.
สมชีวิสูตรที่ ๑ - ครองรักให้ยั่งยืน
ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง หวังจะพบกันและกัน ทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพไซร้ ทั้งสองเทียว พึงเป็นผู้
• มีศรัทธาเสมอกัน
• มีศีลเสมอกัน
• มีจาคะเสมอกัน
• มีปัญญาเสมอกัน
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมแก่นกุลบิดา_______________________________________
พระสูตร : สมชีวิสูตรที่ ๑ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ๒๑/๕๕/๖๐
ขอบคุณที่มา :
https://uttayarndham.org/dhamma-daily/4513@@@@@@@
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
[183] สมชีวิธรรม 4 (หลักธรรมของคู่ชีวิต, ธรรมที่จะทำให้คู่สมรสชีวิตสมหรือสม่ำเสมอกลมกลืนกัน อยู่ครองกันยืดยาว - qualities which make a couple well matched)
1. สมสัทธา (มีศรัทธาสมกัน - to be matched in faith)
2. สมสีลา (มีศีลสมกัน - to be matched in moral)
3. สมจาคา (มีจาคะสมกัน - to be matched in generosity)
4. สมปัญญา (มีปัญญาสมกัน - to be matched in wisdom)
องฺ.จตุกฺก. 21/55/80.
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ ภาษาบาลี อักษรไทย พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๓ สุตฺต. องฺ. (๒): จตุกฺกนิปาโต
[๕๕] เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุํสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย ฯ
อถโข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน นกุลปิตุโน คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ ฯ
อถโข นกุลปิตา จ คหปติ นกุลมาตา จ คหปตานี เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข นกุลปิตา คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ ยโต เม ภนฺเต นกุลมาตา คหปตานี ทหรสฺเสว ทหรา อานีตา นาภิชานามิ นกุลมาตรํ คหปตานึ มนสาปิ อติจริตา กุโต ปน กาเยน อิจฺเฉยฺยาม มยํ ภนฺเต ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อญฺญมญฺญํ ปสฺสิตุํ อภิสมฺปรายญฺจ อญฺญมญฺญํ ปสฺสิตุนฺติ ฯ
นกุลมาตาปิ โข คหปตานี ภควนฺตํ เอตทโวจ ยโตหํ ภนฺเต นกุลปิตุโน คหปติสฺส ทหรสฺเสว ทหรา อานีตา นาภิชานามิ นกุลปิตรํ คหปตึ มนสาปิ อติจริตา กุโต ปน กาเยน อิจฺเฉยฺยาม มยํ ภนฺเต ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อญฺญมญฺญํ ปสฺสิตุํ อภิสมฺปรายญฺจ อญฺญมญฺญํ ปสฺสิตุนฺติ ฯ
อากงฺเขยฺยุํ เจ คหปตโย อุโภ ชานิปตโย ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อญฺญมญฺญํ ปสฺสิตุํ อภิสมฺปรายญฺจ อญฺญมญฺญํ ปสฺสิตุํอุโภว อสฺสุ
สมสทฺธา
สมสีลา
สมจาคา
สมปญฺญา
เต ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อญฺญมญฺญํ ปสฺสนฺติ อภิสมฺปรายญฺจ อญฺญมญฺญํ ปสฺสนฺตีติ ฯ
อุโภ สทฺธา วทญฺญู จ สญฺญตา ธมฺมชีวิโน
เต โหนฺติ ชานิปตโย อญฺญมญฺญํ ปิยํ วทา
อตฺถา สมฺปจุรา โหนฺติ ผาสุกํ อุปชายติ
อมิตฺตา ทุมฺมนา โหนฺติ อุภินฺนํ สมสีลินํ
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน สมสีลพฺพตา อุโภ
นนฺทิโน เทวโลกสฺมึ โมทนฺติ กามกามิโนติ ฯ
@@@@@@@
[๕๖] อากงฺเขยฺยุํ เจ ภิกฺขเว อุโภ ชานิปตโย ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อญฺญมญฺญํ ปสฺสิตุํ อภิสมฺปรายญฺ จ อญฺญมญฺญํ ปสฺสิตุํ อุโภว อสฺสุ
สมสทฺธา
สมสีลา
สมจาคา
สมปญฺญา
เต ทิฏฺเฐ เจว ธมฺเม อญฺญมญฺญํ ปสฺสนฺติ อภิสมฺปรายญฺจ อญฺญมญฺญํ ปสฺสนฺตีติ ฯ
อุโภ สทฺธา วทญฺญู จ สญฺญตา ธมฺมชีวิโน
เต โหนฺติ ชานิปตโย อญฺญมญฺญํ ปิยํ วทา
อตฺถา สมฺปจุรา โหนฺติ ผาสุกํ อุปชายติ
อมิตฺตา ทุมฺมนา โหนฺติ อุภินฺนํ สมสีลินํ
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน สมสีลพฺพตา อุโภ
นนฺทิโน เทวโลกสฺมึ โมทนฺติ กามกามิโนติ ฯ
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
๕. ปฐมสมชีวีสูตร ว่าด้วยผู้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอกัน สูตรที่ ๑
[๕๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่เภสกฬามฤคทายวัน เขตกรุงสุงสุมารคีระ(๑-) แคว้นภัคคะ ครั้นในเวลาเช้าพระผู้มีพระภาคทรงครองอันตรวาสก ถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของนกุลปิตาคหบดี ประทับนั่งบนพุทธอาสน์ที่ปูลาดไว้แล้ว ลำดับนั้น นกุลปิตาคหบดีและนกุลมาตาคหปตานี (๒-) พากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่ข้าพระองค์นำนกุลมาตาคหปตานีมา ข้าพระองค์ไม่เคยคิดที่จะประพฤตินอกใจนกุลมาตาคหปตานี ไหนเลยจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า พวกข้าพระองค์ปรารถนาที่จะพบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า”
แม้นกุลมาตาคหปตานีก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นับแต่เวลาที่นกุลปิตาคหบดีหนุ่มนำหม่อมฉันผู้ยังเป็นสาวมา หม่อมฉันไม่เคยคิดที่จะประพฤตินอกใจนกุลปิตาคหบดี ไหนเลยจะประพฤตินอกใจด้วยกายเล่า พวกข้าพระองค์ปรารถนาที่จะพบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
“คหบดีและคหปตานี ถ้าสามีและภรรยาทั้ง ๒ ฝ่าย หวังจะพบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ทั้ง ๒ ฝ่ายพึง
มีศรัทธาเสมอกัน
มีศีลเสมอกัน
มีจาคะเสมอกัน
มีปัญญาเสมอกัน
สามีและภรรยาทั้ง ๒ ฝ่ายนั้นย่อมได้พบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า”
สามีและภรรยาทั้ง ๒ ฝ่าย เป็นผู้มีศรัทธา
รู้ความประสงค์ของผู้ขอ สำรวมระวัง ดำเนินชีวิตโดยธรรม
เจรจาคำไพเราะอ่อนหวานต่อกัน มีความเจริญรุ่งเรือง มีความผาสุก
มีความประพฤติเสมอกันทั้ง ๒ ฝ่าย รักใคร่ ไม่คิดร้ายต่อกัน
ทั้ง ๒ ฝ่าย ประพฤติธรรมในโลกนี้ มีศีลและวัตรเสมอกัน
เสวยอารมณ์ที่น่าใคร่ ย่อมเพลิดเพลินบันเทิงใจในเทวโลก
ปฐมสมชีวีสูตรที่ ๕ จบ
____________________________________________
(๑-) หมายถึงชื่อนครหลวงแห่งแคว้นภัคคะที่พระพุทธเจ้าจำพรรษาที่ ๘
(๒-) หมายถึงพราหมณ์ผู้เคยเป็นบิดา เป็นลุง และเป็นอาของพระตถาคตอย่างละ ๕๐๐ ชาติ และพราหมณีผู้เคยเป็นมารดา เป็นป้า และเป็นน้าของตถาคตอย่างละ ๕๐๐ ชาติ (องฺ.จตุกฺก.อ.
๒/๕๕-๕๖/๓๕๐)
@@@@@@@
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
๖. ทุติยสมชีวีสูตร ว่าด้วยผู้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอกัน สูตรที่ ๒
[๕๖] ภิกษุทั้งหลาย ถ้าสามีและภรรยาทั้ง ๒ ฝ่ายหวังที่จะพบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ทั้ง ๒ ฝ่ายพึง
มีศรัทธาเสมอกัน
มีศีลเสมอกัน
มีจาคะเสมอกัน
มีปัญญาเสมอกัน
สามีและภรรยาทั้ง ๒ ฝ่ายนั้นย่อมได้พบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
สามีและภรรยาทั้ง ๒ ฝ่าย เป็นผู้มีศรัทธา
รู้ความประสงค์ของผู้ขอ สำรวมระวัง ดำเนินชีวิตโดยธรรม
เจรจาคำไพเราะอ่อนหวานต่อกัน มีความเจริญรุ่งเรือง มีความผาสุก
มีความประพฤติเสมอกันทั้ง ๒ ฝ่าย รักใคร่ ไม่คิดร้ายต่อกัน
ทั้ง ๒ ฝ่ายประพฤติธรรมในโลกนี้ มีศีลและวัตรเสมอกัน
เสวยอารมณ์ที่น่าใคร่ ย่อมเพลิดเพลินบันเทิงใจในเทวโลก
ทุติยสมชีวีสูตรที่ ๖ จบ
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ปุญญาภิสันทวรรคที่ ๑
๕. สมชีวิสูตรที่ ๑
อรรถกถาปฐมสมชีวสูตรที่ ๕
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมสมชีวสูตรที่ ๕ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า เตนฺปสงฺกมิ ความว่า ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าไปหาเพื่ออะไร.?
ตอบว่า เพื่อทรงอนุเคราะห์. แท้จริง พระตถาคตเมื่อเสด็จไปแว่นแคว้นนั้น ย่อมเสด็จไปเพื่อทรงสงเคราะห์คนทั้งสองนี้เท่านั้น.
ได้ยินว่า นกุลบิดาได้เป็นบิดาของพระตถาคตมาแล้ว ๕๐๐ ชาติ เป็นปู่ ๕๐๐ ชาติ เป็นอา ๕๐๐ ชาติ.
แม้นกุลมารดาก็ได้เป็นมารดามา ๕๐๐ ชาติ เป็นย่า ๕๐๐ ชาติ เป็นน้า ๕๐๐ ชาติ
คนเหล่านั้นได้ความรักเพียงดังบุตร จำเดิมแต่เวลาตนเห็นพระศาสดา จึงเข้าไปหาแล้วเกิดเป็นโสดาบันด้วยปฐมทัสนะ (การเห็นครั้งแรก) เหมือนแม่โคเห็นลูกโคแล้วติดในลูกโค ร้องอยู่ว่า หนฺตาต หนฺตาต ดังนี้.
ในนิเวศน์ เขาจึงได้จัดอาสนะไว้ถวายแก่ภิกษุ ๕๐๐ รูปเป็นประจำ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงเสด็จเข้าไปหาเพื่ออนุเคราะห์คนเหล่านั้น ด้วยประการฉะนี้.
บทว่า อติจริตา ได้แก่ ประพฤตินอกใจ.
บทว่า อภิสมฺปรายญฺจ ได้แก่ และในโลกหน้า.
บทว่า สมสทฺธา ได้แก่ เป็นผู้เสมอ เป็นเช่นเดียวกันด้วยศรัทธา.
แม้ในศีลเป็นต้นก็นัยนี้เหมือนกัน.
จบอรรถกถาปฐมสมชีวสูตรที่ ๕
@@@@@@@
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ปุญญาภิสันทวรรคที่ ๑
๖. สมชีวิสูตรที่ ๒
ทุติยสมชีวิสูตรที่ ๖ ทรงแสดงแก่พวกภิกษุอย่างเดียว.
บทที่เหลือในบททั้งปวงก็เป็นเช่นนั้น.
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ ปุญญาภิสันทวรรคที่ ๑ ๖. สมชีวิสูตรที่ ๒ จบ.