ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่ควรยินดีในทานแต่เพียงอย่างเดียว พึงเข้าถึงปีติที่เกิดแต่วิเวก  (อ่าน 274 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



ไม่ควรยินดีในทานแต่เพียงอย่างเดียว พึงเข้าถึงปีติที่เกิดแต่วิเวก



 :25: :25: :25:

ปิติสูตร

[๑๗๖] ครั้งนั้น  ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี แวดล้อมด้วยอุบาสก ประมาณ ๕๐๐ คน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
     
     "ดูกรคฤหบดี ท่านทั้งหลายได้บำรุงภิกษุสงฆ์ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัช บริขาร ท่านทั้งหลายไม่ควรทำความยินดีด้วยเหตุเพียงเท่านี้ว่า เราได้บำรุงภิกษุสงฆ์ ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร"
     "เพราะเหตุนั้นแหละ ท่านทั้งหลายควรสำเหนียกอย่างนี้ว่า พวกเราพึงเข้าถึงปีติที่เกิดแต่วิเวกอยู่ตามกาลอันสมควร ด้วยอุบายเช่นไร ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล"

@@@@@@@

เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไม่เคยมีมาแล้ว ตามที่ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระดำรัสนี้ว่า

    "ดูกรคฤหบดี ท่านทั้งหลายได้บำรุงภิกษุสงฆ์ ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัช บริขาร"
    "เพราะเหตุนั้นแหละ ท่านทั้งหลายควรสำเหนียกอย่างนี้ว่า พวกเราพึงเข้าถึงปีติที่เกิดแต่วิเวกอยู่ตามกาลอันสมควร ด้วยอุบายเช่นไร ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล"

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สมัยใด อริยสาวกย่อมเข้าถึงปีติที่เกิดแต่วิเวกอยู่ สมัยนั้น ฐานะ ๕ ประการ ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น คือ สมัยนั้น...
          ทุกข์ โทมนัสอันประกอบด้วยกาม ๑
          สุข โสมนัสอันประกอบด้วยกาม ๑
          ทุกข์ โทมนัสอันประกอบด้วยอกุศล ๑
          สุข โสมนัสอันประกอบด้วยอกุศล ๑
          ทุกข์ โทมนัสอันประกอบด้วยกุศล ๑
          ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สมัยใด อริยสาวกย่อม เข้าถึงปีติที่เกิดแต่วิเวกอยู่ สมัยนั้น ฐานะ ๕ ประการนี้ ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น ฯ


@@@@@@@

พ. ดีละๆ สารีบุตร สมัยใด อริยสาวกย่อมเข้าถึงปีติที่เกิดแต่วิเวกอยู่ สมัยนั้น ฐานะ ๕ ประการ ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น คือ สมัยนั้น...
          ทุกข์ โทมนัสอันประกอบด้วยกาม ๑
          สุข โสมนัสอันประกอบด้วยกาม ๑
          ทุกข์ โทมนัสอันประกอบด้วยอกุศล ๑
          สุข โสมนัสอันประกอบด้วยอกุศล ๑
          ทุกข์ โทมนัสอันประกอบด้วยกุศล ๑

ดูกรสารีบุตร สมัยใด อริยสาวกย่อมเข้าถึงปีติที่เกิดแต่วิเวกอยู่ สมัยนั้น ฐานะ ๕ ประการนี้ ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น ฯ




ที่มา : ปีติสูตร ,พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ ,พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=22&A=4812&Z=4837





ปิติสูตร ภาษาบาลี อักษรไทย

[๑๗๖] อถโข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ปญฺจมตฺเตหิ อุปาสกสเตหิ ปริวุโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ

    คหปตึ ภควา เอตทโวจ ตุเมฺห โข คหปติ ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺฐิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจ เภสชฺชปริกฺขาเรน น โข
    คหปติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิ กรณียา มยํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺฐิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจ เภสชฺชปริกฺขาเรนาติ ตสฺมา ติห
    คหปติ เอวํ สิกฺขิตพฺพํ กินฺติ มยํ กาเลน กาลํ ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยามาติ เอวํ หิ โว
    คหปติ สิกฺขิตพฺพนฺติ ฯ

@@@@@@@

{๑๗๖.๑} เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สารีปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ อจฺฉริยํ ภนฺเต อพฺภุตํ ภนฺเต ยาว สุภาสิตญฺจิทํ 

     ภนฺเต ภควตา ตุเมฺห โข
     คหปติ ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺฐิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจย-เภสชฺชปริกฺขาเรน น โข
     คหปติ ตาวตเกเนว ตุฏฺฐิ กรณียา มยํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺฐิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนาติ ตสฺมา ติห
     คหปติ เอวํ สิกฺขิตพฺพํ กินฺติ มยํ กาเลน กาลํ ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยามาติ เอวํ หิ โว
     คหปติ สิกฺขิตพฺพนฺติ ฯ

{๑๗๖.๒} ยสฺมึ ภนฺเต สมเย อริยสาวโก ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ปญฺจสฺส ฐานานิ ตสฺมึ สมเย น โหนฺติ  ยมฺปิสฺส กามูปสญฺหิตํ
    ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ ยมฺปิสฺส กามูปสญฺหิตํ   
    สุขํ โสมนสฺสํ  ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ ยมฺปิสฺส อกุสลูปสญฺหิตํ   
    ทุกฺขํโทมนสฺสํ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ ยมฺปิสฺส อกุสลูปสญฺหิตํ   
    สุขํ โสมนสฺสํ  ตมฺปิสฺส  ตสฺมึ  สมเย น โหติ ยมฺปิสฺส กุสลูปสญฺหิตํ   
    ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ  สมเย น โหติ ยสฺมึ 

ภนฺเต สมเย อริยสาวโก ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อิมานิ ปญฺจสฺส ฐานานิ ตสฺมึ สมเย น โหนฺตีติ ฯ 

@@@@@@@

สาธุ สาธุ สารีปุตฺต ยสฺมึ สารีปุตฺต สมเย อริยสาวโก ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ปญฺจสฺส ฐานานิ ตสฺมึ สมเย  น โหนฺติ ยมฺปิสฺส กามูปสญฺหิตํ   
    ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ ยมฺปิสฺส กามูปสญฺหิตํ   
    สุขํ โสมนสฺสํ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ ยมฺปิสฺส อกุสลูปสญฺหิตํ   
    ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ ยมฺปิสฺส อกุสลูปสญฺหิตํ   
    สุขํ โสมนสฺสํ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ ยมฺปิสฺส กุสลูปสญฺหิตํ
    ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ตมฺปิสฺส ตสฺมึ สมเย น โหติ ยสฺมึ 

สารีปุตฺต สมเย อริยสาวโก ปวิเวกํ ปีตึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อิมานิ ปญฺจสฺส ฐานานิ ตสฺมึ สมเย น โหนฺตีติ ฯ




ที่มา : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ ภาษาบาลี อักษรไทย พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๔ สุตฺต. องฺ. (๓): ปญฺจก-ฉกฺกนิปาตา
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=22&item=176&items=1





ปีติสูตร ว่าด้วยปีติ

[๑๗๖] ครั้งนั้น อนาถบิณฑิกคหบดี มีอุบาสกประมาณ ๕๐๐ คนแวดล้อม เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเรื่องนี้ว่า

    คหบดี ท่านทั้งหลายได้บำรุงภิกษุสงฆ์ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชชบริขาร
    ท่านทั้งหลายไม่ควรทำความยินดีด้วยเหตุเพียงเท่านี้ว่า
    ‘เราได้บำรุงภิกษุสงฆ์ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชชบริขาร’
    เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า ‘พวกเราพึงบรรลุปีติที่เกิดจากวิเวก(๑-) อยู่ตามกาลอันควรด้วยอุบายอย่างไร’
    ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล

@@@@@@@

เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กราบทูลว่า

   “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏ ตามที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระดำรัสนี้ว่า
    ‘คหบดี ท่านทั้งหลายได้บำรุงภิกษุสงฆ์ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชชบริขาร
    เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า
    ‘พวกเราพึงบรรลุปีติที่เกิดจากวิเวกอยู่ตามกาลอันควร ด้วยอุบายอย่างไร’ 
     ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล

     ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สมัยใดอริยสาวกบรรลุ ปีติที่เกิดจากวิเวกอยู่ สมัยนั้น อริยสาวกนั้นย่อมไม่มีฐานะ ๕ ประการ คือ
     ๑. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยกาม(๒-)
     ๒. ไม่มีสุขโสมนัสอันประกอบด้วยกาม
     ๓. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยอกุศล(๓-)
     ๔. ไม่มีสุขโสมนัสอันประกอบด้วยอกุศล
     ๕. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยกุศล

     ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สมัยใด อริยสาวกบรรลุปีติที่เกิดจากวิเวกอยู่ สมัยนั้น อริยสาวกนั้นย่อมไม่มีฐานะ ๕ ประการนี้”

             
@@@@@@@

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดีละ ดีละ สารีบุตร สมัยใด อริยสาวกบรรลุปีติที่เกิด จากวิเวกอยู่ สมัยนั้น อริยสาวกนั้นย่อมไม่มีฐานะ ๕ ประการ คือ
    ๑. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยกาม
    ๒. ไม่มีสุขโสมนัสอันประกอบด้วยกาม
    ๓. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยอกุศล
    ๔. ไม่มีสุขโสมนัสอันประกอบด้วยอกุศล
    ๕. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยกุศล
             
สารีบุตร สมัยใด อริยสาวกบรรลุปีติที่เกิดแต่วิเวกอยู่ สมัยนั้น อริยสาวกนั้น ย่อมไม่มีฐานะ ๕ ประการนี้”

                                                      ปีติสูตรที่ ๖ จบ



เชิงอรรถ
(๑-) ปีติที่เกิดจากวิเวก ในที่นี้หมายถึง ปีติที่เกิดขึ้น เพราะอาศัยปฐมฌานและทุติยฌาน (องฺ.ปญฺจก.อ. ๓/๑๗๖/๖๘)
(๒-) ทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยกาม หมายถึง ทุกขโทมนัสที่เกิดขึ้นเพราะกาม ๒ ประเภท คือ วัตถุกาม และกิเลสกาม (องฺ.ปญฺจก.อ. ๓/๑๗๖/๖๘)
(๓-) ทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยอกุศล หมายถึง เมื่อบุคคลทำอกุศลกรรม เช่น ยิงลูกศรไปด้วยคิดว่า จะฆ่าเนื้อและสุกร แต่เมื่อลูกศรผิดเป้าหมายไป ก็เกิดทุกขโทมนัสขึ้นว่า ‘เรายิงพลาด’ (องฺ.ปญฺจก.อ. ๓/๑๗๖/๖๘)




ที่มา : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต , ๖. ปีติสูตร ว่าด้วยปีติ
https://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=22&siri=176
ขอบคุณภาพจาก pinterest
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 26, 2025, 09:54:20 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



๖. ปีติสุตฺตวณฺณนา

[๑๗๖] ฉฏฺเฐ กินฺติ มยนฺติ เกน นาม อุปาเยน มยํ.
ปวิเวกปีตินฺติ ปฐมทุติยชฺฌานานิ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกํ ปีตึ.
กามูปสญฺหิตนฺติ กามนิสฺสิตํ ทุวิเธ กาเม อารพฺภ อุปฺปชฺชนกํ.

อกุสลูปสญฺหิตนฺติ "มิคสูกราทโย วิชฺฌิสฺสามี"ติ สรํ ขิปิตฺวา ตสฺมึ วิรทฺเธ "วิรทฺธํ มยา"ติ เอวํ อกุสเล นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกํ.

ตาทิเสสุ ปน ฐาเนสุ อวิรชฺฌนฺตสฺส "สุฏฺฐุ เม วิทฺธํ, สุฏฺฐุ เม ปหฏนฺ" ติ อุปฺปชฺชนกํ อกุสลูปสญฺหิตํ สุขํ โสมนสฺสํ นาม.

ทานาทีนํ อุปกรณานํ อสมฺปตฺติยา อุปฺปชฺชมานํ ปน กุสลูปสญฺหิตํ ทุกฺขํ โทมนสฺสนฺติ เวทิตพฺพํ.




ที่มา : อรรถกถาเล่มที่ ๑๖ ภาษาบาลีอักษรไทย องฺ.อ. (มโนรถ.๓)
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=16&A=1514


 :25: :25: :25:

อรรถกถาปีติสูตรที่ ๖              
               
พึงทราบวินิจฉัยในปีติสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-
               
บทว่า กินฺติ มยํ ได้แก่ เราพึงเข้าถึง (ปวิเวกปีติ) ด้วยอุบายไร.
บทว่า ปวิเวกปีตึ ได้แก่ ปีติที่อาศัยปฐมฌานและทุติยฌานเกิดขึ้น.         
บทว่า กามูปสญฺหิตํ ได้แก่ ทุกข์อาศัยกาม คืออาศัยกามสองอย่าง ปรารภกามสองอย่างเกิดขึ้น.     

บทว่า อกุลลูปสญฺหิตํ ความว่า เมื่อคิดว่าเราจักยิงเนื้อสุกร เป็นต้น ดังนี้ ยิงลูกศรพลาดไป ทุกขโทมนัสอาศัยอกุศลอย่างนี้ว่า เรายิงพลาดไปเสียแล้วดังนี้ เกิดขึ้น ชื่อว่าประกอบด้วยอกุศล.

เมื่อยิงไม่พลาดไปในฐานะเช่นนั้น สุขโสมนัสเกิดขึ้นว่า เรายิงดีแล้ว เราประหารดีแล้วดังนี้ ชื่อว่าประกอบด้วยอกุศล.

แต่ทุกขโทมนัสที่เกิดขึ้นเพราะอุปกรณ์มีทาน เป็นต้น ยังไม่พร้อม พึงทราบว่าประกอบด้วยกุศล.

               จบอรรถกถาปีติสูตรที่ ๖   




อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต จตุตถปัณณาสก์ อุปาสกวรรคที่ ๓ , ๖. ปีติสูตร
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=176
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ