นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ว่า กระทรวงการคลังได้ขับเคลื่อนแนวคิดที่ให้ประชาชนที่มีอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้า แม่ค้า มีเงินบำนาญไว้ใช้ในยามชรา เช่นเดียวกับพนักงานบริษัท ซึ่งจากนี้ไปจะเป็นการเตรียมความพร้อมในการดำเนินการต่าง ๆ ก่อนจะเปิดรับสมาชิกตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 55 เป็นต้นไป เชื่อว่า กอช.จะเป็นการลดภาระของรัฐบาลในอนาคต ในการดูแลประชาชนในวัยชรา และเป็นการส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ด้วย
ทั้งนี้ ผู้มีอาชีพอิสระที่มีสิทธิส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ รวมทั้งสิ้น 25-26 ล้านคน คาดว่าปีแรก จะมีผู้ส่งเงินเข้าสมทบ 10% หรือคิดเป็น 2.5 ล้านคน โดยรัฐบาลได้จัดเตรียมงบประมาณเบื้องต้น ด้วยการตั้งงบสำรองในปี 55 ไว้ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งหากผู้มีสิทธิทั้งหมดส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ รัฐบาลจะต้องส่งเงินสมทบอีกปีละ 20,000 ล้านบาท
“สิ่งสำคัญของกอช.คือ ห้ามถอนเงิน เพราะเราต้องการสะสมเงินออมไว้ให้ใช้ยามชรา แต่หากสมาชิกจะถอนเงิน ก็ทำได้ แต่สิทธิที่รัฐบาลส่งเงินเข้าสมทบไว้ รัฐบาลจะเอาคืน เพื่อให้ประชาชนมีวินัยในการออม”
สำหรับผู้ที่จะเป็นสมาชิกกอช.ได้ ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 15-60 ปี ไม่เป็นสมาชิกกองทุนอื่นใด ที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง และไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญภาครัฐหรือเอกชน สมาชิกต้องสะสมเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท แต่ไม่เกินปีละ 13,200 บาท และรัฐบาลจะให้เงินสมทบตามช่วงอายุของสมาชิก ซึ่งเป็นอัตราส่วนกับจำนวนเงินที่สมาชิกสะสมเข้ากองทุน ตั้งแต่ 50-100% โดยไม่เกินเงินสมทบสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด.