ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศาสนาพุทธบูม !! ในรัสเซีย  (อ่าน 4236 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ศาสนาพุทธบูม !! ในรัสเซีย
« เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 12:22:09 pm »
0
 


ศาสนาพุทธบูม !! ในรัสเซีย
ชี้คำสอนพิสูจน์ได้จริง-เตรียมแปลพระไตรปิฎกรองรับ


เปิดใจ “พระธรรมทูต” รูปแรกในรัสเซีย เผยเหตุเลือกดินแดนแห่งนี้เพราะรัสเซียเป็นดินแดนดั้งเดิมของบรรพบุรุษของ พระพุทธเจ้า ระบุปัจจุบันชนชั้นนำ-คนมีการศึกษาของรัสเซียหันมาศึกษาพระพุทธศาสนาเพิ่ม ขึ้น เผยเหตุเพราะคำสอนในพระพุทธศาสนาสามารถพิสูจน์ได้จริง ล่าสุดเตรียมแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษารัสเซียเพื่อดึงให้คนพื้นถิ่นหันมาศึกษา เพิ่มขึ้น

หากเอ่ยถึงอดีตมหาอำนาจแห่งโลกสังคมนิยมอย่างสหภาพรัสเซียกับพระพุทธศาสนา แล้ว ผู้อ่านหลายๆ ท่านคงจะนึกภาพไม่ออกว่ามันจะเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ในเมื่อประเทศสังคมนิยมไม่มีนโยบายให้ประชาชนนับถือศาสนา เพราะถือว่าเป็น ‘ยาพิษ’ ที่คอยบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อการ ปกครองในระบอบสังคมนิยม และบ่อนทำลายความเจริญทางวัฒนธรรม

เมื่อประเทศรัสเซียถึงคราวล่มสลาย ทำให้เกิดประเทศใหม่ๆ มากมาย และในช่วงนี้เองที่รัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียเปิดโอกาสให้ชนในชาติสามารถนับถือ ศาสนาได้อย่างอิสระ ถึงขนาดประกาศในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นเท่ากับเป็นการทำให้ศาสนาต่างๆ ได้มีโอกาสเผยแผ่ศาสนาของตนเอง

• พระธรรมทูตไทยรูปแรกในรัสเซีย

หนึ่งในหลายๆ ศาสนาที่ถือโอกาสดีช่วงนี้นำศาสนาไปเผยแผ่ในประเทศรัสเซียคือศาสนาพุทธนิกาย เถรวาท โดยประเทศไทยได้ส่ง ‘พระธรรมทูต’ รูปแรกไปประเทศรัสเซีย เมื่อประมาณปี พ.ศ.2540 โดยขั้นแรกรัฐบาลรัสเซียเป็นผู้สนับสนุนให้ทุนการศึกษากับพระไทยในระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก และจากจุดนี้เองจึงเป็นการเริ่มต้นเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศรัสเซียครั้ง แรกหลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย

พระ รศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ เจ้าอาวาสวัดอภิธรรมพุทธวิหารเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย เปิดเผยกับ ‘ธรรมลีลา’ ว่า

“อาตมาได้มีโอกาสเดินทางไปเผยแผ่ธรรมที่รัสเซีย เนื่องจากในช่วงปี พ.ศ. 2539 สอบได้ทุนการศึกษาให้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทใน 3 ประเทศ คือ ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย และรัสเซีย จึงได้นำเรื่องไปปรึกษากับหลวงพ่อปัญญาว่า ควรจะเลือกไปเรียนต่อที่ไหน ซึ่งหลวงพ่อปัญญาท่านได้ถามความสมัครใจก่อน และแนะนำว่า ควรจะไปศึกษาต่อที่ประเทศรัสเซีย เพราะเป็นประเทศที่ท่านปรารถนาที่จะไปเผยแผ่ธรรมะ ในขณะเดียวกันประเทศรัสเซียก็เป็นประเทศเดียวที่ท่านไม่มีโอกาสได้ไปเผยแผ่ ธรรมะเลย

คำแนะนำในครั้งนั้นทำให้อาตมาตัดสินใจไปศึกษาต่อที่ประเทศรัสเซีย แม้จะรู้ว่ามันยากลำบากมากกว่าประเทศไหนๆ ในโลก โดยในตอนแรกที่ไปลำบากมาก เพราะคนที่นั่นเขายังไม่เปิดรับศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตามเมื่ออาตมามีโอกาสได้เข้าไปศึกษาในมหาวิทยาลัยเซนต์ปี เตอร์สเบอร์ก ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพราะเราต้องไปเรียนปริญญาตรีใหม่หมด ภาษาที่ใช้ก็ใช้ภาษารัสเซียซึ่งยากมาก ในระยะแรกๆ ยอมรับว่าท้อนะ แต่เรามีกำลังใจดี มีความตั้งใจที่จะไปเผยแผ่ธรรมะ มันทำให้อาตมามีแรงกระตุ้นที่ดี ในที่สุดก็จบการศึกษา”



• ทำไม !? ต้องที่รัสเซีย

การตัดสินใจเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศรัสเซียเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ทำให้หลายๆ คนเกิดอาการ “งง สงสัยและอึ้ง” ไปตามๆ กัน แต่ถึงที่สุดแล้ว พระ รศ.ดร.ชาตรี ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ทั้งสภาพภูมิอากาศ ความไม่เข้าใจของคนพื้นถิ่น การใช้ภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่าง

พระ รศ.ดร.ชาตรี บอกว่า “หลายๆ คนก็ถามอาตมา ว่าทำไมต้องเป็นรัสเซีย ทำไมไม่เป็นประเทศอื่นๆ ที่เขายอมรับศาสนาพุทธอยู่แล้ว หรือประเทศที่มีคนไทยไปอาศัยอยู่มากๆ เช่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ อาตมามีเหตุผลอยู่หลายประการคือ

ประการแรก เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศที่เคยนับถือพระพุทธศาสนามาก่อน และยังเป็นประเทศในกลุ่มยุโรปประเทศเดียวที่เคยนับถือพระพุทธศาสนา รวมทั้งได้รับผลกระทบจากการรุกรานของศาสนาอื่นมากที่สุดและพระพุทธศาสนาได้ สูญหายไปจากประเทศรัสเซียนานกว่าพันปี ทำให้เป็นเรื่องท้าทายที่จะทำการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในรัสเซีย

ประการที่สอง ประเทศรัสเซียนั้นเป็นดินแดนดั้งเดิมของชนชาติอริยกะซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ พระพุทธเจ้า อาตมาเลยคิดอยากจะศึกษาว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะเอาพระพุทธศาสนาไปสู่ ดินแดนของบรรพบุรุษของพระพุทธเจ้า ที่สำคัญรัสเซียเป็นประเทศที่ถูกลืม โดยตั้งแต่สมัยก่อนการ ปฏิวัติ ศาสนาพุทธสายเถรวาทไม่เคยมีบทบาทในการเข้าไปเผยแผ่คำสอนในประเทศรัสเซียเลย คือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2441 จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2540

ประการที่สาม ประเทศรัสเซียยังคงเป็นประเทศเดียวที่คำสอนทางพระพุทธศาสนาที่มีอยู่ยังไม่ ถูกบิดเบือน และคนรัสเซียเองก็ให้ความสนใจกับพระพุทธศาสนาสายเถรวาท ซึ่งเป็นพระพุทธศาสนาแบบดั้งเดิมและเป็นพระพุทธศาสนาต้นแบบ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพระพุทธศาสนาจะโดนกีดกันเป็นระยะเวลากว่าพันปี แต่คนรัสเซียบางส่วนก็ยังนับถือพระพุทธศาสนาสายวัชรยาน ที่มาจากทิเบต ซึ่งได้เข้าไปมีบทบาทในการเผยแผ่ในประเทศรัสเซียตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะชาวรัสเซียที่มีเชื้อสายมองโกเลียในแถบไซบีเรียก็นับถือเป็นศาสนา ของชนชาติ

ประการที่สี่ ณ ดินแดนแห่งนี้ยังมีอีก 4 ชนชาติที่นับถือศาสนาพุทธในประเทศรัสเซีย เช่น ชาวตูวา ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของไซบีเรีย อยู่ระหว่างไซบีเรียกับมองโกเลีย ชนชาติชาติที่สองคือชาวบูเรียตเทีย ชาวคามึยเคีย และชาวจิต้า

นี่คือชนชาติใน 4 สาธารณรัฐที่นับถือพระพุทธศาสนามาเป็นเวลาร่วม 500 ปีแล้ว แต่พระพุทธศาสนาเข้าไปฟื้นฟูใน รัสเซียเมื่อประมาณ 250 ปีที่ผ่านมา ยิ่งสมัยก่อนการปฏิวัติก็ได้มีการอนุญาตโดยเฉพาะสมัยของพระนางแคทเธอรีน มหาราชินี เมื่อประมาณ 150 ปีที่แล้วโดยเป็นการอนุญาตให้ชาวรัสเซียที่นับถือพระพุทธศาสนาสามารถสร้าง วัดได้”

ความเลื่อมใสพระพุทธศาสนาของชาวรัสเซียนั้นมีไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยมีหลักฐานปรากฏว่า ประเทศบูเรียตเทียก็ได้มีการสร้างวัดในขณะนั้นประมาณ 34 แห่ง นอกจากนี้ยังมีการสร้างโรงพิมพ์ทางพระพุทธศาสนา สร้างวิทยาลัยสงฆ์ รวมถึงสถาบันการศึกษาขึ้นมา 19 แห่ง หลังจากนั้นใน 4 สาธารณรัฐที่นับถือพระพุทธศาสนา พระนางแคทเธอรีนก็อนุญาตให้มีสมเด็จพระสังฆราชของตัวเอง ซึ่งไม่ได้ขึ้นกับมองโกเลีย และทิเบต

แต่ท้ายที่สุดเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2480 โดยการนำของโจเซฟ สตาลิน ผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์คนที่สองของรัสเซีย ก็ได้เข้าไปทำลายวัดวาอาราม 200 แห่ง ที่ตั้งอยู่กระจัดกระจายในสี่สาธารณรัฐ รวมทั้งมีการจับสึกพระสงฆ์หลายหมื่นรูป และบางส่วนก็ถูกฆ่า และห้ามไม่ให้คนนับถือศาสนา เพราะถือว่าศาสนาเป็นยาพิษ ศาสนาเป็นตัวบ่อนทำลายความเจริญทางวัฒนธรรม




• ศาสนาพุทธ ‘บูม’ ในรัสเซีย

การมีโอกาสเข้าไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาสายเถรวาทในรัสเซีย ของพระ รศ.ดร.ชาตรี ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสทาง ‘ธรรม’ ให้กับประชาชนชาวรัสเซียอย่างมาก เพราะปัจจุบันมีชาวรัสเซียจำนวนมากเริ่มหันมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนาสาย เถรวาทเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี

เจ้าอาวาสวัดอภิธรรมพุทธวิหารฯ บอกว่า ปัจจุบันมีชาวรัสเซียจำนวนมากเริ่มหันมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะชาวรัสเซียส่วนใหญ่จะมีการศึกษาสูงมาก และยังสนใจศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ การค้นคว้า แต่เมื่อการนับถือศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นศาสนาดั้งเดิมไม่ได้ให้คำตอบในหลายๆ คำถามที่เกิดขึ้นในจิตใจของเขา ทำให้เขาเปลี่ยนมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนา

“สำหรับชาวรัสเซียที่เข้ามาศึกษาพระพุทธศาสนาส่วนใหญ่จะต้องการหาคำตอบอันเนื่องมาจากการเกิดทุกข์ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะปัญหาครอบครัว ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยความเชื่อ แม้จะอ้อนวอนพระเจ้า ท่านก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้ ดังนั้นเขาก็หันมาศึกษาพระพุทธศาสนาในเชิงจิตวิทยาเพื่อนำไปใช้ในชีวิตได้ จริง ทำให้คนรัสเซียที่มีการศึกษาจำนวนมากหันมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนามากขึ้น

ระยะแรกไม่ได้เปลี่ยนมานับถือ เพียงแต่สนใจที่จะเข้ามาศึกษา โดยแบ่งความสนใจออกเป็นสามกลุ่มคือ กลุ่มแรก เป็นชาวรัสเซียที่มีเชื้อสายกอร์เกเชียน สนใจพระพุทธศาสนา แบบปรัชญา แบบวิทยาศาสตร์ ก็คือคำสอนทางพระพุทธศาสนานั้นมีเหตุมีผลเข้าได้กับความคิด การค้นคว้าทางวิทยาศาตร์แบบตะวันตก

อีกส่วนหนึ่งก็หันมาสนใจพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะการปฏิบัติ เช่น การฝึกโยคะ การฝึกสมาธินั้นทำให้จิตใจสงบ และกลุ่มสุดท้ายก็คือกลุ่มที่สนใจทั้งปรัชญาและการปฏิบัติ ซึ่งทั้งสามกลุ่มนี้ประมาณ 60-70% ที่ได้มีการศึกษาและปฏิบัติอย่างลึกซึ้ง ก็จะเปลี่ยนมานับถือพระพุทธศาสนา”

พระ รศ.ดร.ชาตรี อธิบายต่อว่า ตอนนี้ เฉพาะในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก กรุงมอสโคว์ มีคนรัสเซียที่สนใจพระพุทธศาสนาและปฏิบัติศึกษาพระพุทธศาสนา ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนจากประชากรที่มีอยู่ในทั้งสองเมือง 12 ล้านคน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าพระพุทธศาสนาในรัสเซียได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นใน ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงนั้นเป็นพระพุทธศาสนาในสายวัชรยาน


แต่สายเถรวาทยังไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ย้อนหลังไปสี่ปีกลับมีคนรัสเซียที่นับถือศาสนาพุทธสายวัชรยาน เปลี่ยนมาสนใจพระพุทธศาสนาสายเถรวาทมากขึ้นปีละหลายหมื่นคน ซึ่งแต่ละปีก็จะมีคนเปลี่ยนมานับถือพระพุทธศาสนาสายเถรวาทประมาณ 70% ถือว่ามีจำนวนมากทีเดียว

“ตอนนี้ถ้าใครมีโอกาสเดินทางไปประเทศรัสเซีย จะเห็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา หนังสือฝึกสมาธิ หนังสือพุทธปรัชญา หนังสือที่เป็นพระสูตรซึ่งแปลเป็นภาษารัสเซีย วางขายอย่างมากมาย ซึ่งสิ่งนี้ก็ถือเป็นดัชนีชี้วัดได้อย่างดีว่า ปัจจุบันคนรัสเซียเขาสนใจพระพุทธศาสนามากน้อยแค่ไหน”



• แต่ขาดแคลนพระธรรมทูต

แม้ในปัจจุบันพระพุทธศาสนาจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในรัสเซีย แต่พระธรรมทูตที่มีหน้าที่เผยแผ่คำสอนของพระพุทธองค์ ยังมีอยู่เพียงน้อยนิด พระ รศ.ดร.ชาตรี อธิบายต่อไปว่า “ปัจจุบันวัดของอาตมาเป็นวัดเดียวและวัดแรกที่มีอยู่ในประเทศรัสเซีย มีพระธรรมทูตที่เป็นพระไทยอยู่ 4 รูป


ซึ่งสาเหตุที่มีน้อยเพราะมีพระที่รู้ภาษารัสเซียน้อย เนื่องจากภาษารัสเซียเป็นภาษาที่ยากมาก ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ ทำให้ต้องเพิ่มความอดทนในการทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ปัจจุบันเรามีศูนย์ปฏิบัติธรรม ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก เป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนา และศูนย์ศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฏก และปัจจุบันเรายังมีแนวคิดที่จะแปลพระไตรปิฎกจากภาษาไทย ภาษาบาลี เป็นภาษารัสเซียอีกด้วย”

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางวัดได้แก้ไขปัญหาเรื่องพระธรรมทูตโดยการติดต่อกับมหาวิทยาลัยมหา จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อหาพระที่จะไปศึกษาต่อที่ประเทศรัสเซีย โดยจะมีการประสานงานกับสถานทูตรัสเซีย เพื่อให้ทุนกับพระที่สนใจไปศึกษาต่อ ซึ่งในแต่ละปีรัฐบาลรัสเซียจะให้ทุนการ ศึกษากับนักศึกษาระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ปีละ 3-4 ทุน

“หากมองตามความต้องการของตลาดแล้วถือว่าน้อยมาก แต่เราก็ดูกำลังทรัพย์ที่รัฐบาลรัสเซียจะสามารถให้เราได้ด้วย ซึ่งการให้ทุนการศึกษา เราจะต้องได้รับการสนับสนุนจากเมืองไทยด้วยบางส่วนโดยการรับบริจาคทั่วไป แต่ในส่วนที่ได้รับสนับสนุนจากทางรัฐบาลนั้นยังไม่มี”



• วัดแรกกับภารกิจเผยแผ่ธรรม

เป็นเวลากว่าสามปีแล้วที่วัดอภิธรรมพุทธวิหารได้ก่อกำเนิดเป็นรูปร่างและ ผ่านการอนุญาตจากรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนาสายเถรวาทจะเบ่งบานอีกครั้งในดินแดน แห่งนี้ เจ้าอาวาสวัดอภิธรรมฯ เล่าว่า วัดอภิธรรมพุทธวิหาร เป็นวัดสายเถรวาทเพียงวัดเดียวและวัดแรกที่ได้รับการสร้างขึ้นในรัสเซีย โดยขึ้นทะเบียนเป็นวัดอย่างถูกต้องในเมืองไทย

แต่ต้องจดทะเบียนเป็นพุทธสมาคมในรัสเซีย เพราะกฎหมายรัสเซียยังไม่อนุญาต ต้องมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 15 ปีจึงจะสามารถจดทะเบียนเป็นวัดที่สมบูรณ์ในรัสเซียได้ ซึ่งคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ก็ยังคงมีอุปสรรคมากมายให้ฟันฝ่า ทั้งเรื่องสภาพภูมิอากาศที่หนาวจัด รวมทั้งค่าครองชีพที่แพงมาก ทำให้พระธรรมทูตไทย 4 รูป และพระรัสเซียอีก 1 รูปอยู่กันอย่างยากลำบากพอสมควร

“เราต้องอยู่กันอย่างประหยัด โดยปัจจัยที่นำมาใช้จ่ายส่วนหนึ่งได้มาจากเงินที่รัฐบาลรัสเซียให้อาตมาไป สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ถือเป็นเงินเดือน เงินสนับสนุน ส่วนพระทั้ง 4 รูปนั้นเป็นนักเรียนทุนของรัฐบาลรัสเซีย ปัจจัยอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่มาจากญาติโยมจากเมืองไทย คือกลุ่มศึกษาธรรมของกระทรวงอุตสาหกรรม และมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งถือเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการให้การสนับสนุน ที่นี่ไม่มีการบิณฑบาตเพราะเขาถือว่าเป็นการขอทาน ดังนั้น บางครั้งถ้าไม่มีฆราวาสมาช่วย พระจำต้องไปจ่ายตลาด และทำอาหารเอง”

พระ รศ.ดร.ชาตรี บอกถึงการวางแผนในการเผยแผ่ธรรมสำหรับปี พ.ศ. 2551 ว่า ในปีนี้จะใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางไปแสดงธรรมตามเมืองต่างๆ ทั่วรัสเซีย ประมาณ 10 เมือง ซึ่งปัจจุบันก็มีเครือข่ายแล้ว แต่ต้องทำให้เข้มแข็งมากขึ้น โดยใช้การฝึกสมาธิและการเรียนธรรมะอย่างน้อยคอร์สละ 1 สัปดาห์เป็นกลยุทธ์หลัก

ซึ่งเท่าที่ดำเนินการมาอย่างเป็นทางการก็ได้รับการสนับสนุนจากครูบาอาจารย์ จากเมืองไทย จากอังกฤษ เช่น พระอาจารย์สุเมโธ (พระราชสุเมธาจารย์) วัดอมราวดี ประเทศอังกฤษ ก็เดินทางไปเยี่ยมเยียนและเผยแผ่ธรรมะร่วมด้วย ซึ่งได้รับการต้อนรับและการสนับสนุนจากชาวรัสเซียพอสมควร

“ในอนาคต อาตมามีความเชื่อว่าพระพุทธศาสนาจะได้รับความสนใจจากชาวรัสเซียเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี เพราะคำสอนของพระพุทธองค์นั้นเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถตอบคำถามในทุกๆ ข้อที่คนสงสัยได้อย่างแจ่มแจ้ง ซึ่งหากอาตมาสามารถทำให้คนรัสเซียหันมาสนใจศึกษามากขึ้น ก็เท่ากับว่าอาตมาได้ทำหน้าที่พระธรรมทูตได้สมกับความตั้งใจแล้ว” พระ รศ.ดร.ชาตรีกล่าวในที่สุด
 


พระพุทธศาสนาในรัสเซีย

พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด ประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในทวีปเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกไกล โดยเฉพาะประเทศศรีลังกา พม่า อินเดีย ภูฏาน เนปาล จีน เกาหลี เวียดนาม ญี่ปุ่น กัมพูชา ลาว และไทย ซึ่งรวมแล้วจะมีประชากรที่นับถือศาสนาพุทธประมาณ 500 ล้านคน ซึ่งยังไม่นับชาวพุทธในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกอีกจำนวนมาก

สำหรับประเทศรัสเซีย มีหลักฐานว่า เริ่มมีการนับถือพระพุทธศาสนาในราวปีพุทธศักราช 1451 โดยพุทธศาสนิกชนชาวรัสเซียส่วนใหญ่ที่นับถือพุทธศาสนาจะตั้งถิ่นฐานอยู่ในสา ธารณรัฐบูเรียตียา หรือบูเรียตเทีย (Buryatia) แถบทะเลสาบไบคาล, สาธารณรัฐคาลมึยเคีย (Kalmykia) แถบทะเลสาบแคสเปียน และ สาธารณรัฐตูวา (Tuva) แถบพรมแดนมองโกเลีย ซึ่งพระพุทธศาสนามหายานก็ได้เข้ามาแพร่หลายอยู่ในชนชาวบูเรียต, คาลมิค และอัลไตยัน ในดินแดนเหล่านี้ด้วย

ผู้คนต่างมีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า ในคราวที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งสมณทูตออกเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้น พระพุทธศาสนาได้เข้ามาสู่ดินแดนไซบีเรียของรัสเซียด้วย

กลางศตวรรษที่ 17 พระมองโกลและลามะทิเบต ได้เดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนามายังฝั่งตะวันออกของทะเลสาบไบคาล มีการสร้างวัดแห่งแรกขึ้น ชื่อ วัดฮิลแกนตุส หลังจากนั้นวัดในพระพุทธศาสนา หรือที่เรียกว่า ดั๊ทซัน (Datsun) ก็ปรากฏขึ้นในบริเวณอื่นๆ ของบูเรียตเทียอีก ชาวบูเรียตที่อยู่ฝั่งตะวันออกของทะเลสาบไบคาล ก็หันมานับถือพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก มีนิกายเจลุกปะ เป็นนิกายที่แพร่หลายที่สุด ก่อตั้งโดยท่านฌอนฮาวะ ชาวทิเบต

ปลายศตวรรษที่ 19 พระพุทธศาสนาในบูเรียตเทียรุ่งเรือง วัดได้รับการทำนุบำรุงอย่างดี เพื่อใช้เป็นที่พัก ที่ปฏิบัติธรรมของลามะ และไว้สำหรับสอนภาษาทิเบต, มองโกเลีย, สันสกฤต รวมถึงวิชาปรัชญา ทั้งยังมีการสร้างวัดแห่งใหม่อีกหลายวัด เช่น วัดอากินส์, วัดสึโกลิส และวัดอีกิตุสก์ พระอักวัน ดอร์จีพ (Agvan Dorjiev) ชาวบูเรียต เป็นภิกษุองค์แรกที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล ให้สร้างวัดพุทธในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นับเป็นวัดทางพุทธศาสนาแห่งแรกที่สร้างขึ้นในทวีปยุโรป


ในปี พ.ศ. 2478 หลังจากรัสเซียเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ รัฐบาลรัสเซียไม่ให้การคุ้มครองแก่องค์กรศาสนา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม บุคลากรทางศาสนาถูกทำลายกวาดล้าง วัดในพระพุทธศาสนา พระพุทธรูป และคัมภีร์ต่างๆ ก็เริ่มถูกทำลาย

ปี พ.ศ. 2491 รัฐบาลรัสเซียได้สร้างความประหลาดใจให้กับชาวพุทธ เมื่อรัฐบาลแห่งสหภาพโซเวียตได้อนุมัติให้มีการสร้างวัดขึ้นมาใหม่ในเขตอิโว ลกา (Ivolga) โดยการสร้างทั้งหมดรัฐบาลของพรรคคอมมิวนิสต์เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ ซึ่งสาเหตุที่รัฐบาลรัสเซียอนุญาตให้ก่อสร้างวัดขึ้นมาใหม่ ก็เพราะทราบดีว่า ชนชาวพุทธรัสเซียยังมีความศรัทธาหนักแน่นในพระพุทธศาสนา แม้ว่าจะถูกรัฐบาลควบคุมอย่างเข้มข้นก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีนักประวัติศาสตร์ชาวรัสเซียได้ทำการศึกษาเรื่องราวของพระพุทธศาสนาในรัสเซีย พบว่า บรรพบุรุษ ผู้สืบเชื้อสายชนชาติอริยกะหรืออารยัน ซึ่งเป็นเชื้อสายของบรรพบุรุษของพระพุทธองค์ได้อพยพมาจากแถบแม่น้ำโวลก้า ลงสู่เทือกเขาคอเคซัสในประเทศรัสเซีย เข้าสู่ประเทศอิหร่าน อัฟกานิสถาน และชมพูทวีป

จากการค้นพบเรื่องนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวรัส เซียจำนวนหนึ่งมีความภูมิใจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ จึงหันมาศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธศาสนาจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้มีการศึกษาชั้นสูง นักวิทยาศาสตร์ และนักศึกษาในสถาบันชั้นนำของรัสเซีย


พระ รศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ

พระ รศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ พระธรรมทูตไทยรูปแรกในรัสเซีย

ชาติภูมิและการศึกษา
ไม่น่าเชื่อเลยว่าพระหนุ่มรูปร่างล่ำสันใบหน้าอิ่มเอิบ เต็มไปด้วยความเมตตารูปนี้ จะมีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าอาวาสวัดไทยแห่งแรกในประเทศรัสเซีย ประเทศซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศ ‘ปิด’ สำหรับทุกศาสนา แต่หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ศาสนาต่างๆ ก็กลับมาเผยแผ่คำสอนอีกครั้ง รวมทั้งพระพุทธศาสนา ซึ่งมีโอกาสเข้าไป ‘ปักธง’ เผยแผ่คำสอนในรัสเซียเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา โดยพระธรรมทูตไทยที่ชื่อ พระ รศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ ผู้เป็นศิษย์ของท่านพุทธทาสภิกขุและท่านปัญญานันทภิกขุ

พระ รศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ เป็นชาวพัทลุงโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513 เมื่ออายุ 14 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบ้านสวน จ.พัทลุง

พ.ศ. 2533 ได้เข้ามาศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จนกระทั่งจบปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) เอกภาษาอังกฤษ

ในปี พ.ศ. 2537 จากนั้นอีกสามปีก็เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ในคณะการทูต มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก ใช้เวลาศึกษาในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ 2 ปีก่อนจะสำเร็จการศึกษาภาควิชายุโรปศึกษา

ในปี พ.ศ. 2544 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ภาควิชายุโรปศึกษา คณะการทูต จากมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก จากนั้นศึกษาต่อระดับปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยเดียวกัน จนจบการศึกษาใน 2 ปีถัดมา

ปี พ.ศ. 2548 - ปัจจุบัน ได้เข้าศึกษาในระดับ Post Doctorate Program ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน คือมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก

ประสบการณ์การทำงาน

เริ่มทำงานขณะที่ยังเป็นพระนักศึกษา ในปี พ.ศ. 2530 โดยเป็นพระอาจารย์สอนในโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ที่จังหวัดลำพูน และหลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว ได้ทำงานสอนในโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ รวมทั้งเป็นพระวิทยากรอบรมเด็กและเยาวชนตามสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังเคยเป็นหัวหน้าเป็นผู้นำองค์กรนักศึกษาในมหาวิทยาลัย และทำงานกับองค์กรระหว่างประเทศ

พ.ศ. 2549 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูตสายต่างประเทศประจำประเทศรัสเซีย และเป็นเจ้าอาวาสวัดอภิธรรมพุทธวิหารเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก


พ.ศ. 2540 - ปัจจุบัน เป็นอาจารย์สอนในคณะเอเชียศึกษา, คณะการทูต มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก และเป็นวิทยากรบรรยายธรรมประจำวัดพุทธนิกายวัชรยาน ในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก

สำหรับการทำงานนั้น พระ รศ.ดร.ชาตรี บอกว่าได้พยายามสานต่อแนวคิดของครูบาอาจารย์ที่ต้องการจะเผยแผ่พระพุทธศาสนา อย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าถ้ามีความรู้แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ ความรู้ที่มีก็จะสูญเปล่า การที่คิดไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสและเป็นช่องทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป

จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 88 มี.ค. 51 โดย พิมพ์ศุจี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2551 18:05 น.
ที่มา  http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15161
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 


วัดอภิธรรมพุทธวิหารเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก ประเทศรัสเซีย


พระรศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ เจ้าอาวาส
วัดอภิธรรมพุทธวิหารเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเถรวาทแบบไทย เป็นต้นแบบของวัดนิกายเถรวาทแห่งแรกในประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย โดยยึดหลักการและแนวทางการสอนตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในพระไตรปิฎกทั้ง พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก


พระรศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ
.................................................................................................

พระรศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ
๑๕ ปี แห่งการปักธงธรรมจักรในรัสเซีย


จากสถิติของทางรัฐบาลรัสเซียที่สำรวจเมื่อปี ๒๕๔๗ พบว่า มีประชาชนชาวรัสเซียประมาณ ๖ แสนคนที่นับถือศาสนาพุทธ และมีชาวรัสเซียมากกว่า ๒๐ ล้านคนจากประชากรทั้งหมด ๑๔๔ ล้านคน สนใจและศึกษาพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาระดับสูง และนักธุรกิจผู้เคยเดินทางมาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจกับประเทศไทยหรือ ประเทศใกล้เคียง

พระพุทธศาสนาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่วัยรุ่นหรือนักศึกษา อีกทั้งกีฬาศิลปะการป้องกันตัวของชาวเอเชียก็ยังเป็นแรงดึงดูดให้วัยรุ่น และนักธุรกิจจำนวนมากหันมาสนใจพระพุทธศาสนา ทั้งการฝึกกังฟู คาราเต้ ยูโด เทควันโด และมวยไทย

ซึ่งการฝึกฝนกีฬาดังกล่าวต้องอาศัยการเข้าใจในปรัชญาทางพระพุทธศาสนา ทั้งนิกายเซน และนิกายเถรวาท การฝึกสมาธิก่อนการฝึกซ้อมกีฬาดังกล่าวทำให้ผู้ฝึกซ้อมซึมซับปรัชญา และคำสอนทางพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี


พระรศ.ดร.ชาตรี เหมพนฺโธ อายุ ๓๗ ปี พรรษา ๑๖ เจ้าอาวาสวัดอภิธรรมพุทธวิหารเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เล่า ว่า เป็นคนจังหวัดพัทลุง ก่อนบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ได้บวชเณรมาแล้ว ๙ ปี แล้วได้จำพรรษาที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จึงได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกขพลาราม

พอดีเรียนจบคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คิดว่าจะทำงานเพื่อสานต่อของครูบาอาจารย์อย่างไร เพราะถ้ามีความรู้แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ความรู้ที่มีก็จะสูญเปล่า ตรงนี้จึงคิดไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ เพื่อให้เป็นการเปิดโอกาสเป็นช่องทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา


ต่อมาในปี ๒๕๓๙ สามารถสอบชิงทุนของสถานทูตออสเตรเลีย อังกฤษ รัสเซียได้ ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศรัสเซีย เนื่องจากมองเห็นว่า ชาวรัสเซียได้รับความเดือดร้อนจากการอยู่ภายใต้การปกครองศาสนาที่เขาเชื่อ กันมาดั้งเดิม ประกอบกับระบบการเมืองทำให้คนได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่รัฐบาลรัสเซียได้ให้ทุนเรียนต่อปริญญา โท-เอก ในคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

ความตั้งใจในการเดินทางไปรัสเซียครั้งแรก เพื่อให้ชาวรัสเซียรู้ว่าการมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเรามาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มาเพื่อที่จะมาเปลี่ยนศาสนาของคนรัสเซียแต่อย่างใด ซึ่งหน้าที่ต้องทำในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามที่ตั้งใจไว้ คือ การเป็นพระอาจารย์สอนพระพุทธศาสนาในมหาวิทยาลัยแห่งนครเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก (St. Petersburg State University)


สัปดาห์ละ ๔ ครั้ง ของคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและคณะปรัชญา รวมทั้งไปสอนพระพุทธศาสนาในวัดสายวชัรยานหรือสายทิเบต ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะสอนพระพุทธศาสนา มีการเทศนา และนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมที่วัดอภิธรรมเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กพุทธวิหาร

แม้ในประเทศรัสเซีย ทั้งในส่วนที่อยู่ในทวีปเอเชียและยุโรป ทุกเมืองจะมีศูนย์ศึกษาและปฏิบัติธรรมทางพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังไม่มีศูนย์เพื่อการศึกษาและปฏิบัติธรรมแบบนิกายเถรวาทแม้แต่แห่ง เดียว ดังนั้น การเปิดวัดอภิธรรมพุทธวิหารเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จึงเป็นการเปิดศักราชใหม่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศรัสเซียและประเทศ ใกล้เคียง ทั้งในยุโรปตะวันออกและสแกนดิเนเวีย
 


วัดอภิธรรมพุทธวิหารเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จึงเป็นต้นแบบของวัดนิกายเถรวาทแห่งแรกในประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย โดยยึดหลักการและแนวทางการสอนตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในพระไตรปิฎกทั้ง พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก

ปัจจุบันชาวรัสเซียจำนวนมากได้หันมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ทั้งที่ชาวรัสเซียสมัยก่อนไม่เคยรู้จักพุทธศาสนานิกายเถรวาท สาเหตุที่ชาวรัสเซียหันมาสนใจพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทเนื่องจากได้รับข้อมูล ที่ถูกต้องว่า การศึกษาพระพุทธศาสนาควรศึกษาจากแหล่งต้นกำเนิดจริงๆ คือ จากพระไตรปิฎกเป็นคัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนา รวมทั้ง ชาวรัสเซียยังสนใจการสอนพระพุทธศาสนาของท่านพุทธทาสภิกขุ และสายของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) หรือหลวงพ่อชา สุภทฺโท

ดังนั้นเมื่อชาวรัสเซียทราบความจริงดังกล่าว จึงมีการแปลและพิมพ์ตำราทางพุทธศาสนานิกายเถรวาทเป็นจำนวนมาก ทั้งพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎกเป็นภาษารัสเซีย ส่วนพระอภิธรรมปิฎกยังไม่มีผู้สามารถสั่งสอนแนะนำพวกเขาได้ จากนี้ทางวัดมีโครงการที่จะแปลพระไตรปิฎกจำนวน ๔๕ เล่ม เป็นภาษารัสเซีย คาดว่าจะทำการแปลให้แล้วเสร็จภายใน ๑๐ ปี ส่วนโครงการที่คิดว่าจะทำได้ในเร็ววันนี้คือการขยายวัดไปตามเมืองต่างๆ ตั้งใจเอาไว้ว่าขอให้มีวัดสายเถรวาทเมืองละ ๑ วัด เพื่อให้เป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาในประเทศรัสเซีย

“วันนี้อาตมาได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล รัสเซียให้ทำงานวิจัยในมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะได้เป็น ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย แล้วก็ทำงานเพื่อสังคมทางด้านการพัฒนาจิตใจชาวรัสเซีย แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลรัสเซียให้การชื่นชม ทำให้การทำงานด้านศาสนามีความง่ายขึ้น เพราะก่อนหน้านี้คนรัสเซียไม่ค่อยยอมรับคนเอเชียเท่าไรนัก มาวันนี้อาตมาก็ภูมิใจว่า ชีวิตทั้งชีวิตได้มอบให้พระพุทธศาสนา เลือดทุกหยด แรงเหงื่อทุกหยดอาตมาก็มอบให้พระพุทธศาสนา เพื่อให้เป็นพุทธบูชา” พระรศ.ดร.ชาตรี กล่าวทิ้งท้าย


หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก - 1 สิงหาคม 2550 21:25 น.
เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง, ภาพ ศุภชัย เพชรเทวี
ที่มา http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1716&postdays=0&postorder=asc&start=20&sid=6fd0c10f88dcf63c7c8c4a7c82faced6
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

pimpa

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 138
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศาสนาพุทธบูม !! ในรัสเซีย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 07:06:32 pm »
0
คนไทย กลับไม่ค่อยสนใจ ตอนนี้สงสัยว่า พุทธศาสนา จะย้ายฐานเสียแล้วกระมัง

 :34:
บันทึกการเข้า

lamai54

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 138
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ศาสนาพุทธบูม !! ในรัสเซีย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 03, 2011, 07:19:03 pm »
0
อ่านตอนแรก นึกว่า ว่า บึ้ม เป็น บูม นะคะ

ตกใจหมดตอนอ่าน ครั้งแรก...

 :67:
บันทึกการเข้า
แข่งขันในโครงการ yamaha นะฮะ อย่าเข้าใจว่าเป็นพวกเสื้อแดง.... เราไม่ใช่....