.
ทัพพีไม่รู้รสแกง
ยาวชีวมฺปิ เจ พาโล
ปณฺฑิตํ ปยิรุปาสติ
น โส ธมฺมํ วิชานาติ
ทพฺพี สูปรสํ ยถา.
Yāvajīvampi ce bālo,
Paṇḍitaṃ payirupāsati ;
Na so dhammaṃ vijānāti,
Dabbī sūparasaṃ yathā.
แม้ตลอดชีวิต คนโง่,
จะได้เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิต ;
เขาย่อมไม่รู้แจ้งพระธัมม์,
เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกง ฉะนั้น
Though all lifetime of a fool
Who sits near the wise ;
He understands nothing of the Dhamma,
As the ladle, the taste of the soup.___________________________
ที่มา : หนังสืออนุสรณ์ ธัมมบท 100 บท จากพระไตรปิฎก
๕. เรื่องพระอุทายีเถระ [๔๙]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระอุทายีเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ยาวชีวมฺปิ เจ พาโล" เป็นต้น.
คนไม่รู้มักถือตัว
ได้ยินว่า พระอุทายีเถระนั้น เมื่อพระเถระผู้ใหญ่หลีกไปแล้ว ไปสู่โรงธรรมแล้ว นั่งบนธรรมาสน์.
ต่อมาวันหนึ่ง พวกภิกษุอาคันตุกะเห็นพระอุทายีเถระนั้นแล้วเข้าใจว่า
"ภิกษุนี้จักเป็นพระมหาเถระผู้พหูสูต"
จึงถามปัญหาปฏิสังยุตด้วยขันธ์เป็นต้นแล้ว ติเตียนท่านผู้ไม่รู้อยู่ซึ่งพระพุทธวจนะอะไรๆ ว่า
"นี่พระเถระอะไร.? อยู่ในพระวิหารเดียวกันกับพระพุทธเจ้า ยังไม่รู้ธรรม แม้สักว่าขันธ์ธาตุและอายตนะ"
ดังนี้แล้ว จึงกราบทูลความเป็นไปนั้น แด่พระตถาคต.
ลำดับนั้น พระศาสดา เมื่อจะทรงแสดงธรรมแก่พวกภิกษุอาคันตุกะนั้น จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
๕. ยาวชีวมฺปิ เจ พาโล ปณฺฑิตํ ปยิรุปาสติ
น โส ธมฺมํ วิชานาติ ทพฺพี สูปรสํ ยถา.
ถ้าคนพาล เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตอยู่ แม้จนตลอดชีวิต,
เขาย่อมไม่รู้ธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกงฉะนั้น.
@@@@@@@
แก้อรรถ
พึงทราบเนื้อความแห่งพระคาถานี้ว่า :-
"ชื่อว่าคนพาลนี้ เข้าไปหา เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิต แม้จนตลอดชีวิต ย่อมไม่รู้ปริยัติธรรมอย่างนี้ว่า
‘นี่เป็นพระพุทธพจน์ พระพุทธพจน์มีประมาณเท่านี้’
หรือซึ่งปฏิปัตติธรรมและปฏิเวธธรรมอย่างนี้ว่า
‘ธรรมนี้เป็นเครื่องอยู่, ธรรมนี้เป็นมรรยาท, นี้เป็นโคจรกรรม นี้เป็นไปกับด้วยโทษ, กรรมนี้หาโทษมิได้, กรรมนี้ควรเสพ ; กรรมนี้ไม่ควรเสพ ; สิ่งนี้พึงแทงตลอด, สิ่งนี้ควรกระทำให้แจ้ง."
ถามว่า "เหมือนอะไร.?"
แก้ว่า "เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกงฉะนั้น."
อธิบายว่า เหมือนอย่างว่า ทัพพี แม้คนแกงต่างชนิด มีประการต่างๆ อยู่จนกร่อนไป ย่อมไม่รู้รสแกงว่า
‘นี้รสเค็ม, นี้รสจืด, นี้รสขม, นี้รสขื่น, นี้รสเผ็ด, นี้รสเปรี้ยว, นี้รสฝาด ฉันใด ;
คนพาลเข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตตลอดชีวิต ย่อมไม่รู้ธรรมมีประการดังกล่าวแล้ว ฉันนั้นเหมือนกัน.
ในกาลจบเทศนา จิตของพวกภิกษุอาคันตุกะหลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย ดังนี้แล.
เรื่องพระอุทายีเถระ จบ. ขอบคุณที่มา :-
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พาลวรรคที่ ๕
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=15&p=5อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=434&Z=478อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=20&A=2059ขอบคุณภาพจาก pinterest