ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทัพพีไม่รู้รสแกง  (อ่าน 1388 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ทัพพีไม่รู้รสแกง
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2025, 06:30:03 am »
0
.



ทัพพีไม่รู้รสแกง

ยาวชีวมฺปิ เจ พาโล      
ปณฺฑิตํ ปยิรุปาสติ
น โส ธมฺมํ วิชานาติ      
ทพฺพี สูปรสํ ยถา.

Yāvajīvampi ce bālo,
Paṇḍitaṃ payirupāsati ;
Na so dhammaṃ vijānāti,
Dabbī sūparasaṃ yathā.

แม้ตลอดชีวิต คนโง่,
จะได้เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิต ;
เขาย่อมไม่รู้แจ้งพระธัมม์,
เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกง ฉะนั้น

Though all lifetime of a fool
Who sits near the wise ;
He understands nothing of the Dhamma,
As the ladle, the taste of the soup.

___________________________
ที่มา : หนังสืออนุสรณ์ ธัมมบท 100 บท จากพระไตรปิฎก




๕. เรื่องพระอุทายีเถระ [๔๙]          
     
ข้อความเบื้องต้น    
                       
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระอุทายีเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ยาวชีวมฺปิ เจ พาโล" เป็นต้น.

คนไม่รู้มักถือตัว               

ได้ยินว่า พระอุทายีเถระนั้น เมื่อพระเถระผู้ใหญ่หลีกไปแล้ว ไปสู่โรงธรรมแล้ว นั่งบนธรรมาสน์.

ต่อมาวันหนึ่ง พวกภิกษุอาคันตุกะเห็นพระอุทายีเถระนั้นแล้วเข้าใจว่า
     "ภิกษุนี้จักเป็นพระมหาเถระผู้พหูสูต"

จึงถามปัญหาปฏิสังยุตด้วยขันธ์เป็นต้นแล้ว ติเตียนท่านผู้ไม่รู้อยู่ซึ่งพระพุทธวจนะอะไรๆ ว่า
     "นี่พระเถระอะไร.? อยู่ในพระวิหารเดียวกันกับพระพุทธเจ้า ยังไม่รู้ธรรม แม้สักว่าขันธ์ธาตุและอายตนะ"
ดังนี้แล้ว จึงกราบทูลความเป็นไปนั้น แด่พระตถาคต.

ลำดับนั้น พระศาสดา เมื่อจะทรงแสดงธรรมแก่พวกภิกษุอาคันตุกะนั้น จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-

๕. ยาวชีวมฺปิ เจ พาโล      ปณฺฑิตํ ปยิรุปาสติ
    น โส ธมฺมํ วิชานาติ      ทพฺพี สูปรสํ ยถา.
    ถ้าคนพาล เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตอยู่ แม้จนตลอดชีวิต,
    เขาย่อมไม่รู้ธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกงฉะนั้น.


@@@@@@@

แก้อรรถ         
     
พึงทราบเนื้อความแห่งพระคาถานี้ว่า :-

"ชื่อว่าคนพาลนี้ เข้าไปหา เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิต แม้จนตลอดชีวิต ย่อมไม่รู้ปริยัติธรรมอย่างนี้ว่า
     ‘นี่เป็นพระพุทธพจน์ พระพุทธพจน์มีประมาณเท่านี้’

หรือซึ่งปฏิปัตติธรรมและปฏิเวธธรรมอย่างนี้ว่า
     ‘ธรรมนี้เป็นเครื่องอยู่, ธรรมนี้เป็นมรรยาท, นี้เป็นโคจรกรรม นี้เป็นไปกับด้วยโทษ, กรรมนี้หาโทษมิได้, กรรมนี้ควรเสพ ; กรรมนี้ไม่ควรเสพ ; สิ่งนี้พึงแทงตลอด, สิ่งนี้ควรกระทำให้แจ้ง."

ถามว่า "เหมือนอะไร.?"
แก้ว่า "เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกงฉะนั้น."

อธิบายว่า เหมือนอย่างว่า ทัพพี แม้คนแกงต่างชนิด มีประการต่างๆ อยู่จนกร่อนไป ย่อมไม่รู้รสแกงว่า
     ‘นี้รสเค็ม, นี้รสจืด, นี้รสขม, นี้รสขื่น, นี้รสเผ็ด, นี้รสเปรี้ยว, นี้รสฝาด ฉันใด ;
      คนพาลเข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตตลอดชีวิต ย่อมไม่รู้ธรรมมีประการดังกล่าวแล้ว ฉันนั้นเหมือนกัน.


ในกาลจบเทศนา จิตของพวกภิกษุอาคันตุกะหลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย ดังนี้แล.

               เรื่องพระอุทายีเถระ จบ.






ขอบคุณที่มา :-
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พาลวรรคที่ ๕
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=15&p=5
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=434&Z=478
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=20&A=2059
ขอบคุณภาพจาก pinterest
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ