.
ในหลวง เคยสูบพระโอสถมวน (บุหรี่) แต่ทรงเลิกได้ เพราะพสกนิกรเพจรวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น ระบุถึงพระราชดำรัส เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2547 เกี่ยวกับภัยของบุหรี่ ใจความว่า อดีตในหลวงเคยสูบพระโอสถมวน(บุหรี่) แต่ทรงเลิกได้ เพราะท่านต้องการเป็นแบบเยี่ยงอย่างที่ดี แก่พสกนิกร
ถ้ามีคนมาถามว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวง ให้ใช้เวลาทั้งชีวิตบอกถึงความดีท่านคงไม่พอ แต่ถ้าให้พูดถึงท่านแบบบ้านๆเข้าใจง่าย ท่านเป็นผู้ชายที่มีเชื้อสายกษัตริย์ เรียนจบนอก ติดดิน รักสัตว์ เก่งดนตรี เก่งกีฬา ใจดีมีเมตตา รักเดียวใจเดียว ไม่เปลี่ยนแปลง เขียนเพลงได้ เล่นดนตรีได้หลายชนิด ถ่ายรูปเก่ง ขับเรือได้(เรือท่านต่อเอง) เก่งวิทยาศาสตร์ พูดได้หลายภาษา เรียนเก่ง
พูดเพราะเป็นสุภาพบุรุษ แต่งตัวดี มีธรรมมะในใจ ไม่ถือตัว รักครอบครัว รักพ่อแม่ รักสังคม เป็นนักสังคมและนักพัฒนา นักประดิษฐ์ เป็นนักสำรวจ นักวางแผน นักเดินทาง เก่งทั้งศาสตร์และศิลป์ มีอารมณ์ขันและมีความโรแมนติค ท่านยังทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ เกินกว่าที่มุษย์คนนึงจะทำเพื่อคนอื่นได้
ท่านเคยสูบบุหรี่แต่เลิกบุหรี่ไปนานแล้ว (โบราณชาววังเขาสูบกันปกติ ไม่ใช่เรื่องเสื่อมเสีย แต่อย่างใด รัชกาลที่ ๕ และที่๗ก็ทรงโปรดบุหรี่ไปป์) ที้ท่านเลิกบุหรี่เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ และท่านต้องการเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พสกนิกรถ้าไปบอกใครว่านี้รวมอยู่ในคนๆเดียว คงจะไม่มีใครเชื่อ แต่มีพระองค์มีอยู่จริง ไม่มีใครเทียบเท่าท่านได้อีกแล้วจริงๆ
แล้วเรื่องทรงสูบพระโอสถมวนของในหลวง พระองค์ไม่เคยทรงปิดบัง และไม่เคยปฏิเสธว่าทรงเคยสูบ เพราะในอดีตการสูบบุหรี่ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจเหมือนในยุคปัจจุบันนี้ และในหลวงก็ทรงรู้โทษภัยของการสูบบุหรี่เป็นอย่างดี เพราะโทษภัยนี้ก่อให้เกิดพระโรค แก่พระญาติสนิทของในหลวง ก็คือ สมเด็จพระชนนี และสมเด็จพระพี่นางเธอฯ รวมทั้งโรคพระหทัยของพระองค์ก็มีสาเหตุจากการสูบบุหรี่ เช่นกัน
ผมขอยกส่วนหนึ่งของพระราชดำรัส เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2547 เกี่ยวกับภัยของบุหรี่ มาให้อ่านครับ
".... เราเองเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่เด็ก ๆ บุหรี่ จริงไม่มี เป็นไม้ซางแห้ง ๆ สูบ ก็เด็ก ๆ เขาเล่นสูบ แต่ทีหลังเลิก มาตอนอายุ 18 ได้สูบบุหรี่ เพราะทำไม เพราะตอนนั้นสมเด็จพระบรมราชชนนี ท่านบอกว่า เด็ก ๆ ห้ามสูบบุหรี่ ๆ เด็ก ๆ หมายความว่าลูกท่าน ต้องอายุ 18 ก่อน แต่ตอนนั้นอายุ 18 และก็มาหลังสงครามพอดี พวกทหารฝรั่งเขามีกระป๋องสำหรับทหาร มีอาหารยังชีพ และมีบุหรี่ 6 มวนในนั้น คนเขาก็ให้มา เราก็ลอง เวียนหัว ตอนนั้นอายุ 18 นานๆ ไปก็เลยชินแต่ว่าบุหรี่อย่างนั้น ก็หมดไป หมดสงครามเห็นเขาสูบบุหรี่ ก็เลยสูบตั้งแต่นั้นมา
สูบบุหรี่มาจนกระทั่งทีหลังมันมีอาการหัวใจ หมอก็บอกให้เลิกสูบบุหรี่ ก็ไม่เชื่อหมอ ก็ยังอาการหัวใจต่อ จนกระทั่งหลังๆ มีบุหรี่อยู่ในห้องไม่ไหว วางไว้บนโต๊ะ ยังมีอยู่ในนั้นในซองบุหรี่มีสัก 10 มวน วางเอาไว้ไม่แตะอีกเลย เพราะว่าบอกให้เลิก เราก็เลิกทีละมวน ทีหลังเอ้ามี 2 มวน ทำไปทำมา เราก็เอาหนังสือราชการนั้นมาเอามาวางทับ ถุงบุหรี่ก็อยู่ใต้หนังสือราชการ ไม่รู้เดี๋ยวนี้รู้เขาคงขุดไปทิ้งหมดแล้ว แต่อยู่ใต้ที่ตั้งหนังสือนี่
ภาพสมเด็จย่าในอิริยาบถสูบพระโอสถมวน(บุหรี่)
ขอบคุณภาพจาก : X lll•ประวัติศาสตร์แนวเอียง•lll ,@somsakjeam112 ,8:17 ก่อนเที่ยง · 29 เม.ย. 2021

ภาพสมเด็จย่าในอิริยาบถสูบพระโอสถมวน(บุหรี่)
ขอบคุณภาพจาก : X lll•ประวัติศาสตร์แนวเอียง•lll ,@somsakjeam112 ,8:17 ก่อนเที่ยง · 29 เม.ย. 2021
เข้าใจว่าประมาณปีหนึ่งไม่ได้แตะ เพราะว่าถ้าไปแตะ ต้องไปขุดหนังสือราชการ หนังสือราชการไม่ทำราชการนะ หนังสือราชการมาก็เอามาทำ ๆ แล้วก็เอามาตั้งต่อ แล้วก็ตั้งอยู่สูง เดี๋ยวนี้หนังสือราชการด่วนที่สุด ขึ้นมาสูงเท่านี้ ตอนหลังก็มาขุดๆๆ จนหมด แต่ยังมีด่วนมาก ด่วนที่สุด ได้ทำ 3 ธันวาคม ทำเสร็จแล้ว ก็แสดงว่าช้าไปหนึ่งวันเท่านั้น แต่ด่วน ด่วนมาก นั้นมันเดือนพฤศจิกา ประมาณ 2 อาทิตย์ต้องไปขุด เดี๋ยวกลับไปต้องไปขุด ไม่งั้นกลับไปหัวหินต้องหอบไป ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ได้นอน ถ้าไม่นอนเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าตื่นไม่ไหวเป็นอย่างนี้เสมอ
ถึงวันเกิดนี่วันเกิดก็มีการพบปะอย่างงี้ แล้วก็จะต้องไปนอน ถ้าไม่ได้นอน ถ้าไปมหาสมาคมจะร่วงลงไปทุกครั้ง พอขึ้นสูงนี่นะ เพราะว่าขาก็ไม่ค่อยดีแล้วนะ ก็เลยต้องเตรียมตัว แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ได้มาพูดค่อยข้างจะยาวก็พอดี พอดีเวลาเหลือ 2 นาที เหลือ 2 นาที ให้ดนตรีขึ้นใหม่ ขอให้ท่านที่มาที่นี่ได้มีความแจ่มใส วันนี้รู้สึกท่านจะแจ่มใสดี ต้องแจ่มใส เพราะว่าถ้าไม่แจ่มใสทำงานไม่ได้ต้องให้ท่านทำงานได้ แล้วก็คิดถึงงานที่จะต้องทำ ทำให้ดี ๆ ไม่ทำให้เละ ถ้าทำให้เละ ประเทศชาติก็เละ ก็ขอให้มีความสุข ความสำเร็จทุกอย่างทุกประการ"
ดูทั้งหมด : รวมเรื่องของในหลวง รัชกาลที่ 9 ขอขอบคุณ :-
Credit : รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น
website :
https://socialnews.teenee.com/penkhao/6353.htmlNongJJ (ทีมงาน TeeNee.Com) วันเสาร์ ที่ 22 ตุลาคม 2559 เวลา 23:56 น.
สำนึกพระบารมี รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงขับเคลื่อนคุมยาสูบของไทยในวันที่ 4 ธันวาคม 2547 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ตรัสแสดงความห่วงใยปัญหาการสูบบุหรี่ในหมู่เยาวชนและพิษภัยของบุหรี่ กับคณะรัฐมนตรีและคณะบุคคลภาคส่วนต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้เกี่ยวข้องตระหนักถึงปัญหาและช่วยกันลงมือแก้ไข ดังความตอนหนึ่งว่า
…เด็กๆ จะต้องสามารถเรียนรู้ เรียนให้ทำงาน เพื่อช่วยบ้านเมือง ถ้าเด็กไม่มีความรู้ ช่วยบ้านเมืองไม่ได้ บ้านเมืองไปไม่รอด เพราะเด็กมัวแต่ไปเสพยาเสพติด สูบบุหรี่ ไม่ดี เสพยาไม่ต้องบอกหรอกว่าเสียหายยังไง แต่บุหรี่นี่หูเสีย ตาเสีย สมองเสีย เส้นเลือดเสีย…
…คนที่สูบบุหรี่สมองก็ทึบ ทำไปทำมาก็ทึบขึ้นทุกที เพราะว่าทึบเพราะว่าเส้นเลือดในสมองมันตีบ มันเล็ก คิดอะไรไม่ออก ตอนแรกนึกว่าคิดออก แต่ทีหลังมันก็คิดไม่ออก ทีแรกนึกว่า คนเราสูบบุหรี่ทำให้กระฉับกระเฉง ตรงข้าม ไม่กระฉับกระเฉง ทำให้รู้สึกว่าทึบ สมองมันทึบ สมองมันตัน ก็เลยเห็นว่าเลิกสูบบุหรี่ดีกว่า เห็นมีการรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ แล้วก็ห้ามขายบุหรี่แก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ที่จริงเด็กอายุ 50 ก็ควรจะห้าม… พระราชดำรัสนี้ ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องต่างตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบริโภคยาสูบ และดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้น
@@@@@@@
นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เปิดเผยว่า ตลอด 25 ปี การป้องกันและแก้ไขปัญหาการบริโภคยาสูบในประเทศไทย เกิดขึ้นในช่วงรัชสมัยการปกครองปีที่ 46-70 หรือปี 2535-2559 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ประเทศไทยได้ผ่านกฎหมายควบคุมการบริโภคยาสูบที่สำคัญ 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535
โดยมีสาระสำคัญ คือ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฯนั้น ห้ามไม่ให้มีการโฆษณายาสูบในสื่อต่างๆ โดยสิ้นเชิง และ พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ ห้ามการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเพื่อปกป้องไม่ให้ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ต้องได้รับควันบุหรี่มือสองจากผู้ที่สูบบุหรี่ กฎหมาย 2 ฉบับนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่านิยมที่เห็นการสูบบุหรี่เป็นเรื่องเท่จากการโฆษณาและจากการเห็นผู้ที่สูบบุหรี่อยู่ในสถานที่ต่างๆ ทั่วไปหมด กลายเป็นค่านิยมที่เห็นว่า การสูบบุหรี่เป็นที่น่ารังเกียจ
จากการเห็นว่าผู้สูบบุหรี่ไม่สามารถสูบบุหรี่ตามสถานที่สาธารณะได้อย่างเปิดเผย จนกลายเป็นเหมือนต้องหาที่สูบแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตลอดจนไม่มีการโฆษณาจูงใจมอมเมาให้เห็นว่าการสูบบุหรี่เป็นเรื่องดีอีกต่อไปในประเทศไทย
ในช่วงปี 2536-2555 รัฐบาลไทยยังขึ้นภาษีบุหรี่รวม 10 ครั้ง คิดเป็นขึ้นภาษีบุหรี่เฉลี่ยทุก 2 ปี นอกจากนั้น ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีมาตรการเตือนพิษภัยของการบริโภคยาสูบด้วยภาพคำเตือนบนซองบุหรี่เป็นประเทศที่ 4 ของโลก โดยเริ่มต้นในปี 2547 และต่อมา ปี 2556 มีการขยายขนาดภาพคำเตือนเป็นร้อยละ 85 ของซองบุหรี่ ซึ่งเป็นขนาดภาพคำเตือนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้น
และล่าสุด ปี 2559 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เครือข่ายหมออนามัย และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตลอดจนภาคีเครือข่ายต่างๆ ร่วมกันจัดโครงการรณรงค์เชิญชวนท้าชวนให้เกิดผู้เลิกสูบบุหรี่สำเร็จจำนวน 3 ล้านคน 3 ปี ทั่วประเทศไทย เพื่อเทิดไท้องค์ราชัน
ด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทั้งทางตรงและทางอ้อม และมาตรการต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น พร้อมด้วยการดำเนินการรณรงค์ให้ความรู้ถึงโทษพิษภัยของยาสูบแก่ประชาชน ตลอดจนการเชิญชวนและท้าชวนให้ผู้สูบเลิกสูบบุหรี่ ส่งผลให้อัตราการสูบบุหรี่ลดลงจากร้อยละ 32 ในปี 2534 เหลือร้อยละ 20 ในปี 2558 พร้อมกับการเปลี่ยนค่านิยมจากการเห็นการสูบเป็นเรื่องเท่ กลายเป็นเห็นการสูบเป็นเรื่องไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม นี่คือความสำเร็จของการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาสูบ นพ.บัณฑิตกล่าว
องค์การอนามัยโลกพิจารณาเห็นว่า ประเทศไทยประสบความคืบหน้าอย่างมากในการควบคุมยาสูบ เป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศต่างๆ ในโลกได้ จึงจัดให้มีการถวายโล่เกียรติยศแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นกรณีพิเศษในงานวันงดสูบบุหรี่โลกที่จัดขึ้นเป็นพิเศษที่กรุงเทพมหานคร ในปี 2543 โดยระบุคำประกาศเกียรติคุณบนโล่ที่ถวายพระองค์ ดังนี้
@@@@@@@
ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งประเทศไทย เพื่อเชิดชูพระเกียรติในฐานะที่ทรงเป็นผู้นำทางจิตใจที่มุ่งมั่นและกอปรด้วยพลัง ทรงเป็นแบบอย่างทางสาธารณสุข ได้ทรงสร้างแนวทางตลอดจนบริบททางวัฒนธรรม ที่สนับสนุนกิจกรรมต่อต้านบุหรี่ที่โดดเด่นที่สุดในเอเชีย อีกทั้งได้พระราชทานแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่แก่ราษฎรของพระองค์ ประชาชนในภูมิภาคและในโลก
นพ.บัณฑิตกล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือประจักษ์พยานที่โลกมองเห็นพระบารมีของพระองค์ที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการขับเคลื่อนการควบคุมการบริโภคยาสูบในประเทศไทยขอบคุณที่มา :-
website :
https://www.matichon.co.th/local/news_344118วันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 - 10:18 น.