.
ความหมายและที่มาของบทสวด นมัสการพระพุทธเจ้า บทนะโม ตัสสะฯเคยสังเกตไหมว่า เวลาสวดมนต์บทอะไรก็ตาม มักจะมีการสวดขึ้นต้นว่า นะโมตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 รอบ แล้วบทสวดนี้คืออะไร มีที่มาอย่างไร
@@@@@@@
บทสวดนมัสการพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
"ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น"
อะระหะโต
"ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส"
สัมมาสัมพุทธัสสะ
"ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง"
(3 รอบ)
ภาพ : Shutter Stockความเป็นมาและความสำคัญ ของบทสวดนมัสการพระพุทธเจ้า
ในการสวดมนต์บทนมัสการพระพุทธเจ้า หรือบทนะโมตัสสะ มักจะถูกยกขึ้นเป็นปฐมพจน์ของการสวดมนต์ เรียกว่า เป็นคำแรกที่เราจะกล่าวถึงพระพุทธเจ้าก่อนคำใด ๆ โดยมีการอ้างถึงหลากหลายที่มา ดังนี้
@@@@@@@
ที่มาแรก : ในหนังสือฎีกานะโม
อ้างว่า เทพเจ้า ๕ องค์ คือ สาตาคิรียักษ์ อสุรินทร์ราหู ท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ ท้าวสักกะ ท้าวมหาพรหม เป็นผู้กล่าว นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ เป็นครั้งแรกในพระพุทธศาสนา โดย
- สาตาคิรียักษ์ เป็นผู้กล่าวคำว่า นะโม
- อสุรินทร์ราหู เป็นผู้กล่าวคำว่า ตัสส
- ท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ เป็นผู้กล่าวคำว่า ภะคะวะโต (กล่าวพร้อมกันทั้ง ๔ องค์)
- ท้าวสักกะจอมเทพ คือ พระอินทร์เป็นผู้กล่าวคำว่า อะระหะโต
- ท้าวมหาพรหม ผู้เป็นใหญ่ในพรหมโลกเป็นผู้กล่าวคำว่า สัมมาสัมพุทธัสสะ
เหตุที่กล่าว ก็เพื่อแสดงความนอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
@@@@@@@
ที่มาที่สอง : พระเทพวิสุทธิเวที วัดมหาพฤฒาราม ให้ข้อสังเกตในหนังสือนโมเทศนาและชัยมงคลเทศนาว่า
ตามที่ฎีกานะโม ระบุว่าเทพ ๕ องค์เป็นผู้กล่าวนะโมเป็นคนแรกนั้น ไม่ได้ระบุหลักฐานว่านำมาจากคัมภีร์หรือพระสูตรอะไร และกล่าวที่ไหน เมื่อไร จึงเลื่อนลอยไม่น่าเชื่อถือ และสันนิษฐานว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า น่าจะเป็นผู้ทรงบัญญัติด้วยพระองค์เอง โดยทรงบัญญัติบทว่า นะโม นี้ พร้อมกับบท ไตรสรณคมน์ (พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯเปฯ) ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี ในคราวทรงอนุญาตให้พระอรหันต์สาวกเป็นอุปัชฌาย์ในครั้งแรก เพื่อให้ทำการบวชกุลบุตรเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาได้ ด้วยอุปสมบทวิธี คือ ติสรณคมนูปสัมปทา ในคราวเริ่มประกาศพระพุทธศาสนาครั้งแรก
@@@@@@@
ที่มาที่สาม : หนังสือธรรมะในพระพุทธมนต์ โดย พระราชรัตนรังษี (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ) พระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย
มีเหตุการณ์การใช้คำว่า นะโม ดังนี้
- พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า กล่าวธรรมเจติยปริยาย แสดงความเลื่อมใสแล้วเปล่งอุทานว่า นะโม
- พรหมายุพราหมณ์อยู่ ณ เมืองตักศิลา ฟังคำสรรเสริญพระพุทธคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ส่งอุตตรมาณพศิษย์ผู้ใหญ่ให้ไปสืบดูให้รู้ว่า พระพุทธเจ้าทรงคุณธรรมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงดังคำร่ำลือหรือไม่ เมื่ออุตตรมาณพสืบได้ความจริง แล้วกลับมาเล่าให้ฟัง พรหมยุพราหมณ์ก็เกิดความเลื่อมใส ทันใดนั้นลุกจากอาสนะทำผ้าห่มเฉวียงบ่าประนมมือหันไปสู่ทิศที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่เปล่งวาจาว่า นะโม
- นางธนัญชานีพราหมณ์ผู้เป็นโสดาบัน ในวันที่เลี้ยงพราหมณ์ พราหมณ์ผู้สามีขอให้งดกล่าวคำว่า นะโม นั้นเสีย นางยกภาชนะใส่ข้าวก้าวเท้าพลาดล้มลงและตกใจอุท่านว่า นะโม
ภาพ : Shutter Stock
อานิสงส์การสวดบทนมัสการพระพุทธเจ้า
1. น้อมใจจนให้เกิดความกตัญญูกตเวที รู้อุปการคุณที่พระพุทธเจ้ามีต่อตน ให้รู้สึกว่าตนได้ดิบได้ดี อยู่เย็นเป็นสุข ไกลทุกข์เดือดร้อน ก็เพราะมีพระพุทธเจ้าสอนไว้ ให้มีใจปฏิบัติตาม
2. ให้รู้สึกว่าได้คบหาสมาคมกับพระพุทธเจ้าด้วยใจ มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของใจ นึกถึงพระพุทธเจ้าครั้งใด พระพุทธเจ้าก็ปรากฏที่ใจทุกครั้ง
3. ให้การปฏิบัตินั้นสำเร็จเป็นปฏิบัติตามพระพุทธองค์ ย่อมได้เป็นผู้เบิกบาน หายงมงาย ชนเหล่าใดระลึกถึงพระพุทธเจ้าทั้งกลางวันและกลางคืน ชนเหล่านั้นชื่อว่าเป็นสาวกของพระโคดมบรมศาสดา ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ
แหล่งข้อมูล :-
- หนังสือธรรมะในพระพุทธมนต์ โดย พระราชรัตนรังษี (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ) พระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย
- ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ สืบค้นจาก
https://guru.sanook.com/8686/ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 61
ขอขอบคุณ :-
website :
https://www.trueplookpanya.com/dhamma/content/65723-dhart-Posted By มหัทธโน | 26 ก.พ. 61