ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มงคลตื่นข่าว ดิรัจฉานวิชา และ ดิรัจฉานกถา เหล่านี้ล้วนขวางนิพพาน  (อ่าน 1041 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



มงคลตื่นข่าว ดิรัจฉานวิชา และ ดิรัจฉานกถา เหล่านี้ล้วนขวางนิพพาน

2 คำ จากหนังสืออธิบายศัพท์และแปลความหมาย “คำวัด” ที่ชาวพุทธควรรู้ (ธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ.2551) คำแรก มงคลตื่นข่าว คำที่สองดิรัจฉานวิชา ผมเลือกมาเรียงกัน อยากรู้ คำไหนใช้กับพระคำไหนใช้กับฆราวาส

คำแรก มงคลตื่นข่าว หมายถึง การเชื่อถือตามข่าวลือ การตื่นเต้นไปกับเรื่องเหลือเชื่อ ที่บอกเล่าต่อๆมา ด้วยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมงคล เช่น เชื่อเรื่องโชคลาง เรื่องเคราะห์ดีเคราะห์ร้าย เรื่องเครื่องรางของขลัง

ความเชื่อนี้เป็นเหตุให้ปฏิเสธพระรัตนตรัย ปฏิเสธหลักกรรม ไม่เชื่อเรื่องกรรม คือหลักทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แต่เชื่อการดลบันดาล หรืออิทธิปาฏิหาริย์ของวัตถุต่างๆ

เพราะเหตุนี้ มงคลตื่นข่าวจึงเป็นวิบัติของอุบาสกอุบาสิกาอย่างหนึ่ง เป็นเหตุให้ความชาวพุทธเสียหายไร้ประโยชน์ เพราะทำให้เกิดความงมงายไร้สาระ บ่งบอกถึงศรัทธาในพระรัตนตรัยไม่มั่นคง

คำที่สอง ดิรัจฉานวิชา แปลว่า วิชาที่ขวาง คือ ความรู้ที่ขวางทางมรรคผลนิพพาน ความรู้ที่ขัดขวางไม่ให้ถึงมรรคผลนิพพาน เพราะเป็นวิชาที่ทำให้หมกมุ่น เพลิดเพลิน ยึดติด ทำให้งมงายลุ่มหลง ไม่ใช้ปัญญา ไม่ใช้เหตุผล อันเป็นเหตุให้เสียเวลา ไม่ประกอบภารกิจหน้าที่ที่พึงกระทำ ตามธรรม ตามวินัย

ดิรัจฉานวิชา คือ ความรู้ในเรื่องการทำเสน่ห์ การทำนายทายทัก ในทางธรรมชี้ว่าเป็นความรู้วิธีที่ทำให้วิบัติ เป็นวิชาที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามภิกษุไม่ให้เรียน และมิให้กระทำ

@@@@@@@

นอกจากดิรัจฉานวิชา คำในชุดเดียวกันยังมีดิรัจฉานกถา คำนี้แปลว่า เรื่องที่ขวางทางพระนิพพาน หรือถ้อยคำที่ขัดขวางต่อการบรรลุธรรม

มีคำอธิบายต่อว่า ดิรัจฉานกถา คือ เรื่องราวหรือคำพูดคุยที่ผิดๆ เหมือนเรื่องพูดคุยของเด็กๆ เป็นเรื่องที่พระภิกษุไม่ควรนำมาพูดคุยสนทนาโต้เถียงกัน เพราะเป็นเหตุให้เกิดความเพลิดเพลิน ฟุ้งซ่าน ทำให้เสียเวลา เสียโอกาสที่ควรได้ หรือทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท

ในพระไตรปิฎกมีเรื่องที่เรียกว่าดิรัจฉานกถา 27 เรื่อง ตัวอย่างเรื่องพระราชา เรื่องโจร เรื่องมหาอำมาตย์ เรื่องขุนพล เรื่องนคร เรื่องชนบท เรื่องสตรี เรื่องโลก เรื่องทะเล เรื่องความเจริญ และความเสื่อม

การพูดคุยกันด้วยเรื่องดิรัจฉานกถา แม้พระพุทธองค์ไม่ทรงห้ามในพระวินัย แต่ถ้าพระภิกษุรูปใดพูด ทรงตำหนิว่า “ไม่ควร”

คำวัดชุดเดียวกันยังอธิบายคำ “ดิรัจฉาน” คำเดียว แปลว่า ไปตามขวาง เจริญไปทางขวาง ใช้ว่าเดรัจฉาน หรือเดียรัจฉานก็ได้ ความหมายเจาะจงไปที่สัตว์โลกทั่วไป ที่มิใช่มนุษย์ ได้แก่ หมา แมว วัว ควาย งู ตะขาบ ฯลฯ บางครั้งเรียก ถือเป็นสัตว์โลกที่ต่ำต้อย อาภัพ ไม่สามารถบรรพชาอุปสมบท และบรรลุธรรมได้

ในอบายภูมิ ซึ่งมี 4 ระดับ ตามระดับบาปกรรมของคนที่ตาย แบ่งเป็น 4
    - นรก ที่เกิดของคนที่มากด้วยโทสะ ชอบฆ่าฟัน
    - เปรต ที่เกิดของคนมากด้วยโลภะ ชอบฉ้อโกง
    - อสุรกาย ที่เกิดของคนมากโลภะ
    - อบายระดับที่ 4 คือดิรัจฉาน ถือเป็นที่เกิดของคนมากโมหะ หลงงมงาย เห็นผิด และอกตัญญู

@@@@@@@@

วันนี้ ผมขอคัดคำอธิบาย ความหมายของคำวัด มาแต่เนื้อๆ ไม่อยากเอ่ยถึงใคร ไม่ว่าจะเป็นพระอาจารย์ขลัง นั่งปลุกเสกเขียนเลขยันต์ คนขาย หรือคนอุ้มตุ๊กตาลูกเทพ

อ่านคำอธิบาย เดรัจฉานวิชาคำเดียว ก็ห่อเหี่ยวไปทั้งกายและใจ วิชาสารพันมีให้เลือกเรียนรู้มากมาย แต่เหตุไฉน จึงต้องไปเลือกเดรัจฉานวิชา ทำเหมือนว่าเกิดมาแล้วไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคน.

                                                                       กิเลน ประลองเชิง








Thank to : https://www.thairath.co.th/news/politic/569310
29 ม.ค. 2559 05:01 น. | คอลัมน์ กิเลน ประลองเชิง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 01, 2025, 07:54:15 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ