ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “สามคูณแปดได้ยี่สิบสาม" ?!!! [3 x 8 = 23]  (อ่าน 3257 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
“สามคูณแปดได้ยี่สิบสาม" ?!!! [3 x 8 = 23]
« เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2011, 11:43:26 am »
0

ผู้แพ้..ผู้ชนะ
Written by  จอมพล

ผู้เขียนเป็นคนอารมณ์ร้อน  มักควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เวลาโมโห  ยิ่งโมโหยิ่งทำให้แพ้เพราะเถียงสู้เขาไม่ได้  ด้วยความที่ความดันขึ้นสูง  มือสั่น  ปากสั่น  คิดไม่ทัน   เถียงไม่ทัน  ลุแก่โทสะจึงหุนหันพลันแล่น  ใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม  หรือเอะอะมะเทิ่ง  จากถูกจึงกลายเป็นผิดไปเสียฉิบ

ถึงแม้ว่าจะคอยพร่ำสอนตัวเองอยู่เสมอไม่ให้โกรธ  หรือเมื่อรู้สึกโกรธ  ให้เดินหนีและอย่าเพิ่งพูดหรือเถียงเขาในตอนที่อารมณ์ยังไม่ปรกติ  เพราะมักจะทำให้เกิดความบาดหมาง  จากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่  ก็ยังไม่วายเฝ้าระวังอารมณ์ไม่ทัน  ตามประสาคนไม่ค่อยฝึกวิปัสสนา

คนที่เป็นคนขี้โมโห  มักเป็นพวกมีอัตตาสูง  คนสมัยใหม่เขาเรียกว่า อีโก้  ไม่ใช่ อีแก่  อีโก้คือความยึดมั่นถือมั่น  ตัวกูของกู  คนยิ่งแก่ยิ่งมีอัตตาสูง  เพราะถือว่ามีอาวุโสกว่า  ทั้งๆที่บางทีก็ลืมไปว่าตนคือคนแก่กะโหลกกะลา  ตามโลกเขาไม่ทัน  แถมยังมีอีโก้อยากให้คนเขานับถือ  เลยกลายเป็นตาแก่ขี้โมโห  หาเพื่อนฝูงไม่มี  ไม่มีคนทนอารมณ์เมนโนพอสได้  จึงกลายเป็นว้าเหว่  สุดท้ายไม่รู้จะโมโหใคร  ต้องโมโหตัวเองที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์และพาลทำให้ผู้คนรอบข้างเขาเอือมระอาไปกันหมด

ผู้เขียนนั้นเวลาที่เถียงกับใคร  มักจะต้องเถียงเอาถูกเอาผิดให้ได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เชื่อว่าตัวเป็นฝ่ายถูก  เป็นอันว่าเถียงหัวชนฝา  ยอมตายกันไปข้างหนึ่งทีเดียว  คนที่รู้นิสัย  มักจะเลิกเถียงกับผู้เขียนเพราะเขาฉลาดคิดว่าเอาชนะไปก็เท่านั้น  เสียเพื่อนกันเปล่าๆ  จึงพลันนิ่งเสีย  ปล่อยให้ผู้เขียนพล่ามไปสักพัก  เหนื่อยแล้วแน่ใจว่าตัวชนะ  ก็จะหยุดเห่าไปเอง  นิสัยเสียประเภทนี้พยายามที่จะเลิก  แต่พอเผลอๆก็ขึ้นมาอีก

เมื่อได้อ่านข้อความที่ท่านผู้อ่านท่านส่งฟอร์เวิร์ดเมลมาให้  อ่านแล้วก็ให้อดยิ้มไม่ได้  เพราะตรงเสียเหลือเกินกับอัตตาของตนเอง  ได้อ่านแล้วก็รู้สึกว่าดี  นำมาใช้ดัดสันดานตัวเองได้  ท่านผู้อ่านเล่าเป็นพวกชอบเอาชนะหรือไม่  ถ้าใช่ก็จงรีบอ่านเสีย

 

”เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ  มีอยู่วันหนึ่ง เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้า

จึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า

ได้ยินลูกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า “สามคูณแปดได้ยี่สิบสาม ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่ายยี่สิบสี่เหรียญล่ะ!”

เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า

“พี่ชายสามคูณแปดได้ยี่สิบสี่  จะเป็นยี่สิบสาม ได้อย่างไร พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก”

คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง เจ้าอายุเท่าไหร่กันจะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน ”

เอี่ยนหุยกล่าวว่า “ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร”

คนซื้อผ้ากล่าวว่า“หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า แล้วหากเจ้าผิดล่ะ”

เอี๋ยนหุยกล่าวว่า “หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก (ตำแหน่ง)”


ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น

เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า

“สามคูณแปดได้ยี่สิบสามถูกต้องแล้ว เอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย”

เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น

ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป

ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น

เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป
พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ

ขงจื้อรู้ว่าเอี๋ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้สอบถามมากความ อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้

ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว

พร้อมกันนั้นก็ได้กำชับว่า “อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”


เอี๋ยนหุยคำนับพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์จะจำใส่ใจ” แล้วลาอาจารย์ออกเดินทาง


เมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่ จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัยอยู่ไต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ที่ว่า

“อย่าแฝงเร้นกาย ใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”

เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานาน ลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง คิดได้ดังนั้น จึงเดินออกจากต้นไม้ใหญ่ ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมาให้เห็นต่อหน้าต่อตา

เอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด คำกล่าวของพระอาจารย์ประโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รู้สาเหตุ

เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้าน เลยใช้ดาบที่นำติดตัวมาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน!
เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง เสียงกำชับของอาจารย์ก็ดังขึ้นมา “อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง”

เมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง พอฟ้าส่าง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนัก เมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้ ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์บ้าง?” ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า “เมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่ จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย อาจารย์จึงเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ”

เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ “ท่านอาจารย์คาดการดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน”

ขงจื้อจึงตักเดือนเอี๋ยนหุยว่า “อาจารย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก ที่จริงแล้วเธอคิดว่า

อาจารย์แก่แล้ว ความคิดเลอะเลือนไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว

เธอลองคิดดูสิ อาจารย์บอกว่าสามคูณแปดได้ยี่สิบสาม เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก

หากอาจารย์บอกว่าสามคูณแปดได้ยี่สิบสี่ เขาแพ้ นั่นหมายถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง เธอคิดว่าหมวกหรือชีวิตสำคัญล่ะ”

เอี๋ยนหุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่า “ท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ

ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะเลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด”


 
จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่เคยห่างกาย

จากตำนานเรื่องเล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเพลงๆหนึ่งของอิวเค่อหลี่หลิน(นักร้องดูโอของไต้หวัน)

ที่ร้องว่า “หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง เช่นกัน

บางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ”


เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้ แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต

เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างาม

ทะเลาะกับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก)

ทะเลาะกับเถ้าแก่ ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ตรวจผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก)

ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน)

ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปเลย)


ใบชา เกิดสีสวยและกลิ่นหอมน่าลิ้มลองได้ ก็เพราะโดนน้ำร้อนลวก

ชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน เพราะเผชิญกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า

จึงเหลือไว้ซึ่งเรื่องราวเป็นตำนานให้ได้เล่าขานน่าตามติด”

อ่านแล้วหวังว่าจะเลิกเอาแพ้เอาชนะกันสักที  คิดๆดูไปโลกเรานี้ที่วุ่นวายอยู่ทุกวัน  ก็ตรงที่แพ้ไม่เป็นกันนั่นเอง  ขำจะตายตอนที่มีเพื่อนส่งขำขันมาให้ความว่า

A new condom called “Gaddafi” is on the market.  In advertising its written “Made for the men who don’t know how to withdraw in time”

ถุงยางอนามัยยี่ห้อใหม่ “ กัดดาฟี่” ออกวางตลาด  โดยมีคำโฆษณาเขียนไว้ว่า  “ทำสำหรับบุรุษผู้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะถอยออก”

เอเขียนไปเขียนมานึกไปถึงการเมืองเมืองไทยที่นักการเมืองบางคนไม่รู้จักแพ้  ไม่รู้จักเลิกรา  ยังเอาข้างถูหวังจะเอาชนะคะคานโดยไม่คำนึงว่าประเทศชาติจะล่มจมเพียงใด  อย่างนี้ต้องเอาถุงยางยี่ห้อกัดดาฟี่ให้ใช้เสียให้เข็ด  อ้าวไปๆมาๆเฉมาเรื่องการเมืองเสียแล้ว  จบดีกว่าเดี๋ยวจะไปกันใหญ่


ที่มา  http://www.thailanews.net/index.php?option=com_k2&view=item&id=632:ผู้แพ้ผู้ชนะ&Itemid=72&tmpl=component&print=1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 09, 2011, 11:45:43 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

pongsatorn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: “สามคูณแปดได้ยี่สิบสาม" ?!!! [3 x 8 = 23]
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2011, 06:06:11 pm »
0
อ้างถึง
ที่ร้องว่า “หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง เช่นกัน

บางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ”

เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้ แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต

เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างาม

ทะเลาะกับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก)

ทะเลาะกับเถ้าแก่ ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ตรวจผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก)

ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน)

ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปเลย)

ใบชา เกิดสีสวยและกลิ่นหอมน่าลิ้มลองได้ ก็เพราะโดนน้ำร้อนลวก

ชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน เพราะเผชิญกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า

จึงเหลือไว้ซึ่งเรื่องราวเป็นตำนานให้ได้เล่าขานน่าตามติด”

อยากฟังเพลงนี้จังเลย ใครหาให้ฟังได้้บ้าง ครับ

 :c017:
บันทึกการเข้า