ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่เจ็บไม่จน พูดเป็นบาลี ว่าอย่างไร.?  (อ่าน 2862 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ไม่เจ็บไม่จน พูดเป็นบาลี ว่าอย่างไร.?
« เมื่อ: สิงหาคม 10, 2024, 09:51:41 am »
0
.



ไม่เจ็บไม่จน (บาลีวันละคำ 4,153)

ไม่เจ็บไม่จน พูดเป็นบาลีว่าอย่างไร

“ไม่เจ็บไม่จน” เป็นคำที่พระสมัยนี้นิยมให้พรแก่ญาติโยม โยมฟังแล้วก็ชอบ เพราะถูกกับจริตของคนทั่วไป


@@@@@@@

(๑) “ไม่เจ็บ”

คำบาลีที่เป็นสามัญคือ “อโรค” อ่านว่า อะ-โร-คะ ประกอบด้วย น + โรค

(ก) “น” อ่านว่า นะ เป็นศัพท์จำพวกนิบาต แปลว่า ไม่, ไม่ใช่ (no, not)
(ข) “โรค” บาลีอ่านว่า โร-คะ รากศัพท์มาจาก รุชฺ (ธาตุ = เสียดแทง, ทำลาย) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แผลง อุ ที่ รุ-(ชฺ) เป็น โอ (รุชฺ > โรช), แปลง ชฺ เป็น ค : รุชฺ + ณ = รุชณ > รุช > โรช > โรค แปลตามศัพท์ว่า
     (1) “อาการที่เสียดแทง”
     (2) “อาการที่ทำลายอวัยวะน้อยใหญ่” หมายถึง ความเจ็บป่วย, ความไข้ (illness, disease)

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า
“โรค, โรค– : (คำนาม) ภาวะที่ร่างกายทํางานได้ไม่เป็นปรกติเนื่องจากเชื้อโรคเป็นต้น. (ป., ส.).”

น + โรค แปลง น เป็น อ– ตามกฎการประสมของ น + กล่าวคือ
    (1) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ แปลง น เป็น อ–
    (2) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยสระ (อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ) แปลง น เป็น อน–

ในที่นี้ “โรค” ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ คือ ร– = โร– จึงต้องแปลง น เป็น อ
น + โรค = นโรค > อโรค แปลตามศัพท์ว่า “ไม่มีโรค” > ไม่เจ็บป่วย > ไม่เจ็บ

@@@@@@@

(๒) “ไม่จน”

คำบาลีที่ตรงกับคำนี้คือ “อทลิทฺท” อ่านว่า อะ-ทะ-ลิด-ทะ ประกอบด้วย น + ทลิทฺท”

(ก) “น” อ่านว่า นะ เป็นศัพท์จำพวกนิบาต แปลว่า ไม่, ไม่ใช่ (no, not)
(ข) “ทลิทฺท” อ่านว่า ทะ-ลิด-ทะ รากศัพท์มาจาก
     (1) ทลิทฺทฺ (ธาตุ = ลำบาก) + อ (อะ) ปัจจัย : ทลิทฺทฺ + อ = ทลิทฺท แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ลำบาก”
     (2) ทลฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + อิทฺท ปัจจัย : ทลฺ + อิทฺท = ทลิทฺท แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ถึงความตกยาก”

“ทลิทฺท” ในบาลี :-
1. ใช้เป็นคำนาม (ปุงลิงค์) หมายถึง คนจรจัด, คนตกยาก, คนขอทาน (a vagabond, beggar)
2. ใช้เป็นคุณศัพท์ หมายถึง จรจัด, เดินเล่น, จน, ขัดสน, สมเพช (vagrant, strolling, poor, needy, wretched)

บาลี “ทลิทฺท” สันสกฤตเป็น “ทริทฺร”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้
“ทริทฺร : (คำวิเศษณ์) อนาถา, ยากจน, เข็ญใจ, ตกทุกข์; poor, indigent, needy, distressed.”

บาลี “ทลิทฺท” ใช้ในภาษาไทยเป็น “ทลิท” (ทะ-ลิด) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า
“ทลิท : (คำแบบ) (คำวิเศษณ์) ยากจน, เข็ญใจ, เช่น พราหมณพฤฒาเฒ่าทลิทยากยิ่งยาจก (ม. ร่ายยาว ชูชก). (ป. ทลิทฺท; ส. ทริทฺร).”

น + ทลิทฺท แปลง น เป็น อ– ตามกฎการประสมของ น + (ดูข้างต้น)
ในที่นี้ “ทลิทฺท” ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ คือ ท– จึงต้องแปลง น เป็น อ
น + ทลิทฺท = นทลิทฺท > อทลิทฺท แปลตามศัพท์ว่า “ไม่ใช้ผู้ยากจน” “ไม่ใช่คนเข็ญใจ” > ไม่จน





ขยายความ

“อโรค” และ “อทลิทฺท” = ไม่เจ็บไม่จน

ให้พรแก่ผู้ชายคนเดียว พูดควบกันเป็น “อโรโค โหหิ อทลิทฺโท” (อะโรโค โหหิ อะทะลิทโท)
ให้พรแก่ผู้หญิงคนเดียว พูดควบกันเป็น “อโรคา โหหิ อทลิทฺทา” (อะโรคา โหหิ อะทะลิททา)
ให้พรแก่ญาติโยมหลายคน (ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป) พูดควบกันเป็น “อโรคา โหถ อทลิทฺทา” (อะโรคา โหถะ อะทะลิททา)

แถม : พรเป็น “ผล” หลักการให้พรในพระพุทธศาสนา จึงนิยมอ้างการประพฤติธรรมอันเป็น “เหตุ” กำกับไว้ด้วยเสมอ ไม่ใช่ขอให้ผู้ศักดิ์สิทธิ์บันดาล หรือได้พรขึ้นมาลอยๆ

ตัวอย่างที่ดีที่สุดในการให้พรดังกล่าวนี้ ก็คือ บทจตุรพิธพร อันเป็นบทให้พรที่ชาวพุทธคุ้นกันดี

    อภิวาทนสีลิสฺส
    นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน
    จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ
    อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ.

    บุคคลผู้มีปรกติไหว้กราบ
    มีปรกติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิตย์
    ธรรมสี่ประการย่อมเจริญ
    คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ

____________________________________
ที่มา : สหัสสวรรค ธรรมบท พระไตรปิฎกเล่ม 25 ข้อ 18

@@@@@@@

เราจะได้ยินพุทธภาษิตบทนี้เสมอเวลาพระท่านอนุโมทนา แต่ส่วนมากเราฟังกันด้วยความเข้าใจว่า แค่ได้ฟังก็ได้บุญ คือสำเร็จผลเป็นอายุ วรรณะ สุขะ พละ เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องไปทำอะไรอีก

ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น เราต้องไปทำ “เหตุ” เสียก่อน “ผล” จึงจะเกิด

ในพุทธภาษิตท่านแสดง “เหตุ” ไว้ว่า
๑. มีปรกติไหว้กราบ
๒. มีปรกติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิตย์

ทำอย่างนี้จึงจะได้ “ผล” คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ผล คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ไม่ใช่สำเร็จได้เพียงเพราะพระท่านให้พร

ตัวเราผู้ต้องการพรเช่นนั้นต้องปฏิบัติ “เหตุ” ด้วย
อะไรคือเหตุที่จะ “ไม่เจ็บไม่จน” ทั้งผู้ให้พรและผู้รับพร พึงศึกษาและปฏิบัติเข้าเถิด

ดูก่อนภราดา.! ไม่ต้องจบประโยคเก้า ให้พรทุกค่ำเช้า ก็พูดเป็นภาษาบาลีได้





Thank to : https://dhamtara.com/?p=28626
#บาลีวันละคำ (4,153) | 26-10-66
6 สิงหาคม 2024 | By suriyan bunthae
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 10, 2024, 09:57:59 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ