ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อำนาจ ของ พระพุทธานุสสติ จากพระโอษฐ์  (อ่าน 6413 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

paisalee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 382
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อำนาจ ของ พระพุทธานุสสติ จากพระโอษฐ์
« เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 07:26:07 am »
0

ขอบคุณภาพจาก  http://1.bp.blogspot.com

วันนี้วันพระ มาเจริญธรรม กันในวันพระ นะครับ

พระสุตตันตปิฎก  อังคุตตรนิกาย  ฉักกนิบาต  [๑.  ปฐมปัณณาสก์]
 ๑.  อาหุเนยยวรรค  ๑๐.  มหานามสูตร
 
 สมัยใด    อริยสาวกระลึกถึงตถาคต    สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้น ย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโมหะกลุ้มรุม สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้นย่อมปรารภตถาคตดำเนินไปตรงทีเดียว    มหานามะ    ก็อริยสาวกผู้มีจิตดำเนินไปตรงแล้ว    ย่อมได้ ความปลาบปลื้มอิงอรรถ    ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงธรรม    ย่อมได้ ปราโมทย์ที่ประกอบด้วยธรรม    เมื่อมีปราโมทย์    ย่อมเกิดปีติ    เมื่อใจ มีปีติกายย่อมสงบ    เธอมีกายสงบย่อมได้รับสุข    เมื่อมีสุขจิตย่อม ตั้งมั่น    มหานามะ    ตถาคตกล่าวว่า    อริยสาวกนี้เป็นผู้ถึงความสงบ อยู่ในหมู่สัตว์ผู้ถึงความไม่สงบ    เป็นผู้ไม่มีพยาบาทอยู่ในหมู่สัตว์ผู้มี พยาบาท    เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยกระแสธรรม    เจริญพุทธานุสสติอยู่

     
 :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2011, 07:49:59 am โดย paisalee »
บันทึกการเข้า
บุญที่้ข้าพเจ้าได้ทำวันนี้ ขออุทิศให้แก่ บิดาและน้องชายที่ล่วงลับ มารดาที่ยังมีชีวิตอยู่

paisalee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 382
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อำนาจ ของ พระธรรมานุสสติ จากพระโอษฐ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 07:30:20 am »
0

ขอบคุณภาพจาก http://www.vcharkarn.com

๒.    อริยสาวกระลึกถึงธรรมว่า    ‘พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาค ตรัสไว้ดีแล้ว    ผู้ปฏิบัติจะพึงเห็นชัดด้วยตนเอง    ไม่ประกอบด้วยกาล๑ ควรเรียกให้มาดู    ควรน้อมเข้ามาในตน    อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน’มหานามะ    สมัยใด    อริยสาวกระลึกถึงธรรม    สมัยนั้น    จิตของ อริยสาวกนั้นย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโมหะกลุ้มรุม    สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้นย่อมปรารภธรรมดำเนินไป ตรงทีเดียว    มหานามะ    ก็อริยสาวกผู้มีจิตดำเนินไปตรงแล้ว    ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงอรรถ    ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงธรรม    ย่อมได้ ปราโมทย์ที่ประกอบด้วยธรรม    เมื่อมีปราโมทย์    ย่อมเกิดปีติ    เมื่อใจ มีปีติกายย่อมสงบ    เธอมีกายสงบย่อมได้รับสุข    เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น    มหานามะ    ตถาคตกล่าวว่า    อริยสาวกนี้เป็นผู้ถึงความสงบอยู่ในหมู่สัตว์ผู้ถึงความไม่สงบ    เป็นผู้ไม่มีพยาบาทอยู่ในหมู่สัตว์ผู้มีพยาบาท    เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยกระแสธรรม    เจริญธัมมานุสสติอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2011, 07:50:10 am โดย paisalee »
บันทึกการเข้า
บุญที่้ข้าพเจ้าได้ทำวันนี้ ขออุทิศให้แก่ บิดาและน้องชายที่ล่วงลับ มารดาที่ยังมีชีวิตอยู่

paisalee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 382
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อำนาจ ของ พระสังฆานุสสติ จากพระโอษฐ์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 07:35:35 am »
0

ขอบคุณภาพจาก http://dream.siamha.com


๓.  อริยสาวกระลึกถึงพระสงฆ์ว่า    ‘พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค  เป็นผู้ปฏิบัติดี    ปฏิบัติตรง    ปฏิบัติถูกทาง    ปฏิบัติสมควร    ได้แก่ อริยบุคคล    ๔    คู่คือ    ๘    บุคคล๑    พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคนี้ เป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวาย    ควรแก่ของต้อนรับ    ควรแก่ทักษิณา ควรแก่การทำอัญชลี    เป็นนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก’    มหานามะ สมัยใด    อริยสาวกระลึกถึงพระสงฆ์    สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้น ย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโมหะกลุ้มรุม สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้นย่อมปรารภพระสงฆ์ดำเนินไปตรง ทีเดียว    มหานามะ    ก็อริยสาวกผู้มีจิตดำเนินไปตรงแล้ว    ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงอรรถ    ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงธรรม    ย่อมได้ ปราโมทย์ที่ประกอบด้วยธรรม    เมื่อมีปราโมทย์    ย่อมเกิดปีติ    เมื่อใจ  มีปีติกายย่อมสงบ    เธอมีกายสงบย่อมได้รับสุข    เมื่อมีสุขจิตย่อม  ตั้งมั่น    มหานามะ    ตถาคตกล่าวว่า    อริยสาวกนี้เป็นผู้ถึงความสงบ อยู่ในหมู่สัตว์ผู้ถึงความไม่สงบ    เป็นผู้ไม่มีพยาบาทอยู่ในหมู่สัตว์ผู้มี พยาบาท    เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยกระแสธรรม    เจริญสังฆานุสสติอยู่



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2011, 07:50:21 am โดย paisalee »
บันทึกการเข้า
บุญที่้ข้าพเจ้าได้ทำวันนี้ ขออุทิศให้แก่ บิดาและน้องชายที่ล่วงลับ มารดาที่ยังมีชีวิตอยู่

paisalee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 382
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อำนาจ ของ สีลานุสสติ จากพระโอษฐ์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 07:38:35 am »
0

ขอบคุณภาพจาก http://www.dhammathai.org

๔.    อริยสาวกระลึกถึงศีลของตน    ที่ไม่ขาด    ไม่ทะลุ    ไม่ด่าง    ไม่พร้อย เป็นไท    ท่านผู้รู้สรรเสริญ    ไม่ถูกตัณหาและทิฏฐิครอบงำ    เป็นไปเพื่อสมาธิ    สมัยใด    อริยสาวกระลึกถึงศีล    สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้น  ย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโมหะกลุ้มรุม สมัยนั้นจิตของอริยสาวกนั้นย่อมปรารภศีลดำเนินไปตรงทีเดียว มหานามะ    ก็อริยสาวกผู้มีจิตดำเนินไปตรงแล้ว    ย่อมได้ความ ปลาบปลื้มอิงอรรถ    ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงธรรม    ย่อมได้ ปราโมทย์ที่ประกอบด้วยธรรม    เมื่อมีปราโมทย์    ย่อมเกิดปีติ    เมื่อใจ มีปีติกายย่อมสงบ    เธอมีกายสงบย่อมได้รับสุข    เมื่อมีสุขจิตย่อม ตั้งมั่น    มหานามะ    ตถาคตกล่าวว่า    อริยสาวกนี้เป็นผู้ถึงความสงบ  อยู่ในหมู่สัตว์ผู้ถึงความไม่สงบ    เป็นผู้ไม่มีพยาบาทอยู่ในหมู่สัตว์ผู้มี  พยาบาท    เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยกระแสธรรม    เจริญสีลานุสสติอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2011, 07:50:31 am โดย paisalee »
บันทึกการเข้า
บุญที่้ข้าพเจ้าได้ทำวันนี้ ขออุทิศให้แก่ บิดาและน้องชายที่ล่วงลับ มารดาที่ยังมีชีวิตอยู่

paisalee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 382
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อำนาจ ของ จาคานุสสติ จากพระโอษฐ์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 07:42:42 am »
0

ขอบคุณภาพจาก http://www.oknation.net


๕.    อริยสาวกระลึกถึงจาคะ(การสละ)    ของตนว่า    ‘เป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ    เมื่อหมู่สัตว์ถูกความตระหนี่อันเป็นมลทินกลุ้มรุม  เรามีใจปราศจากความตระหนี่อันเป็นมลทิน    มีจาคะอันสละแล้ว มีฝ่ามือชุ่ม    ยินดีในการสละ    ควรแก่การขอ    ยินดีในการแจกทาน อยู่ครองเรือน’    มหานามะ    สมัยใด    อริยสาวกระลึกถึงจาคะ    สมัยนั้น จิตของอริยสาวกนั้นย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุม   ไม่ถูกโมหะกลุ้มรุม    สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้นย่อมปรารภจาคะ  ดำเนินไปตรงที่เดียว    มหานามะ    ก็อริยสาวกผู้มีจิตดำเนินไปตรงแล้ว ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงอรรถ    ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงธรรม   ย่อมได้ปราโมทย์ที่ประกอบด้วยธรรม    เมื่อมีปราโมทย์    ย่อมเกิดปีติ  เมื่อใจมีปีติกายย่อมสงบ    เธอมีกายสงบย่อมได้รับสุข    เมื่อมีสุขจิต ย่อมตั้งมั่น    มหานามะ    ตถาคตกล่าวว่า    อริยสาวกนี้เป็นผู้ถึง  ความสงบอยู่ในหมู่สัตว์ผู้ถึงความไม่สงบ    เป็นผู้ไม่มีพยาบาทอยู่ในหมู่สัตว์ผู้มีพยาบาท    เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยกระแสธรรม    เจริญ จาคานุสสติอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2011, 07:50:44 am โดย paisalee »
บันทึกการเข้า
บุญที่้ข้าพเจ้าได้ทำวันนี้ ขออุทิศให้แก่ บิดาและน้องชายที่ล่วงลับ มารดาที่ยังมีชีวิตอยู่

paisalee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 382
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อำนาจ ของ เทวตานุสสติ จากพระโอษฐ์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 07:48:27 am »
0

ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com


๖.    อริยสาวกเจริญเทวตานุสสติว่า    ‘มีเทวดาชั้นจาตุมหาราช    เทวดา ชั้นดาวดึงส์    เทวดาชั้นยามา    เทวดาชั้นดุสิต    เทวดาชั้นนิมมานรดี  เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตดี    เทวดาชั้นพรหมกาย    เทวดาชั้นสูงขึ้นไป กว่านั้น    เทวดาเหล่านั้นประกอบด้วยศรัทธาเช่นใด    จุติจากโลกนี้  แล้วไปเกิดในเทวโลกนั้น    แม้เราเองก็มีศรัทธาเช่นนั้น    เทวดา เหล่านั้นประกอบด้วยศีลเช่นใด    จุติจากโลกนี้แล้วไปเกิดในเทว- โลกนั้น    แม้เราเองก็มีศีลเช่นนั้น    เทวดาเหล่านั้นประกอบด้วยสุตะ เช่นใด    จุติจากโลกนี้แล้วไปเกิดในเทวโลกนั้น    แม้เราเองก็มีสุตะ เช่นนั้น    เทวดาเหล่านั้นประกอบด้วยจาคะเช่นใด    จุติจากโลกนี้แล้วไปเกิดในเทวโลกนั้น    แม้เราเองก็มีจาคะเช่นนั้น    เทวดาเหล่านั้น  ประกอบด้วยปัญญาเช่นใด    จุติจากโลกนี้แล้วไปเกิดในเทวโลกนั้น     แม้เราเองก็มีปัญญาเช่นนั้น’    มหานามะ    สมัยใด    อริยสาวกระลึกถึงศรัทธา    ศีล    สุตะ    จาคะ    และปัญญาของตนและของเทวดาเหล่านั้น สมัยนั้น    จิตของอริยสาวกนั้นย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม    ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุม ไม่ถูกโมหะกลุ้มรุม    สมัยนั้นจิตของอริยสาวกนั้นย่อมปรารภเทวดา  ทั้งหลายดำเนินไปตรงทีเดียว    มหานามะ    ก็อริยสาวกผู้มีจิตดำเนิน  ไปตรงแล้ว    ย่อมได้ความปลาบปลื้มอิงอรรถ    ย่อมได้ความปลาบปลื้ม  อิงธรรม    ย่อมได้ปราโมทย์ที่ประกอบด้วยธรรม    เมื่อมีปราโมทย์  ย่อมเกิดปีติ    เมื่อใจมีปีติกายย่อมสงบ    เธอมีกายสงบย่อมได้รับสุข  เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น    มหานามะ    ตถาคตกล่าวว่า    อริยสาวกนี้ เป็นผู้ถึงความสงบอยู่ในหมู่สัตว์ผู้ถึงความไม่สงบ    เป็นผู้ไม่มีพยาบาท  อยู่ในหมู่สัตว์ผู้มีพยาบาท    เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยกระแสธรรม    เจริญ เทวตานุสสติอยู่

 มหานามะ    อริยสาวกผู้ได้บรรลุผลแล้ว    รู้ชัดศาสนาแล้ว    ส่วนมากย่อมอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้
 

มหานามสูตรที่ ๑๐ จบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2011, 07:50:54 am โดย paisalee »
บันทึกการเข้า
บุญที่้ข้าพเจ้าได้ทำวันนี้ ขออุทิศให้แก่ บิดาและน้องชายที่ล่วงลับ มารดาที่ยังมีชีวิตอยู่

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อำนาจ ของ พระพุทธานุสสติ จากพระโอษฐ์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 09:58:33 am »
0
ขอบคุณบทธรรม ยามเช้า คะ

อนุโมทนา กับธรรมทานนี้ด้วยคะ

 ได้อ่านแล้วรู้สึก ดีจริง ๆ คะ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

เสริมสุข

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 223
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อำนาจ ของ พระพุทธานุสสติ จากพระโอษฐ์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 10:45:05 am »
0
อนุโมทนาด้วย คะ

กับข้อธรรม ยามเช้า อ่านแล้ว ทำให้ต้องเจริญกรรมฐาน ในตอนทำงานไปด้วยเลยคะ

 
บันทึกการเข้า
อยากได้รับความสุข จาก ธรรมะ อยากได้รับ ..... แหมก็อยากนี้จ๊ะ

because

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 71
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อำนาจ ของ พระพุทธานุสสติ จากพระโอษฐ์
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 11:57:52 am »
0
อนุโมทนาด้วย จ้า กับพระสูตร ที่นำมาให้อ่านใน วันธรรมสวนะ คะ

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า