.
โอกกันติกาปีติ (บาลีวันละคำ 3,944)
โอกกันติกาปีติ 1 ในปีติ 5 อ่านว่า โอก-กัน-ติ-กา-ปี-ติ ประกอบด้วยคำว่า โอกกันติกา + ปีติ
(๑) “โอกกันติกา”
รูปคำเดิมเป็น “โอกกันติก” เขียนแบบบาลีเป็น “โอกฺกนฺติก” (มีจุดใต้ กฺ ตัวหน้า และใต้ นฺ) อ่านว่า โอก-กัน-ติ-กะ รากศัพท์มาจาก โอ (คำอุปสรรค = ลง) + กมฺ (ธาตุ = ไป, ถึง; ก้าวไป) + ติ ปัจจัย, ซ้อน กฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ (โอ + กฺ + กมฺ), แปลงที่สุดธาตุเป็น นฺ (กมฺ > กนฺ) + ก ภาษาไวยากรณ์เรียกว่า “ก-สกรรถ” (กะ-สะ-กัด) คือลง ก ข้างท้าย แต่มีความหมายเท่าเดิม : โอ + กฺ + กมฺ = โอกฺกมฺ + ติ = โอกฺกมฺติ > โอกฺกนฺติ + ก = โอกฺกนฺติก แปลตามศัพท์ว่า “การก้าวลง” ใช้เป็นคุณศัพท์ หมายถึง สิ่งซึ่งเกิดขึ้นบ่อย ๆ, เกิดขึ้นอีก (coming into existence again and again, recurring)
“โอกฺกนฺติก” ใช้เป็นคำขยาย (วิเสสนะ) ของ “ปีติ” ซึ่งเป็นอิตถีลิงค์ เปลี่ยนรูปเป็น “โอกฺกนฺติกา”
(๒) “ปีติ” ดูกระทู้ด้านบน
@@@@@@@
ประสมคำ
โอกฺกนฺติกา + ปีติ = โอกฺกนฺติกาปีติ (โอก-กัน-ติ-กา-ปี-ติ) แปลว่า “ปีติเกิดแล้วเกิดอีก” คือ ปีติเกิดขึ้นแล้วหายไป แล้วเกิดขึ้นอีก แล้วหายไปอีก เกิดๆ หายๆ อยู่เช่นนี้ ท่านจึงแปลความว่า “ปีติเป็นพักๆ”
“โอกฺกนฺติกาปีติ” เขียนแบบไทยเป็น “โอกกันติกาปีติ” (ไม่มีจุดใต้ ก ตัวหน้า)
“โอกกันติกาปีติ” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554

ขยายความ ดูกระทู้ด้านบนเฉพาะ “โอกกันติกาปีติ” คัมภีร์อรรถกถาขยายความไว้ว่า
โอกฺกนฺติกาปีติ สมุทฺทตีรํ วีจิ วิย กายํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา ภิชฺชติ ฯ
โอกกันติกาปีติทำให้รู้สึกซู่ลงมาๆ ในกายแล้วหายไป เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
________________________________________
ที่มา :-- สัทฺธัมมปัชโชติกา (อรรถกถามหานิทเทส) หน้า 180
- สัทธัมมปกาสินี (อรรถกถาปฏิสัมภิทามรรค) ภาค 1 หน้า 305
- อัฏฐสาลินี (อรรถกถาธัมมสังคณี) หน้า 253
@@@@@@@
ดูก่อนภราดา.! แม้ปีติจะเกิดเป็นพักๆ ก็ขอให้รักกันตลอดเวลา (นะจ๊ะ)
ขอบคุณ :
https://dhamtara.com/?p=2694713 มิถุนายน 2023 | suriyan bunthae
#บาลีวันละคำ (3,944) | 31-3-66
อุพเพงคาปีติ (บาลีวันละคำ 3,945)
อุพเพงคาปีติ 1 ในปีติ 5 อ่านว่า อุบ-เพง-คา-ปี-ติ ประกอบด้วยคำว่า อุพเพงคา + ปีติ
(๑) “อุพเพงคา”
รูปคำเดิมเป็น “อุพเพงค” เขียนแบบบาลีเป็น “อุพฺเพงฺค” (มีจุดใต้ พฺ ตัวหน้าและใต้ งฺ) อ่านว่า อุบ-เพง-คะ รากศัพท์มาจาก อุ (คำอุปสรรค = ขึ้น, นอก) + วิชฺ (ธาตุ = กลัว, ตกใจ, หวาด; ไหว, สั่น) + อ (อะ) ปัจจัย, ซ้อน พฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ, แปลง ว ต้นธาตุเป็น พ, ลงนิคหิตอาคมที่ต้นธาตุแล้วแปลงนิคหิตเป็น งฺ, แผลง อิ ที่พยัญชนะต้นธาตุเป็น เอ, แปลง ชฺ ที่สุดธาตุเป็น ค (วิชฺ > วึชฺ > วิงฺช > พิงฺช > เพงฺช > เพงฺค) : อุ + พฺ + วิชฺ > พิชฺ = อุพฺพิชฺ + อ = อุพฺพิช > อุพฺพึช > อุพฺพิงฺช > อุพฺเพงฺช > อุพฺเพงฺค แปลตามศัพท์ว่า “อาการที่หวาดไหวขึ้น” “อาการที่โลดลอยขึ้น” หมายถึง ความตื่นเต้น, ความตกใจ, ความสะดุ้ง (excitement, fright, anguish)
อนึ่ง ศัพท์นี้ไม่ลงนิคหิตอาคมที่ต้นธาตุ ได้รูปเป็น “อุพฺเพค” ก็มี
บาลี “อุพฺเพงฺค” สันสกฤตเป็น “อุเทฺวค”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้
“อุเทฺวค : (คำวิเศษณ์) หนักแน่น, มีใจหนักแน่นหรือสำรวมแล้ว, เฉย ; steady, composed, tranquil or quiet ; – (คำนาม) ความกลัว ; ความร้อนใจ; ทุกข์เพราะจากของรัก ; การขึ้น; ความพิศวง ; fear ; anxiety ; distress occasioned by separation from a beloved object ; ascending, mounting, going up ; astonishment or admiration.”
“อุพฺเพงฺค” ใช้เป็นคำขยาย (วิเสสนะ) ของ “ปีติ” ซึ่งเป็นอิตถีลิงค์ เปลี่ยนรูปเป็น “อุพฺเพงฺคา”
(๒) “ปีติ” ดูกระทู้ด้านบน
@@@@@@@
ประสมคำ
อุพฺเพงฺคา + ปีติ = อุพฺเพงฺคาปีติ (อุบ-เพง-คา-ปี-ติ) แปลว่า “ปีติโลดลอย”
“อุพฺเพงฺคาปีติ” เขียนแบบไทยเป็น “อุพเพงคาปีติ” (ไม่มีจุดใต้ พ ตัวหน้าและใต้ ง)
“อุพเพงคาปีติ” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
ขยายความ ดูกระทู้ด้านบน
เฉพาะ “อุพเพงคาปีติ” คัมภีร์อรรถกถาขยายความไว้ว่า
อุพฺเพงฺคาปีติ พลวตี โหติ กายํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณปฺปตฺตา ฯ
อุพเพงคาปีติเป็นปีติอย่างแรงจนตัวลอย (ถ้าแรงถึงขนาด) อาจถึงกับลอยไปในอากาศได้
____________________________________ ที่มา :-
- สัทฺธัมมปัชโชติกา (อรรถกถามหานิทเทส) หน้า 180
- สัทธัมมปกาสินี (อรรถกถาปฏิสัมภิทามรรค) ภาค 1 หน้า 305
- อัฏฐสาลินี (อรรถกถาธัมมสังคณี) หน้า 253
@@@@@@@
ในคัมภีร์อัฏฐสาลินีท่านเล่าเรื่องประกอบไว้ 2 เรื่อง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในลังกาทวีป
เรื่องหนึ่ง พระเถระรูปหนึ่งกำลังเดินไปไหว้พระเจดีย์ในคืนวันเพ็ญ ตามองพระเจดีย์ ใจนึกถึงประชุมชนที่กำลังชุมนุมกันไหว้พระเจดีย์ เกิดปีติสุดขีด ตัวลอยไปถึงลานพระเจดีย์ได้
อีกเรื่องหนึ่ง พ่อแม่ไปฟังเทศน์ตอนกลางคืน ลูกสาวอยากไปด้วย แต่พ่อแม่บอกว่า กลางค่ำกลางคืนไม่ปลอดภัย อย่าไปเลย พ่อแม่จะเอาบุญมาฝาก ลูกสาวยืนมองพ่อแม่เดินไปวัด ตามองเห็นยอดพระเจดีย์ที่วัดท่ามกลางแสงจันทร์ เกิดปีติสุดขีด ตัวลอยไปถึงลานพระเจดีย์ก่อนพ่อแม่ พ่อแม่แปลกใจ ถามว่านี่มาได้อย่างไร ลูกสาวบอกว่า มองเห็นยอดพระเจดีย์เกิดปีติ ไม่รู้ว่าตัวลอยมาได้อย่างไร
@@@@@@@
ดูก่อนภราดา.! บุญยกใจให้สูง บาปกดใจให้ต่ำ ทำแล้วจะรู้ได้ด้วยตัวเอง
ขอบคุณ ;
https://dhamtara.com/?p=26951#บาลีวันละคำ (3,945) | 1-4-66
13 มิถุนายน 2023 | suriyan bunthae
ผรณาปีติ (บาลีวันละคำ 3,946)
ผรณาปีติ 1 ในปีติ 5 อ่านว่า ผะ-ระ-นา-ปี-ติ ประกอบด้วยคำว่า ผรณา + ปีติ
(๑) “ผรณา”
รูปคำเดิมเป็น “ผรณ” อ่านว่า ผะ-ระ-นะ รากศัพท์มาจาก ผรฺ (ธาตุ = แผ่ไป) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ) แล้วแปลง น เป็น ณ : ผรฺ + ยุ > อน = ผรน > ผรณ แปลตามศัพท์ว่า “การแผ่ไป”
“ผรณ” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้
(1) เป็นคำนาม: การแผ่ไป, การซ่านไป, ความซาบซึ้ง (pervasion, suffusion, thrill)
(2) เป็นคุณศัพท์: แผ่ไป, ซ่านไป [กับ], เต็มเปี่ยม [ด้วย] (pervading, suffused [with], quite full [of])
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “ผรณ” ไว้ด้วย บอกไว้ดังนี้
“ผรณ– : (คำนาม) การแผ่ไป, การซ่านไป. (ป.).”
“ผรณ” ใช้เป็นคำขยาย (วิเสสนะ) ของ “ปีติ” ซึ่งเป็นอิตถีลิงค์ เปลี่ยนรูปเป็น “ผรณา”
(๒) “ปีติ”
@@@@@@@
ประสมคำ
ผรณา + ปีติ = ผรณาปีติ (ผะ-ระ-นา-ปี-ติ) แปลว่า “ปีติซาบซ่าน”
“ผรณาปีติ” เขียนแบบเดียวกันทั้งบาลีทั้งไทย
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “ผรณาปีติ” ไว้ด้วย บอกไว้ดังนี้
“ผรณาปีติ : (คำนาม) ปีติที่เกิดแล้วทําให้รู้สึกซาบซ่านไปทั่วร่างกาย. (ป.).”
ชวนคิด
คำว่า “ผรณาปีติ” ที่พจนานุกรมฯ เก็บไว้นี้ น่าจะมาจากที่มาเดียวกับคำที่เป็นชุดของ “ปีติ” ทั้ง 5 พจนานุกรมฯ เอา “ผรณาปีติ” มาเก็บไว้คำเดียว แต่ไม่เอาอีก 4 คำมาเก็บไว้ด้วย น่าคิดว่า พจนานุกรมฯ มีเหตุผลอย่างไร?
ขยายความ ดูกระทู้ด้านบน
เฉพาะ “ผรณาปีติ” คัมภีร์อรรถกถาขยายความไว้ว่า
ผรณาปีติ อติพลวตี โหติ ฯ ตาย หิ อุปฺปนฺนาย สกลสรีรํ ผริตฺวา ปูริตวุฏฺฐิ วิย มหตา อุทโกเฆน ปกฺขนฺทปพฺพ กุจฺฉิ วิย จ อนุปริผุฏํ โหติ ฯ
ผรณาปีติเป็นปีติมีกำลังกล้า เมื่อเกิดขึ้นจะแผ่ซ่านเอิบอาบไปทั่วร่างกาย ดุจเต็มไปด้วยเม็ดฝน และดุจเวิ้งเขาที่ห้วงน้ำใหญ่ไหลบ่ามาท่วมฉะนั้น
_________________________________________ที่มา :-
- สัทฺธัมมปัชโชติกา (อรรถกถามหานิทเทส) หน้า 180-181
- สัทธัมมปกาสินี (อรรถกถาปฏิสัมภิทามรรค) ภาค 1 หน้า 305
- อัฏฐสาลินี (อรรถกถาธัมมสังคณี) หน้า 255
@@@@@@@
ดูก่อนภราดา.! ซาบซึ้งอยู่ได้นาน ซาบซ่านอยู่ได้น้อยขอบคุณ :
https://dhamtara.com/?p=26955#บาลีวันละคำ (3,946) | 2-4-66
13 มิถุนายน 2023 | suriyan bunthae