« เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2023, 08:55:20 am »
0
.
ความรู้จักพอ เป็นทรัพย์อย่างยิ่งท่านผู้อ่านที่เคารพ ในเทศกาลปีใหม่เช่นนี้ ใครๆ ก็ขอพรให้ร่ำรวยและมีความสุข นับว่าความสุขและความมีทรัพย์
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ในเทศกาลปีใหม่เช่นนี้ ใครๆ ก็ขอพรให้ร่ำรวยและมีความสุข นับว่าความสุขและความมีทรัพย์เป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่งของคนทั้งหลาย แต่น้อยคนนักที่จะได้รับสิ่งเหล่านี้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
ทรัพย์กับความสุขนั้นเป็นสิ่งเดียวกันหรือเกี่ยวเนื่องกันจริงๆ หรือ แล้วเราจะต้องมีทรัพย์มากเท่าไหร่จึงจะมีความสุข จะต้องเป็นระดับ หมื่น แสน ล้าน สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน เท่าไหร่ถึงจะพอ
หลายท่านคงเคยเห็นคนมีทรัพย์มากมาย แต่ไม่มีความสุข หรือคนที่คิดว่าอยากมีทรัพย์มาก เช่น ถ้ามีเงินล้านเมื่อไหร่จะมีความสุข แล้วเมื่อวันหนึ่งเขามีสิ่งนั้น เขากลับไม่ได้รับความสุขตามที่เคยปรารถนาไว้ ไม่ใช่เฉพาะเงินทอง บางคนปรารถนาจะมีบ้าน มีรถ หรือจะมีสามีภรรยา มีลูก หรือมียศตำแหน่ง ถ้าได้อย่างนี้ๆ นะ จะมีความสุข ลองดูให้ดีเถิด หลายคนได้รับสิ่งที่เขาปรารถนามานานแสนนาน แต่เมื่อได้มาแล้วกลับไม่ได้มีความสุข หรือความสุขไม่ได้อยู่กับเขานานเลย
นั่นเป็นเพราะอะไร.? ส่วนมากก็เพราะความปรารถนาของคนเราประกอบด้วยความโลภนั่นเอง เมื่อยังไม่มีก็อยากมี เมื่อมีแล้วก็อยากมีมากขึ้น หรือไม่อยากให้สิ่งนั้นเปลี่ยนไป หรือไม่ก็อยากได้สิ่งอื่นๆ นอกนั้นไปอีก ดังนั้นเรื่องของความสุข ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับทรัพย์เลย แต่เกี่ยวกับความพอใจของคนคนนั้นมากกว่า
@@@@@@@
จริงอย่างที่พระท่านว่า “สนฺตุฏฺฐี ปรมํ ธนํ” คือ ความรู้จักพอ เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง หรือจะเรียกว่า ความสันโดษ เป็นทรัพย์อันประเสริฐ ก็ได้ เพราะคำว่า “สันตุฏฺฐี” แปลว่า “ความสันโดษ”
ความพอหรือความสันโดษนั้น ก็คือ กุศลประเภทหนึ่งในใจของเรา เรียกว่า อโลภะ คือ ความไม่โลภ เมื่อใดก็ตามที่ อโลภะ คือ ความไม่โลภเกิดขึ้น อโทสะ คือ ความไม่โกรธ ก็เกิดขึ้นด้วย จึงเป็นความสงบ ความสุขใจ ที่ร่มเย็น ดังนั้นหากใครยังไม่มีความพอ หรือความสันโดษ เกิดขึ้นในใจ ก็จะต้องไขว่คว้าต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ผู้ที่มีความโลภ เห็นได้ง่ายจากนักพนัน คือ เมื่อได้ ก็อยากจะได้มากขึ้น เมื่อเสียก็คิดพยายามเล่นต่อให้ได้คืน สุดท้ายก็หมดตัว แม้หมดตัวก็ยังไปหยิบยืม หรือเอาทรัพย์สินอื่นๆ ไปเป็นทุนเล่นพนันต่อ นี่แหละความโลภที่เห็นได้โดยง่าย ผู้ที่ได้เงินทองจากการพนัน จะมีความสุขมากแต่ก็เพียงครู่เดียว แล้วคนคนนั้นก็จะเกิดความปรารถนาต้องการเพิ่มไปอีก สุดท้ายก็มักพบจุดจบโดยการสูญเสียในที่สุด
เรื่องของความพอเพียงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความดีจริงๆ เพราะถ้าเรายังไม่รู้จักพอ คือ พอใจในสิ่งที่เรามี พอใจในสิ่งที่เราหาได้ตามกำลังกาย กำลังปัญญา โดยไม่ไปคดโกง เบียดเบียนใคร ถ้ายังไม่มีความรู้สึกพอเพียงเช่นนี้ เราก็จะตกอยู่ในวังวนแห่งการแสวงหาด้วยความโลภไปตลอดชีวิต และแม้จะแก่ชราก็ยังคงเต็มไปด้วยกิเลสเช่นนี้ และจะตายไปโดยความไม่สมหวัง เพราะความหวังของคนโลภนั้นถมไม่เต็มเสมอ
@@@@@@@
การมีความพอเพียง มีความสันโดษนั้น ไม่ได้ทำให้เราขาดความวิริยอุตสาหะ หรือขาดกำลังใจ ขาดความเพียรในการทำการงาน หรือการแสวงหาทรัพย์ศฤงคารแต่อย่างใด เพียงแต่จะทำให้เรามีความสุขใจ ไม่รู้สึกเดือดร้อนใจ และรู้จักพอใจ ชื่นใจในสิ่งที่เรามี ไม่เกิดความอิจฉาริษยา หรือความปรารถนาอยากได้ของของคนอื่น อยากเป็นอย่างคนอื่น อันทำให้ใจเดือดร้อน ความสันโดษไม่ใช่ความขี้เกียจ หรือความท้อถอย แต่เป็นความสบายใจและมีความสุขพอใจกับสิ่งที่ทำ สิ่งที่ได้โดยความสามารถ โดยกำลัง โดยถูกต้องของเรามากกว่า
ผู้ที่มีความสันโดษ ก็ไม่ต้องนั่งรอ ว่าเมื่อมีนั่นมีนี่ เท่านั้น เท่านี้ จึงจะมีความสุข แต่เขามีความสุขได้ในวันนี้ เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะมี หรือไม่มีอะไร
ดังนั้น คนที่เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี หากเรารู้ใจเขาได้ อาจเห็นสัจธรรมว่า มีคนไม่น้อยเลย ที่มีทรัพย์มากมาย แต่ไม่ได้มีความสุขเลย
เรื่องของความคิดเป็นเรื่องที่เราเองเท่านั้นที่เลือกได้ จะคิดไปตามอำนาจกิเลส หรือคิดให้เป็นไปในทางบุญกุศล สิ่งที่ได้รับย่อมต่างกัน ความสุขที่เกิดจากกิเลสก็มี ความสุขที่เกิดจากความดีก็มี แต่ความสุขที่เกิดจากความดี เช่น ความพอเพียงนั้น ไม่มีโทษ ส่วนความสุขที่เกิดจากความโลภนั้น มีโทษเจือปนอยู่ด้วยเสมอ...Thank to :
https://www.posttoday.com/politics/34055011 มกราคม 2558