ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ความตระหนี่แก้ยาก ต้องเริ่มด้วยการให้ทาน  (อ่าน 792 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



การปลูกฝังนิสัยในการให้ทาน ให้รู้จักปล่อยวางในขั้นหยาบจะให้แนวทางและเป็นพลังในการระงับความตระหนี่ที่ละเอียดขึ้นไป

บุญเกิดด้วยทาน ๑ ศีล ๑ และ ภาวนา ๑ : ทำไมการให้ทานจึงนับว่าเป็นบุญ ก็เพราะว่าการให้ทานมุ่งที่จะลดและขจัดความตระหนี่ พระพุทธองค์ให้ความสำคัญกับการจัดการกับความตระหนี่มาก ในโอกาสหนึ่งพระพุทธองค์ตรัส จิตที่ยังมีความตระหนี่ครอบงำอยู่ไม่สามารถเข้าฌานได้

@@@@@@@

พระพุทธองค์ตรัสถึงความตระหนี่ ๕ อย่าง

๑. ตระหนี่ในลาภ คือทรัพย์สมบัติเงินทอง คือความยึดมั่นถือมั่นว่านี่ของเรา อย่ามายุ่ง ผู้ที่ตระหนี่ในลาภมักจะมองคุณค่าของตัวเองประเมินได้ด้วยวัตถุหรือตัวเลขในบัญชีธนาคาร ตระหนี่อย่างนี้ใจคับแคบที่สุด

๒. ตระหนี่ในวรรณะ ความตระหนี่นี้อาจเริ่มตั้งแต่ต้องการจะสวยคนเดียว จะหล่อคนเดียว จิตจะเครียดและวุ่นวายกับภาพลักษณ์ของตัวเอง แต่วรรณะไม่ได้จำกัดอยู่ที่ความสวยงามของร่างกาย ผู้ตระหนี่ในวรรณะคือผู้ที่ตระหนี่ในการดูดีของตนเอง เช่น ต้องการเป็นที่ชื่นชมคนเดียว เป็นที่ประทับใจ เป็นที่น่าทึ่ง น่าเคารพนับถือคนเดียว เมื่อรู้สึกว่าเราดูดีในสายตาของคนอื่นในนัยใดนัยหนึ่ง ความตระหนี่มักเกิดขึ้น หวงแหนเอาไว้ โดยถือว่าคุณค่าของเราประเมินได้ด้วยความรู้สึกของคนอื่นที่มีต่อเรา

สองข้อต่อไปนี้เน้นที่พระสงฆ์ คือ

๓. ตระหนี่ในอาวาส คือกีดกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ใช่พรรคพวกหรือไม่ถูกจริตเข้ามาอยู่อาศัย ข้อนี้จะเห็นชัดในพระสงฆ์ที่หวงแหนกุฏิหรือเสนาสนะ ในวัดป่าสายหลวงพ่อชาจึงมีข้อวัตรปฏิบัติว่า ถ้าพระเดินทางไปไหนเป็นเวลานานก็ต้องสละกุฏิท่าน โดยถือว่าไม่ใช่กุฏิท่านแล้ว ท่านไม่มีสิทธิ์กลับมาอยู่กุฏิหลังนี้ต่อไป

๔. ตระหนี่ในตระกูล ความตระหนี่นี้เกิดขึ้นเมื่อพระมีลูกศิษย์หรืออุปัฏฐากที่ศรัทธาเลื่อมใสและใจบุญ  แล้วท่านพยายามกีดกันไม่ให้เกิดศรัทธา หรือพยายามไม่ให้ลูกศิษย์ของท่านไปทำบุญกับพระองค์อื่นหรือสำนักอื่น

ข้อ ๓ และ ๔ ถึงเน้นที่สงฆ์ แต่ผู้ครองเรือนก็คงได้คติธรรมได้บ้างเหมือนกัน

๕. ตระหนี่ในธรรม ข้อนี้เป็นได้กับทั้งพระและโยม คือ ผู้ที่ต้องการยกตนข่มท่านด้วยภูมิธรรม ถ้ามีเงื่อนไขหรือเหตุปัจจัยหรือเทคนิคอะไรต่างๆ ที่ทำให้เกิดผลในการปฏิบัติของตน ก็เก็บไว้ไม่ให้ใครทราบ เพราะไม่ต้องการให้ใครเก่งเท่าหรือเก่งกว่าตน


@@@@@@@

ความตระหนี่ ๕ อย่างนี้แก้ยากเหมือนกัน แต่การปลูกฝังนิสัยในการให้ทาน ให้รู้จักปล่อยวางในขั้นหยาบจะให้แนวทางและเป็นพลังในการระงับความตระหนี่ที่ละเอียดขึ้นไป

                           พระอาจารย์ชยสาโร





ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=4211805292261458&set=pb.100064337808864.-2207520000.
ขอบคุณ : https://www.dhammathai.org/thana/dbview.php?No=20
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ