.
 ชวนอ่าน ‘โพธิจรรยาวตาร’ วิถีชีวิตของโพธิสัตว์ รากฐาน มหายาน-วัชรยาน“เพื่อประโยชน์ของสัตว์โลก ข้าฯ ได้ทำให้ร่างกายนี้ปราศจากความยินดี ขอให้พวกเขาทุบตี ดูหมิ่นเหยียดหยาม และห่อหุ้มร่างนี้ด้วยสิ่งปฏิกูล , ขอให้ผู้ที่กล่าวหาข้าฯ อย่างผิดๆ ผู้ที่ทำร้ายข้าฯ และผู้ที่เย้ยหยันข้าฯ จงเป็นผู้ร่วมเดินทางไปสู่การตรัสรู้ , ขอให้ข้าฯ เป็นผู้ปกป้องแก่ผู้ที่ไม่มีใครปกป้อง เป็นผู้นำทางแก่คนเดินทาง เป็นเรือเล็ก เป็นสะพาน กับเป็นเรือใหญ่แก่ผู้ปรารถนาจะข้ามฝั่ง…”
ชวนอ่าน ‘โพธิจรรยาวตาร’ วิถีชีวิตของโพธิสัตว์ รากฐาน มหายาน-วัชรยาน“เพื่อประโยชน์ของสัตว์โลก ข้าฯ ได้ทำให้ร่างกายนี้ปราศจากความยินดี ขอให้พวกเขาทุบตี ดูหมิ่นเหยียดหยาม และห่อหุ้มร่างนี้ด้วยสิ่งปฏิกูล , ขอให้ผู้ที่กล่าวหาข้าฯ อย่างผิดๆ ผู้ที่ทำร้ายข้าฯ และผู้ที่เย้ยหยันข้าฯ จงเป็นผู้ร่วมเดินทางไปสู่การตรัสรู้ , ขอให้ข้าฯ เป็นผู้ปกป้องแก่ผู้ที่ไม่มีใครปกป้อง เป็นผู้นำทางแก่คนเดินทาง เป็นเรือเล็ก เป็นสะพาน กับเป็นเรือใหญ่แก่ผู้ปรารถนาจะข้ามฝั่ง…”
พวกเราจำนวนหนึ่งในสังฆะวัชรปัญญา เมื่อปรารถนาจะฝึกตนบนเส้นทางมหายานแล้ว ก็จะต้องสวดบทภาวนาข้างต้นรวมไปถึงบทอื่นๆใน “พิธีรับศีลโพธิสัตว์” ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของพิธีรับศีลในสายปฏิบัตินี้
ขณะที่สวด หลายคนอาจน้ำตาไหล เปี่ยมไปด้วยความบันดาลใจ ซาบซึ้งกับความหมาย ผมเห็นว่าเป็นบทภาวนาที่ดีงามจึงมักนำไปสวดภาวนาร่วมกันในโอกาสพิเศษที่สถานภาวนา “อวโลกิตะ” อยู่บ่อยๆ
บทภาวนาดังกล่าวมาจากงานนิพนธ์ชื่อว่า “โพธิจรรยาวตาร” (โพธิจรฺยาวตารมฺ) หรือ “โพธิสัตตวจรรยาวตาร” ของพระอาจารย์ศานติเทวะ (สำนวนแปลข้างต้นเป็นของศาสตราจารย์โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์) หมายถึง จริยาหรือชีวิตของพระโพธิสัตว์
@@@@@@@
โพธิจรรยาวตารนี้ แม้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือแพร่หลายในบ้านเรามากนัก แต่เป็นปกรณ์สำคัญมากในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน-วัชรยาน โดยเฉพาะในทิเบต ถึงกับกล่าวกันว่า เป็นรากฐานของคำสอนฝ่ายวัชรยานซึ่งตั้งอยู่บนหลักปรัชญาและอุดมการณ์แบบมหายานนั่นเอง
องค์ทะไลลามะก็ตรัสถึงงานชิ้นนี้อยู่บ่อยครั้ง ทั้งในบทเทศนา ในหนังสือ และแม้แต่คำภาวนาที่มีชื่อเสียงของพระองค์ที่มักปรากฏอยู่ท้ายบทพระนิพนธ์ “ตราบเท่าที่อากาศธาตุยังดำรงอยู่ ตราบเท่าที่โลกนี้ยังอยู่ ก็ขอให้ข้าฯ ดำรงอยู่เพื่อขจัดความทุกข์ในโลกนี้” ก็มาจากโพธิจรรยาวตารนี่เอง
ในห้วงที่พุทธศาสนาฝ่ายวัชรยานเป็นที่รู้จักในสังคมไทยมาพอสมควรแล้ว ผมจึงอยากจะขอใช้พื้นที่บทความแนะนำคัมภีร์ฉบับนี้สักหน่อย เพราะอาจถูกมองข้ามไปหรือผู้ซึ่งกำลังปฏิบัติวัชรยานอาจไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติพุทธธรรมในยานไหน ผมก็คิดว่าโพธิจรรยาวตารเป็นคัมภีร์ที่ควรศึกษา เพราะนอกจากความไพเราะงดงามแห่งภาษาแล้ว ก็ได้สรุปแก่นพุทธธรรมไว้โดยครบถ้วน และอาจช่วยให้ผู้ปฏิบัติในฝ่ายหีนยานกว้างขวางขึ้น ผู้ปฏิบัติมหายานหนักแน่นมั่นคงในอุดมการณ์ ผู้ปฏิบัติในวัชรยานไม่หลงลืมโพธิจิตอันเป็นสิ่งย้ำเตือนว่าการปฏิบัติมีไว้เพื่อสิ่งใด
 ท่านศานติเทวะคัมภีร์เล่มนี้ประพันธ์โดยพระอาจารย์ท่านศานติเทวะ ท่านผู้นี้มีชีวิตอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่เจ็ด ตามตำนานเล่าว่า ตัวท่านเป็นราชนิกุล ได้รับการศึกษาอย่างดีก่อนจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
ท่านศานติเทวะคัมภีร์เล่มนี้ประพันธ์โดยพระอาจารย์ท่านศานติเทวะ ท่านผู้นี้มีชีวิตอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่เจ็ด ตามตำนานเล่าว่า ตัวท่านเป็นราชนิกุล ได้รับการศึกษาอย่างดีก่อนจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
ท่านได้เข้าเป็นนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยนาลันทาอันยิ่งใหญ่ พระอาจารย์ศานติเทวะใช้เวลาในการศึกษาปริยัติและปฏิบัติธรรมโดยลำพัง ท่านมีความผูกพันกับพระโพธิสัตว์มัญชุศรีเป็นพิเศษ ตัวท่านได้ประพันธ์คัมภีร์โพธิจรรยาวตารอย่างเงียบๆ โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ภายนอกจึงดูเหมือนคนโง่เง่าไม่เอาไหน
เพื่อนๆ พระนักศึกษาด้วยกันพากันนึกว่าท่านเป็นคนเกียจคร้านในการเรียน ไม่ทำสิ่งใดเลยนอกจาก กิน นอน และขับถ่าย และเหตุว่านาลันทามีธรรมเนียมให้พระนักศึกษาหมุนเวียนกันแสดงธรรมต่อที่ชุมนุมเพื่อจะแสดงภูมิรู้ให้ปรากฏ เพื่อนๆ พระประสงค์จะประจานศานติเทวะต่อสาธารณชน จึงขอให้ท่านแสดงธรรม
ศานติเทวะถามเพียงว่า ต้องการให้แสดงธรรมซึ่งมีผู้เคยแสดงไว้แล้ว หรือจะเป็นการแสดงธรรมซึ่งไม่มีผู้ใดเคยแสดงมาก่อน แน่นอนว่าบรรดาพระเลือกอย่างหลัง
ในวันแสดงธรรม ท่านได้เทศนาโพธิจรรยาวตารที่ท่านประพันธ์ไว้เอง พระภิกษุและผู้ชุมนุมในที่นั้นต่างพากันตกตะลึงกับความไพเราะและเนื้อหาที่ลึกซึ้ง ไม่คิดว่าพระที่ภายนอกดูเกียจคร้านโง่เง่าจะมีภูมิธรรมอันลึกซึ้งถึงเพียงนี้
เมื่อท่านเทศน์ไปเรื่อยๆ ตัวพระอาจารย์ศานติเทวะก็ลอยขึ้นจากที่ประชุมนั้นจนหายลับไป เหลือเพียงแต่เสียงดังก้องอยู่จนจบธรรมเทศนา ว่ากันว่า จากนั้นท่านไปปรากฏอยู่อีกเมืองหนึ่ง ได้ลาสิกขาประพฤติตนเป็นโยคินเร่ร่อน ประกอบกรณียกิจเพื่อสรรพสัตว์ต่อไปอีกยาวนาน หนังสือ “โพธิสัตตวจรรยาวตาร” สำนวนแปลโดย รศ. ดร. ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์เนื้อความในโพธิจรรยาวตารแบ่งออกเป็นสิบบท (บริเฉท) ว่าด้วย อานิสงส์ของโพธิจิต, การสารภาพบาป, อธิษฐานโพธิจิต, ปฏิบัติโพธิจิต, ระวังรักษาจิต บทต่อไปว่าด้วยการบำเพ็ญบารมีของโพธิสัตว์ไปทีละบท อันได้แก่ ขันติบารมี วิริยบารมี ฌานบารมี ปัญญาบารมี และจบด้วยการอุทิศกุศล
หนังสือ “โพธิสัตตวจรรยาวตาร” สำนวนแปลโดย รศ. ดร. ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์เนื้อความในโพธิจรรยาวตารแบ่งออกเป็นสิบบท (บริเฉท) ว่าด้วย อานิสงส์ของโพธิจิต, การสารภาพบาป, อธิษฐานโพธิจิต, ปฏิบัติโพธิจิต, ระวังรักษาจิต บทต่อไปว่าด้วยการบำเพ็ญบารมีของโพธิสัตว์ไปทีละบท อันได้แก่ ขันติบารมี วิริยบารมี ฌานบารมี ปัญญาบารมี และจบด้วยการอุทิศกุศล
ต้นฉบับเดิมของโพธิจรรยาวตารเป็นภาษาสันสกฤตและยังคงตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน คัมภีร์นี้ได้รับการแปลเป็นภาษาทิเบตมายาวนานและเป็นวรรณกรรมพุทธศาสนาชิ้นแรกๆ ที่แปลเข้าสู่ภาษามองโกเลียตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14 ส่วนในภาษาอังกฤษนั้นมีการตรวจชำระมาตั้งแต่ราว ค.ศ.1901 และได้รับการแปลออกไปหลายสำนวน
เป็นที่น่าเสียดายว่า คัมภีร์สำคัญเล่มนี้ไม่ปรากฏว่าเป็นปกรณ์สำคัญในมหายานฝ่ายจีน ผิดจากบรรดาพระสูตรสันสกฤตทั้งหลายที่ได้รับการแปลเข้าในภาษาจีนมาแต่โบราณ
ส่วนในพากย์ไทยมีสามสำนวน ฉบับแรกเป็นการแปลโดยท่านภิกษุณีธัมมนันทา (รองศาสตราจารย์ ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์) ในขณะที่ท่านยังเป็นฆราวาส ในชื่อ “โพธิสัตตวจรรยาวตาร” ตีพิมพ์ในปี พ.ศ.2530
อีกฉบับชื่อ “โพธิจรรยาวตาร” แปลโดยศาสตราจารย์โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์ ซึ่งใช้ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษจากการเทียบเคียงทั้งต้นฉบับสันสกฤตและทิเบต ตีพิมพ์โดยมูลนิธิพันดาราในปี พ.ศ.2550 และมีบทนำที่ช่วยให้เข้าใจตัวบทยิ่งขึ้น
ส่วนอีกสำนวนหนึ่งนั้น เป็นการแปลจากต้นฉบับภาษาสันสกฤต เผยแพร่ในเว็บไซต์ https://blog.thai-sanscript.com/ (เป็นเว็บไซต์ที่รวมคัมภีร์และบทสวดต่างๆ ในฝ่ายมหายานจากภาษาสันสกฤตแปลไทย รวมถึงบทความต่างๆ ที่น่าสนใจมากๆ ผมขออนุโมทนาในวิทยาทานกุศลนี้ด้วย)
@@@@@@@
ทั้งนี้ แม้ส่วนใหญ่เนื้อความในโพธิจรรยาวตารจะเน้นเรื่องการบำเพ็ญบารมีและการดำเนินชีวิตของโพธิสัตว์ อันผู้ปรารถนาจะบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณพึงดำเนินตาม แต่ก็ตั้งอยู่บนรากฐานของปรัชญาสำนักมาธยมิกะของท่านนาคารชุน ซึ่งเน้นหนักในเรื่อง “ศูนยตา” หรือความว่าง อันเป็นคำสอนหัวใจหลักในฝ่ายมหายาน
โดยเฉพาะในบริเฉทที่ว่าด้วย “ปัญญาบารมี” (ปรัชญาปารมิตา) ซึ่งมีเนื้อหาที่ค่อนข้างยาก แสดงการโต้แย้งระหว่างแนวคิดของมาธยมิกะกับสำนักคิดอื่นๆ การพูดถึงความจริงทั้งในระดับสมมุติสัจกับปรมัตถสัจ รวมทั้งทฤษฎีมายาในฝ่ายมาธยมิกะด้วย
กระนั้นผมคิดว่าส่วนนี้อาจต้องค่อยๆ ใช้เวลาละเลียดสำหรับผู้ยังไม่คุ้นชิน แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป มิตรรักของผมเคยบอกว่า ที่จริงปัญญานั้นไม่ใช่การด่วนสรุป การหลีกหนีหรือความว่องไวในการหยิบฉวยคำอธิบาย
แต่หากเรารู้สึกว่ามีสิ่งใดที่เรายังไม่เข้าใจหรือไม่รู้ ก็เพียงแค่ไม่รีบสรุปหรือละทิ้ง แต่ยังคงรักษาความตั้งใจที่จะแสวงหาคำตอบหรือความเข้าใจไปเรื่อยๆ บางเรื่องเราจะเข้าใจได้ไม่เพียงการใช้ความฉลาดรู้คิด ก็อาจต้อง “ทำงาน” หรือภาวนาไปด้วย ความเข้าใจจึงอาจเกิดขึ้น
บางประโยคในโพธิจรรยาวตารก็มีชื่อเสียงมาก ฝรั่งมักนำไปกล่าวถึงบ่อยๆ แต่เราก็มิทราบว่ามาจากคัมภีร์นี้ เช่น
   “เราจะหาหนังผืนใหญ่มากพอจะคลุมโลกทั้งใบได้อย่างไร โลกทั้งใบถูกคลุมได้ด้วยหนังที่รองเท้าของข้าฯ เท่านั้น เช่นเดียวกันข้าฯ ไม่สามารถห้ามปรามสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกได้ แต่ข้าฯ จะห้ามปรามจิตตนเอง”
   “ความทุกข์ทั้งปวงในโลก มีเหตุจากความปรารถนาสุขของตนเอง
    ความสุขทั้งปวงในโลก มีเหตุจากความปรารถนาสุขของผู้อื่น”
@@@@@@@
ผมไม่อยากให้เข้าใจไปว่า โพธิจรรยาวตารจะสอนอะไรสไตล์ “ไลฟ์โค้ช” เพียงเพราะผมนำข้อความเหล่านี้มาเสนอ และไม่อยากให้ผู้อ่านฉวยจับอะไรสวยๆ มาเป็นคติคำคมด้วย จำต้องอ่านไปตลอดทั้งเล่มจึงจะเข้าใจความหมายที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง ที่จริงเนื้อหาในโพธิจรรยาวตารนั้นเข้มข้นมากทีเดียว หลายอย่างท่านศานติเทวะตอกเราแรงๆ บางครั้งก็ทำให้ต้องทบทวนอะไรในเส้นทางที่ดำเนินอยู่
อีกสิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับคัมภีร์เล่มนี้ คือมีมิติด้านอารมณ์ความรู้สึกเป็นอย่างมาก หากคุ้นชินกับแนวคิดเรื่องโพธิสัตวมรรคก็ย่อมจะเกิดความซาบซึ้งดื่มด่ำ ถึงขนาดน้ำตาซึมเลยทีเดียว แม้ไม่คุ้นชินก็จะเริ่มเห็นอะไรที่งดงามในทางธรรมซึ่งแสดงออกโดยวรรณศิลป์ที่ยอดเยี่ยม
สรุปคือ อยากแนะนำให้อ่านครับ ฉบับไหนสำนวนไหนก็ได้ ส่วนสำนักพิมพ์ไหนอยากจะพิมพ์ซ้ำเพราะหายจากบรรณพิภพไปนานแล้ว ก็ขออนุโมทนาล่วงหน้า •
 ขอขอบคุณ :-
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2567
คอลัมน์ : ผี-พราหมณ์-พุทธ
ผู้เขียน : คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง
เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ.2567
website : 
https://www.matichonweekly.com/column/article_796263