ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ประสบการณ์ "ขัดสมาธิเพชร"  (อ่าน 23399 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ประสบการณ์ "ขัดสมาธิเพชร"
« เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2011, 02:06:45 pm »
0
ภาพจากhttp://file.siam2web.com/

ประสบการณ์ "ขัดสมาธิเพชร"


ถาม
- นั่งคู้บัลลังก์คืออะไรครับ ใช่การนั่งขัดสมาธิเพชรหรือเปล่า แล้วการทำสมาธิโดยการนั่งวิธีนี้ ดีกว่าวิธีอื่นๆ หรือไม่ครับ?


เรื่องการขัดสมาธิเพชรนั้น
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร แห่งถ้ำผาปล่อง ท่านชอบมากครับ
เวลาไปนั่งฟังธรรมของท่านก็ดี ไปนั่งปฏิบัติต่อหน้าท่านก็ดี
ท่านชอบแนะนำให้ขัดสมาธิเพชร
เพราะมีข้อดีหลายอย่างครับ คือทำให้ไม่นั่งหลับง่ายๆ
และจิตใจก็จะเข้มแข็งมาก สมชื่อสมาธิเพชรทีเดียว
เนื่องจากเป็นท่านนั่งที่ทรมานมากกับคนที่ไม่คุ้นเคย


คราวหนึ่งพาเพื่อนที่เรียนในสถาบันจิตวิทยาความมั่นคงด้วยกัน
ขึ้นไปกราบท่านบนถ้ำผาปล่อง เชียงดาว เชียงใหม่
แต่ละท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการต่างๆ ทั้งนั้น
พอไปถึงหลวงปู่ก็แสดงธรรม โดยให้นั่งขัดสมาธิเพชร
ท่านเทศน์ไปสักพักก็มีคนแอบเปลี่ยนท่านั่งเป็นสมาธิราบบ้าง พับเพียบบ้าง
มีผู้เขียนกับผู้ใหญ่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอีกท่านหนึ่ง ที่ทนนั่งได้จนท่านเทศน์จบ

ภาพประกอบจาก http://www.facebook.com/

พอท่านเทศน์จบท่านก็ยิ้ม บอกว่า "ยังไง นั่งกันไม่ไหวเลยหรือ"
เพื่อนที่ทนนั่งได้ตลอดก็กราบเรียนท่านว่า "โอ๊ยแย่ครับหลวงปู่ ปวดขาเหลือเกิน"
หลวงปู่มองหน้าด้วยความเมตตาอย่างยิ่ง แล้วถามว่า
"ขา มันบอกว่า มันปวดหรือโยม"
เพื่อนก็ตอบว่า "ครับ ขามันปวดมากเลยครับ"


สรุปแล้ว เพื่อนไม่เข้าใจที่ท่านสอน
คือท่านสอนให้พิจารณาต่อไปว่า ขาเป็นเพียงธาตุที่ไม่รู้จักเจ็บปวด
ความเจ็บปวดเป็นเวทนาที่แทรกอยู่ในกายเท่านั้น
แต่ทั้งขาและเวทนาก็ไม่เคยบ่นว่าปวด
คนที่เร่าร้อนโอดโอยแทนขา คือจิตของเราเองต่างหาก


สำหรับท่านั่งสมาธินั้น นอกจากคำว่า "คู้บัลลังก์" แล้ว
ยังมีภาษาเก่าที่ตายไปแล้วอีกคำหนึ่ง
คือคำว่า "นั่งพะแนงเชิง"
"เชิง" คือเท้า "พะแนง" คือ ทับ ซ้อน
ต่อมาคนรุ่นหลังออกเสียงเพี้ยนไปเป็นคำว่า พนัญเชิง
เวลานี้เหลือที่ใช้คำนี้อยู่แห่งเดียว คือวัดพนัญเชิง กับหลวงพ่อพนัญเชิง
เคยอ่านพบว่า ที่เรียกท่านว่าหลวงพ่อพะแนงเชิง
ก็เพราะท่านเป็นพระนั่งสมาธิขนาดใหญ่องค์แรกๆของอโยธยา (ก่อนอยุธยา)
ในขณะที่พระขนาดใหญ่ก่อนหน้านั้น นิยมสร้างเป็นพระนั่งห้อยพระบาท


ภาพประกอบจาก http://www.facebook.com/

ที่มา  http://dungtrin.com/mag/?12.pra
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 13, 2011, 02:18:39 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ประสบการณ์ "ขัดสมาธิเพชร"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2011, 02:16:39 pm »
0
ภาพประกอบจากhttp://www.kanlayanatam.com/

หนังสือกฎแห่งกรรม เล่ม 9 :: ภาคกฎแห่งกรรม ::
เรื่อง ปรากฎการณ์ที่วัดอัมพวัน โดย ไพจิตร ลีนุกูล
ภาคประสบการณ์พิเศษที่วัดอัมพวัน


วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘
วันนี้เวลาเดิม ยังคงมีเสียงมาสอนวิปัสสนากรรมฐานอีกเช่นเคย เป็นการสอนให้ต่อสู้กับเวทนาในการนั่งขัดสมาธิเพชร ข้าพเจ้าทดลองทำตามโดยการนั่งขัดสมาธิเพชร เวทนาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่เกิน ๑๐ วินาที จะมีอาการปวดที่ขาทั้งสองข้างมาก มากกว่านั่งขัดสมาธิธรรมดาหลายเท่านัก เสียงนั้นให้ข้าพเจ้าค่อย ๆ นับ ๑ ถึง ๑๐๐ ช้าพเจ้านับ ๑ ไม่ทันถึง ๑๐ กลับปวดมากขึ้น ๆ แทบจะตายเสียให้ได้ แต่ข้าพเจ้าก็ต่อสู้กับเวทนาได้จนนับถึง ๑๐๐

หลังจากนั้นเสียงนั้นก็ให้นั่งขัดสมาธิเพชรสลับกับนั่งขัดสมาธิธรรมดาไปเรื่อย ๆ จากการสังเกต ข้าพเจ้าสามารถนั่งขัดสมาธิเพชรได้นานขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับองค์ภาวนาพองหนอยุบหนอ และก่อนที่จะสิ้นเสียงในวันนี้ ได้บอกแก่ข้าพเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายว่า ในการแผ่เมตตาให้ข้าพเจ้านั่งขัดสมาธิเพชรทุกครั้งไป

ในค่ำคืนวันนี้ เป็นวันที่พระเดชพระคุณท่านฯ จะได้มอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรมทุกคน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ก่อนสิ้นสุดพิธีในวันนี้ พระเดชพระคุณท่านฯ ได้แสดงธรรมให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรมทุกคน พร้อมทั้งแง่คิดต่าง ๆ มากมาย สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ ธรรมที่ท่านแสดงล้วนแล้วแต่เป็นการตอบข้อสงสัยของผู้ปฏิบัติธรรมทุกคน โดยที่ยังไม่มีการถามแต่ประการใด

นอกจากนี้สิ่งที่ทุกคนอยากรู้ อยากได้ หรืออยากให้ช่วยเหลือ ก็ได้รับการกล่าวแจ้งแถลงไขรวมอยู่ในธรรมบรรยายในครั้งนี้ด้วย เป็นเรื่องที่แปลกประหลาด หรือเป็นเพราะญาณวิถีอันแก่กล้า ของพระเดชพระคุณท่านพระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพ่อจรัญ) ที่มีเมตตาต่อพวกเราทุกคน

ภาพประกอบจาก http://www.facebook.com/

ที่มา http://www.jarun.org/v6/th/lrule09r0102.html

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ประสบการณ์ "ขัดสมาธิเพชร"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2011, 02:22:04 pm »
0

การนั่งขัดสมาธิ (สะ-หมาด) คือการนั่งตามสบายอย่างหนึ่ง และ การนั่งแบบทำสมาธิ

1. การนั่งขัดสมาธิธรรมดา คือ การนั่งบนพื้นคู้เข่าทั้งสองข้างหาตัว แนบขาลงที่พื้น โดยให้ขาข้างหนึ่งซ้อน ทับอยู่บนขาอีกข้างหนึ่ง
ส้นเท้าทั้งสองข้าง จะสัมผัสกับขาเป็นอิริยาบถที่ใช้นั่งตามลำพังสบายๆ หรือสำหรับชายนั่งกับพื้นรับประทานอาหาร


การนั่งขัดสมาธิที่ใช้ในศาสนามี 2 แบบ คือ การนั่งขัดสมาธิราบ และขัดสมาธิเพชร

การนั่งขัดสมาธิราบ คือ การนั่งขัดสมาธิสองชั้นโดยเอาขาซ้อนทับกัน เอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ให้นิ้วหัวแม่มือ
จรดกันตั้งกายส่วนบนให้ตรง การนั่งขัดสมาธิราบนี้ใช้นั่งในการเจริญภาวนา ทำจิตใจให้สงบ ซึ่งเป็นการปฏิบัติกรรมฐาน เมื่อ นั่งแบบนี้
จะมีผลให้เนื้อหนังและเอ็น ไม่ขด แม้นั่งนานทุกขเวทนาก็จะไม่เกิดขึ้น การบำเพ็ญภาวนาทางจิตใจจะได้ผล


ภาพประกอบจาก http://www.facebook.com/

การนั่งขัดสมาธิเพชร คือ การนั่งขัดสมาธิโดยคู้ เข่าทั้งสองข้าง เอาฝ่าเท้าทั้งสองขัดหรือ ไขว่ขึ้น วางบนหน้าขาท่านั่งขัดสมาธิ
แบบน ี้ต้องใช้การฝึกหัดให้เกิดความชำนาญโดย การหัดนั่งขัดสมาธิราบหรือขัดสมาธิสองชั้น ได้ชำนาญแล้ว



วิธีฝึกหัด ให้นั่งลง บนพื้นปล่อยให้ขาพักอยู่ตรงหน้าแล้วจึง ค่อยดึงขาซ้ายงอทำมุมฉากกับร่างกาย ใช้ส้นเท้าซ้ายนั้นพักอยู่บนพื้น
แล้วจับ เท้าขวาขึ้นวางบนต้นขาซ้าย ให้ส้นเท้า ขวาชิดกับหน้าขา อย่าให้เท้าขวาเป็นที่ทรมาน หรืออึดอัด ขยับเข่าซ้ายที่งออยู่ให้เข้ามา
ชิดตัว ยกข้อเท้าซ้ายขึ้นแล้ววาง หลังมือซ้ายลงบนต้นขาขวาให้ส้นเท้า จรดกับหน้าขาขวา เมื่อขัดสมาธิแบบนี้ได้ แล้วยืดกายท่อนบนให้ตรง
แบบนั่งขัดสมาธิราบ นั่งขัดสมาธิแบบนี้เรียกว่า "ขัดสมาธิเพชร" หรือเรียกว่า "นั่งท่าดอกบัว" ( ปัทมาสนะ) ใช้นั่งบริกรรมภาวนาหรือปฏิบัติ
โยคะ

ภาพประกอบจาก http://www.facebook.com/

ที่มา http://www.kanchanapisek.or.th/kp8/mthai/sit1-2.htm


นั่งสมาธิกัน โอ้โห...ลูกใครเนี่ย เก่งจริง ๆ ค่ะ ขัดสมาธิเพชรด้วยล่ะ!!!

ขอบคุณภาพจากhttp://www.bloggang.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ