะ ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุมีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยกายเพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยะเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขอยู่ ข้อนี้เป็นการประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุข ข้อที่ ๓

ดูกรจุนทะ ก็ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ ข้อนี้เป็นการประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุขข้อที่ ๔

@@@@@@@

ดูกรจุนทะ การประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุข ๔ ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นไป
    เพื่อความหน่าย
    เพื่อความคลายกำหนัด
    เพื่อความดับ
    เพื่อความสงบระงับ
    เพื่อความรู้ยิ่ง
    เพื่อความตรัสรู้
    เพื่อพระนิพพาน โดยส่วนเดียว


จากพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=11&item=115&items=2&preline=0


           เจริญในธรรม เจ้าค่ะ







ขอบคุณที่มา : http://www.dhammathai.org/kaveedhamma/dbview.php?No=110
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ