ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไขข้อสงสัย..แช่งคนอื่นบาปไหม.?  (อ่าน 7 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29580
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ไขข้อสงสัย..แช่งคนอื่นบาปไหม.?
« เมื่อ: ธันวาคม 21, 2025, 07:58:39 am »
0
.



ไขข้อสงสัย..แช่งคนอื่นบาปไหม

คำพูดเป็นสิ่งที่เรียกกลับคืนมาไม่ได้ และไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ผลของการพูดออกไปแบบนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นกับใครเลยนอกจากตัวเราเอง

พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงการสาปแช่งเอาไว้ว่า..

   “การกระทำใดที่ไม่ดี การกระทำนั้น ย่อมไม่ควรทำ โดยเฉพาะการกระทำที่จะทำให้บุคคลอื่นเป็นทุกข์ เดือดร้อน กังวลใจ ไม่ควรทำอย่างยิ่ง"

    “คำด่า คำสาปแช่ง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครปรารถนาหรือต้องการที่จะได้ฟัง ได้ยินข้องเกี่ยว หรือข้องแวะ ใครที่มักจะทำตนให้อยู่ในสิ่งไม่ดีเหล่านี้ คือ พูดไม่ดี คิดไม่ดี และชอบสาปแช่งผู้อื่น บุคคลผู้นั้นก็คิดผิด และทำผิดด้วยการกระทำของเขาอยู่แล้ว ชีวิตของเขาก็จะถูกผูกมัดด้วยคำสาปแช่ง คำด่า ถูกผูกมัดด้วยกรรมที่ไม่ดีเหล่านั้นอยู่แล้ว”

ดังนั้นใครก็ตามที่พูดใส่ร้าย เสียดสีหรือสาปแช่งให้ร้ายคนอื่นก็ย่อมได้รับผลกรรมนั้น เพราะการพูดไม่ดีเหล่านี้เป็นคำหยาบอย่างหนึ่ง เป็นวจีทุจริตที่จะต้องได้รับผลแห่งการกระทำตามมาอย่างแน่นอน

วจีทุจริต คือ การประพฤติชั่วทางวาจา ทั้งการพูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด และพูดเพ้อเจ้อ รวมถึงการสาปแช่งผู้อื่นด้วย ซึ่งผลกรรมที่เกิดจากวจีทุจริตตามที่แสดงไว้ในพระไตรปิฎกคือ จะตกนรกไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นเปรต อย่างเบาที่สุดแม้ได้เกิดเป็นมนุษย์ก็จริง แต่จะมีเสียงที่ประหลาดหรือเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีคนคบหาสมาคมด้วย ไปไหนก็มีแต่คนไม่ชอบ มีแต่คนคอยนินทา เรียกว่ามีความทุกข์ตลอดทั้งชาตินี้และชาติหน้า เพราะไปว่าเค้าไว้ก่อน ทำให้ตัวเราไม่เป็นที่รักของคนอื่น

@@@@@@@

บางคนด่าคนอื่น แช่งคนอื่นโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย แปลว่าเราทำผิดจนชิน จนไม่รู้ว่าผิดด้วยซ้ำ ซึ่งการทำผิดจนชินแบบนี้ อย่าคิดว่าไม่ผิด ไม่บาปอย่างเด็ดขาด เพราะผลกรรมจะตามทันไปทั้งชาตินี้และชาติหน้าก็ไม่ดี ทำให้มีความทุกข์สารพัดอย่างด้วย

ส่วนคนที่ถูกแช่ง ถามว่าจะเป็นไปตามที่โดนแช่งหรือไม่ คำตอบคือ ‘ไม่’ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นทำผิดด้วยหรือไม่ ถ้าผิดก็ย่อมต้องมีผลแห่งการกระทำนั้นเกิดขึ้น ตามกฎแห่งกรรม ตามเหตุปัจจัยที่เขาได้ทำไว้ จะหนักหรือเบาก็เป็นไปตามความผิดบาปที่เกิดขึ้นนั่นเอง แต่จะไม่เกิดขึ้น ไม่เป็นไปตามที่โดนแช่งนั่นเอง

ทีนี้ถ้าถามว่าเวลาดูข่าวในทีวี หรือเห็นคนทำชั่วแล้ว เราดันเผลอไปแช่งคนชั่วนั่นเข้าให้ ถามว่าผิดบาปหรือไม่ คำตอบก็คือ กรรมอยู่ที่เจตนา ถ้าเราไม่ได้มีเจตนาที่จะแช่งชักหักกระดูกก็ย่อมไม่ได้รับผลแห่งการกระทำนั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเจตนาแช่งอย่างชัดเจน กรรมก็ไม่มีทางไปตกอยู่ที่ใครนอกจากตัวเราเอง

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ทั้งคนแช่งและคนที่ถูกแช่งต่างก็ได้ผลแห่งการกระทำของตน คนแช่งก็ได้ผลจากวจีทุจริตที่ไปแช่งเขา ส่วนคนถูกแช่งก็ได้รับผลแห่งการกระทำที่ได้ทำไว้ เพราะฉะนั้นน่าจะเป็นการดีกว่า ถ้าต่างคนต่างทำหน้าที่ของตน อะไรที่ไม่ดีก็อย่าให้ออกจากปากของเรา ถ้อยคำที่ออกจากปากควรเป็นคำดี ๆ ที่มีคุณค่า มีสาระ เป็นวจีสุจริตจะดีที่สุด..
 

(ไม่ปรากฏนามผู้เขียน)



ขอขอบคุณ :-
LINE TODAY | เผยแพร่ 01 ก.ค. 2563 เวลา 00.00 น.
https://today.line.me/th/v3/article/e1VeQl





#แช่งคนอื่นบาปไหม
คนมีองค์ · หมื่นรู้ มิสู้ ปล่อยวาง · 22 สิงหาคม 




 :96: :96: :96:

พระพุทธเจ้าได้พูดถึงการสาปแช่งเอาไว้ว่า... การกระทำใดที่ไม่ดี การกระทำนั้นย่อมไม่ควรทำ โดยเฉพาะการกระทำที่จะทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ เดือดร้อน กังวลใจ ไม่ควรทำอย่างยิ่ง

คำด่า คำสาปแช่ง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครปรารถนาหรือต้องการที่จะได้ยินได้ฟัง ข้องเกี่ยวหรือข้องแวะ ใครที่มักจะพูดไม่ดีคิดไม่ดีและสาปแช่งผู้อื่น บุคคลผู้นั้นก็จะถูกผูกมัดด้วยคำสาปแช่ง ด้วยกรรมที่ไม่ดีอยู่แล้ว

ดังนั้น ใครที่ชอบพูดใส่ร้าย เสียดสี หรือสาปแช่งให้ร้ายคนอื่น ก็ย่อมได้รับผลกรรมนั้น เพราะถือเป็นคำหยาบอย่างหนึ่ง เป็น"วจีทุจริต"

#วจีทุจริต คือ การประพฤติชั่วทางวาจา ทั้งการพูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ รวมถึงการสาปแช่งผู้อื่น ผลกรรมที่ได้คือ จะตกนรกไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นเปรต แม้ได้เกิดเป็นมนุษย์ ก็จะมีเสียงที่ประหลาด หรือเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีคนคบหาสมาคมด้วย มีแต่คนไม่ชอบ มีแต่คนคอยนินทา เรียกว่า มีความทุกข์ตลอดชาตินี้และชาติหน้า

@@@@@@@@

#บางคนด่าคนอื่นแช่งคนอื่นโดยไม่รู้สึกอะไรเลย แปลว่า ทำผิดจนชิน จนไม่รู้ตัวว่าผิด การกระทำแบบนี้อย่าคิดว่าไม่ผิดไม่บาป เพราะผลกรรมจะตามติดทั้งชาตินี้และชาติหน้า ทำให้มีทุกข์สารพัดอย่าง

#ส่วนคนที่โดนแช่งจะเป็นไปตามคำที่แช่งหรือไม่ คำตอบคือไม่ แต่จะมีผลกรรมตามการกระทำของตน จะหนักหรือเบาก็ขึ้นอยู่กับการกระทำนั้น แต่จะไม่เป็นไปตามคำที่แช่งมา

#แต่ถ้าหากไม่มีเจตนาแช่งใคร ผลก็จะไม่เกิด แต่ถ้ามีเจตนาชัดเจน กรรมก็จะไม่มีทางตกไปอยู่ที่ใครนอกจากตัวเอง

#สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ ทั้งคนแช่งและคนที่โดนแช่ง ต่างก็ได้รับผลของการกระทำของตน คนแช่งก็ได้รับผลแห่งวจีทุจริต คนที่โดนแช่งก็ได้รับผลของการกระทำที่ทำไว้

#เพราะฉะนั้นต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนจะดีกว่า อะไรที่ไม่ดีอย่าให้ออกจากปากหรือจะพิมพ์ข้อความไม่ดีออกจากความคิดก็ตาม ก็อย่าให้ออกมาเลย สิ่งที่ควรมีควรแสดงออกมาควรเป็นคำพูดที่ดีความคิดที่ดี มีประโยชน์ มีสาระ เป็น"วจีสุจริต" ดีที่สุด



ขอบคุณที่มา : โพสต์ของ หมื่นรู้ มิสู้ ปล่อยวาง
https://www.facebook.com/groups/321315474573629/posts/24534737286138110/





ถ้าเคยสาปแช่งใคร แต่วันนี้เราอภัยแล้ว จะทําอย่างไรกับค่าสาปแช่งเราในวันนั้น.?
ดังตฤณ Dungtrin Fan Club | 20 พฤษภาคม 2020




 :96: :96: :96:

บางคนมีความรู้สึกว่าตัวเองปากศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าแช่งใครไปแล้ว มักจะมีผลตามนั้น อันนี้พอพูดถึงเรื่องนี้ มันต้องพูดถึงสิ่งลึกลับที่พิสูจน์เป็นวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แล้วก็ไม่สามารถที่จะพิสูจน์ทราบได้เป็นสากล เพราะว่าเราจับทุกคนเป็นมาเป็นตัวตั้ง แล้วก็มาทดลองหาข้อสรุปกันไม่ได้แบบวิทยาศาสตร์นะครับ

แต่เราพูดอย่างนี้ก็แล้วกันว่า สิ่งใดก็ตามเราทำไปแล้ว มันจะเกิดผลหรือไม่เกิดผลอะไรก็แล้วแต่ มันจะมีประสิทธิภาพน้อย หรือประสิทธิภาพมาก ไปลบล้างไม่ได้ แต่มันสามารถเจือจางได้ ด้วยของใหม่คือ ของเก่ากับของใหม่ผสมกันได้

เพราะพระพุทธเจ้าท่านตรัสเปรียบเทียบ เหมือนกับบาปเก่าเป็นก้อนเกลือ แล้วถ้าเราใส่น้ำเติมเข้าไป ยิ่งมากเท่าไหร่ หนึ่งแก้วมันก็เจือจางระดับหนึ่ง ยังเค็มอยู่ แต่ถ้าหนึ่งโอ่ง แม้เกลือจะยังอยู่เป็นก้อนเล็กๆ นั้น แต่ก็แทบจะไม่ได้รสเค็ม ฉันใด ก็ฉันนั้น

ถ้าหากว่า เราไม่สบายใจ ที่เคยไปก่อบาปก่อกรรมอะไรไว้ เคยไปแช่งใครเขาไว้ ก็หัดที่จะชื่นชม หรือว่าอวยพร ทำในสิ่งที่มันเป็นตรงกันข้ามกัน เคยทำบาปไว้อย่างไร ก็ทำบุญให้เป็นตรงกันข้ามกันแบบนั้น

@@@@@@@

อย่างถ้าคุณสวดอิติปิโสด้วยความเข้าใจว่า เราสรรเสริญ เรากล่าวคำยกย่อง พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ว่ามีคุณวิเศษอย่างไรบ้าง ถ้าใจเกิดความเบิกบาน เกิดความชุ่มชื่น  เกิดความรู้สึกสว่างโล่ง ก็จำลักษณะจิตลักษณะใจแบบนั้น ไปอวยพร หรือว่าไปพูดดี ให้เกิดความรู้สึกดีๆ กับคนที่เราเคยสาปแช่ง หรือว่าไม่ต้องเคยสาปแช่งก็ได้คนทั่วไปก็ได้

ทำให้มากๆ จนกระทั่งเกิดความรู้สึกว่า เรามีฤทธิ์ เรามีอำนาจ ในการทำให้คนอื่นรู้สึกดี เรามีความสามารถ ทำให้ชีวิตคนอื่น มีความสว่างขึ้นนิดหนึ่งทันทีที่เราพูดไป ตัวนี้แหละ ที่มันเริ่มจะหมือนกับน้ำที่มาละลายเกลือ เหมือนกับความสามารถที่เป็นความสว่าง มาขับไล่ของเดิมที่มันเป็นความมืดนะครับ ยิ่งสว่างมากขึ้นเท่าไหร่ ความมืดยิ่งหายไปมากขึ้นเท่านั้น

อันนี้ก็เหมือนกับถ้าเรามีความสามารถในการอวยพรคนได้แล้ว เพื่อจะแก้ความรู้สึกผิด ก็อาจจะไปอวยพรให้เขาเกิดอะไรที่มันดี ที่มันเป็นไปในทางเจริญนะครับ

ทีนี้มาทำความเข้าใจกันในขั้นสุดท้ายว่า คนเราเนี่ยไม่เป็นไปตามปากของใคร ยกเว้นแต่ว่า บาปของเขา บุญของเขา มันจะให้ผลตามนั้นอยู่แล้ว สอดคล้องกับคำอวยพร หรือคำสาปแช่งของเราอยู่แล้ว การสาปแช่งของเรา มันเป็นพลังชนิดหนึ่งในธรรมชาติ การอวยพรของเรา ก็เป็นพลังชนิดหนึ่งในธรรมชาติเช่นกัน ธรรมชาติด้านมืด หรือธรรมชาติด้านสว่าง ซึ่งมันไม่ได้มีผลขนาดที่จะเป็นมือไม้ไปบิดชีวิตของเขา ให้มันเพี้ยนไป หรือบิดเบี้ยวไปจากที่มันควรจะเป็นได้แต่มันมีผลทางใจ ที่ทำให้มันเกิดแรงอัด

 
@@@@@@@

หรืออย่างถ้ามีวาจาสิทธิ์ อันเกิดจากการสะสมตบะบารมีมา พูดคำไหน ทำคำนั้นได้ตลอดชีวิต คนพวกนี้ เวลาที่สาปแช่งใครอะไรออกไป บางทีมันเป็นพลัง ซึ่งถ้าหากว่า ผู้รับพลังปะทะมีบุญอ่อน ไม่มีกำแพง บางทีมันก็อาจจะก่อให้เกิดอะไรขึ้นมาได้จริงๆ แต่อันนี้ส่วนใหญ่ต้องระดับที่ว่า ผู้บำเพ็ญตบะมาทั้งชีวิต บำเพ็ญคุณงามความดีมา

ในขณะที่ผู้ถูกสาปแช่ง ไม่ได้มีคุณงามความดีอะไรเลย ไม่ได้มีกำแพงที่จะมาขวาง บางทีมันก็คล้ายๆกับเราชกด้วยหมัด ถ้าหมัดของเรามีกำลัง แล้วคนที่รับหมัด ไม่ได้มีกำลังต่อต้าน บางทีมันก็ล้มไปได้ ก็เปรียบเทียบอย่างนั้นก็แล้วกัน แต่ไม่ใช่ว่าเราพูดอะไรไป มันจะเป็นไปตามนั้นได้ทุกครั้ง หรือว่าเป็นอย่างนั้นได้จริงเสมอไป มันมีเหตุปัจจัยอะไรหลายๆอย่างนะครับ

ซึ่งคุณแค่ทำไว้ในใจว่า เราจะเป็นผู้รักษาศีล เป็นผู้ให้มหาทาน เป็นผู้ให้ความปลอดภัยแบบไม่จำกัด ตรงนี้เนี่ย มันก็จะรู้สึกถึงพลังความปลอดภัย ที่ออกไปจากจากตัวเรา ไม่เป็นพิษไม่เป็นภัยกับใคร แม้ด้วยพลังวาจาที่เป็นทุจริต อันนี้ถ้าทำตลอดชีวิตที่เหลือ มันก็จะช่วยให้ความรู้ผิด หรือว่าอะไรที่นึกว่า มันจะไปเกิดขึ้นกับเขาหรือเปล่า มันเจือจางลงได้นะครับ

มันหายไปได้ คือ อย่าไปกังวลมาก เพราะว่าถ้ารู้สึกผิด หรือกังวลมากๆเนี่ย บางทีมันก็มีจิตต่อเนื่องที่ไปผูกไว้ ตัวความกังวลมันเป็นสายใยด้านมืดชนิดหนึ่ง



ขอบคุณที่มา : โพสต์ของ ดังตฤณ Dungtrin Fan Club
https://www.facebook.com/DungtrinFanClub/posts/บางคนมีความรู้สึกว่าตัวเองปากศักดิ์สิทธิ์-เพราะว่าแช่งใครไปแล้ว-มักจะมีผลตามนั้น/3100869536618849/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2025, 08:12:06 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ