ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฤดูหนาวนี้…หนาวมั้ย? หนาวแค่ไหนมีคำตอบ.!!  (อ่าน 923 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



ฤดูหนาวนี้…หนาวมั้ย? หนาวแค่ไหนมีคำตอบ.!!

หลังจากที่คนไทยหลายคนๆ คนเฝ้ารอ “ฤดูหนาว” ที่เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของทุกคน และได้เตรียมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสอากาศ "หนาว-เย็น" ในหลายพื้นที่...

หลังจากที่คนไทยหลายคนๆ คนเฝ้ารอ “ฤดูหนาว” ที่เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของทุกคน และได้เตรียมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสอากาศ “หนาว-เย็น” ในหลายพื้นที่ภาคเหนือของไทย.!?!

แต่ “ฤดูหนาว” ปีนี้ ใกล้เวลาจะเข้ากลาง เดือน พ.ย. แล้ว ยังไม่มีการประกาศให้ประเทศไทย เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการซักที จนล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา “กรมอุตุนิยมวิทยา” ถึงได้มีการประกาศ อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว.!?!

เรียกว่า  “มาช้า-แต่มาชัวร์” แต่หลายคนอาจสงสัยทำไม? ฤดูหนาวปีนี้มาช้า และแนวโน้มสภาพอากาศ ฤดูหนาว ปีนี้ของไทยจะเป็นอย่างไร วันนี้ “เดลินิวส์”มี คำตอบจาก “กรรวี  สิทธิชีวภาค” อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา  กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ให้ท่านผู้อ่านได้รู้กัน.!?!


กรรวี  สิทธิชีวภาค

เริ่มกันที่ทำไมปีนี้ไทยเข้า “ฤดูหนาว” ช้ากว่าปกติ ทางอธิบดีกรมอุตุฯ อธิบายให้ฟังว่า ตามหลักวิชาการแล้ว ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาว ต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ 3  ข้อ คือ

1. อุณภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทย ตอนบนลดลงต่ำกว่า 23 องศาเซลเซียส อย่างต่อเนื่อง

2. ทิศทางลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูง 100 เมตร ถึง 3,500 เมตร เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่ความสูงตั้งแต่ 5,000 เมตร ขึ้นไป เปลี่ยนเป็นลมฝ่ายตะวันตก และ

3. ปริมาณและการกระจายของฝนบริเวณประเทศไทยตอนบน เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง.!!

“ ที่ผ่านมา แม้จะย่างเข้าเกลางดือน พ.ย.แล้ว แต่กรมอุตุฯ ยังไม่ประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว เพราะปัจจัยต่างๆ ยังไม่ครบเกณฑ์ตามหลักวิชาการ จึงยังประกาศไม่ได้ จนเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา เมื่อสภาพอากาศ ทิศทางลม และปริมาณฝนลดลง จึงเข้าเกณฑ์ และได้ประกาศให้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ซึ่งช้ากว่าปกติประมาณ 3-4 สัปดาห์”

แล้วปัจจัยหรือสาเหตุอะไร.? ที่ทำให้ปีนี้ไทยเข้าสู่ฤดูหนาวช้าไปเกือบ 1 เดือน.?
อธิบดีกรมอุตุฯ บอกว่า ปัจจัยหนึ่งมาจากทั้งปรากฏการณ์เอลนีโญ ความแปรปวนของสภาพอากาศ ระบบบรรยากาศ และอุณหภูมิน้ำทะเลในมหาสมุทร ซึ่งจากที่กรมอุตุฯเคยบันทึกข้อมูลมาปีที่มีการเกิดปรากฏการณ์ เอลนีโญ ส่งผลให้ฤดูกาลจะขยับล่าช้าไปประมาณสัปดาห์-สองสัปดาห์ และการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ในปี 59 ที่ผ่านมาก็มีลักษณะคล้ายกันกับปีนี้.!?!




เมื่อฤดูหนาวปีนี้มาช้าแล้ว จะหนาวแค่ไหน.? ต้องรีบเปิดตู้เสื้อผ้าเตรียมเสื้อกันหนาวเลยหรือไม่นั้น.?
“กรรวี  สิทธิชีวภาค” บอกว่า เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว ไม่ใช่ว่าอากาศจะหนาวเย็นในทันที ลมหนาวหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยเป็นระลอก เมื่อหมดอิทธิพลแล้ว อุณหภูมิจะกลับไปสูงขึ้นได้ โดยลมหนาวแรกจะเข้ามาช่วง 16-19 พ.ย.
    ภาคอีสานอุณหภูมิจะลดลงประมาณ 5-7 องศาเซลเซียส
    ส่วนภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส
    ขณะที่ภาคใต้ยังมีฝนชุกและคลื่นลมแรง.!!

กรมอุตุฯ ได้คาดการณ์ฤดูหนาวปีนี้ อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบนจะอยู่ที่ประมาณ 21-22  องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าปกติที่เก็บสถิติมา 30 ปี ประมาณ 1.5-2 องศาเซลเซียส โดยค่าปกติอยู่ที่ 19.9 องศาเซลเซียส และจะมีอากาศหนาวเย็นน้อยกว่าปี 65 ที่ผ่านมา ที่มีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20.8 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอย ยอดภู อุณหภูมิต่ำที่สุดประมาณ 9-10 องศาเซลเซียส

“ปีนี้บนยอดดอย ยอดภู ในภาคเหนือ  บริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และ ภาคอีสาน เช่น จ.สกลนคร นครพนม เป็นต้น ยังสามารถสัมผัสอากาศหนาวได้อยู่ ส่วนการเกิดน้ำค้างแข็ง ที่เรียกว่า เหมยขาบ หรือแม่คะนิ้ง ก็พอจะมีให้เห็นได้อยู่บ้างในปีนี้ แต่ต้องดูว่ามวลอากาศเย็นจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมรุนแรงแค่ไหน แต่จะให้หนาวเหมือนปีก่อนๆ คงยาก” อธิบดีกรมอุตุฯ ระบุ




ส่วน ภาคกลางและ กทม. จะให้หนาวแบบปีก่อนๆคงมีโอกาสน้อยเช่นกัน โดย กทม.จะมีอุณภูมิต่ำสุดที่ ประมาณ 17-18 องศาเซลเซียส และปริมณฑล 15-16 องศาเซลเซียส แต่เฉลี่ย กทม. คาดว่าจะอยู่ประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส ส่งผลให้อากาศจะเย็นเท่านั้นไม่ถึงกับหนาว แต่ทั้งนี้คงต้อดูปัจจัยจากมวลอากาศเย็นจะแผ่ลงมาปกคลุมว่าแรงหรือ ไม่ด้วย.!?!

สำหรับเกณฑ์อุณหภูมิต่ำสุดในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยนั้น อย่างไหนเรียกว่า “เย็น หรือ หนาว” นั้น หาก อากาศเย็น อุณหภูมิจะอยู่ช่วง  16.0-22.9 องศาเซลเซียส อากาศหนาว อุณหภูมิจะอยู่ช่วง  8.0-15.9 องศาเซลเซียส และอากาศหนาวจัด อุณหภูมิจะต่ำกว่า 8.0 องศาเซลเซียส.!! 

สำหรับภาคใต้ จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางช่วง ส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออก โดยในเดือน พ.ย.และ ธ.ค. จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง  อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลับ และน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกําลังแรงเป็นระยะๆ ในบางช่วงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร




อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของไทยปีนี้ จะเป็นช่วงประมาณต้นเดือน ธ.ค. 66 ถึงปลายเดือน ม.ค. 67 และประเทศไทยจะสิ้นสุดฤดูหนาวในช่วงปลาย ก.พ.67 นี้

สรุปแล้ว ปีนี้แม้จะหนาวน้อยกว่าปีก่อน แต่ก็ยังพอสามารถสัมผัสอากาศหนาวกันได้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่สูง บนยอดดอย ยอดภู ใครที่วางแพลนท่องเที่ยวไว้ ขอให้ติดตามสภาพอากาศช่วงนั้นๆ ให้ดี จะได้ไม่ผิดหวังแน่นอน.!!

                                      จิราวัฒน์ จารุพันธ์



Thank to : https://www.dailynews.co.th/news/2914686/
19 พฤศจิกายน 2566 ,12:44 น. | การศึกษา-ไอที   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 20, 2023, 05:48:58 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ