ปริมาณ น้ำเจ้าพระยา ในเขตอำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เลยจุดวิกฤตมานานแล้วสัปดาห์ ทำให้หลายพื้นที่ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้
จะ เห็นได้ชัดจากจุดที่รายงานอยู่ตอนนี้ บริเวณใต้สะพานเดชาติวงศ์ ด้านหลังของดิฉันจะเห็นว่า น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ล้นตลิ่งรุกล้ำกินพื้นที่ริมฝั่งแล้วกว่า 300 เมตร หลังจากทะลักเข้าท่วม3ชุมชนริมแม่น้ำเมื่อวานนี้
เจ้า หน้าที่ชี้ให้ทีมข่าว ดูจุดที่แนวกระสอบทรายทรุดเมื่อเช้ามืดของวานนี้ จนเป็นเหตุให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทั้ง 3 ชุมชน คือ ชุมชนวัดเขาจอมคีรีนาคพต , ชุมชนวัดเดชาพัฒนา และชุมชนเทวดาสร้าง ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ท่วมสูงกว่า 3 เมตร เสียหายนับพันหลังคาเรือน บ้านทุกหลังที่สูงเพียงชั้นเดียวถูกท่วมมิดหลังคาหมดแล้ว วันนี้ชาวบ้านส่วนหนึ่งที่เริ่มตั้งหลักได้ ก็ทยอยนำเรือออกมาขนของและสำรวจความเสียหาย
ครอบ ครัวของนายประภาส บัวทอง เปิดภาพวงจรปิดที่มาจากร้านอินเตอร์เน็ตของตัวเองให้ทีมข่าวเราดูนาฬิกาหน้า จอแสดงเวลา ตีสาม 17 นาที น้ำโคลนจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักไหลมาถึงหน้าบ้านและชาวบ้านในชุมชนก็เร่งขน ย้ายข้าวของหนีด้วยความอลม่าน รถจักรยานยนต์หลายคัน ขี่หนีน้ำไม่ทันล้มชนกันและยังมีเศษไม้และขยะไหลเข้ามาปะทะจำนวนมาก
นายก เทศมนตรีนคร นครสวรรค์ บอกว่า สาเหตุที่ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม 3 ชุมชน เมื่อวานนี้ เป็นเพราะพื้นที่บริเวณนี้ถูกน้ำท่วมมานาน จนน้ำกัดเซาะไปจนถึงชั้นใต้ดิน คันดินและพนังกั้นน้ำที่ทำเอาไว้จึงทรุดตัวลงมา ขณะที่ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองนครสวรรค์ก็เพิ่มสูงขึ้นในทุกวัน โดยเฉพาะมวลน้ำก้อนใหญ่จากเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก วันนี้เริ่มเดินทางมาถึงจังหวัดกำแพงเพชรแล้ว คาดว่าพรุ่งนี้จะมีผลกระทบมาถึงจังหวัดนครสวรรค์ โดยทางเทศบาลมั่นใจว่าจากแผนที่มีอยู่เขตเศรษฐกิจน่าจะยังรับมือกับระดับน้ำ เจ้าพระยาได้อีก อย่างน้อย 50 เซนติเมตร
ที่บ้านห้วยรั้ว อำเภอเก้าเลี้ยว เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ถูกน้ำท่วมขังนานเกือบ 2 เดือน แล้ว ชาวบ้านต่างปรับตัวให้อยู่ได้กับทุกปัญหาที่มากับน้ำท่วม บ้านชั้นเดียวหลายหลัง ต่างต้องใช้ชีวิตอยู่บนขื่อบ้าน อย่างยากลำบาก อีกทั้งการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านก็ต้องใช้เรือแทนรถยนต์
ทะเล น้ำจืดบริเวณกว้างที่เห็นอยู่นี้ แท้จริงแล้ว เบื้องล่างคือทุ่งนาข้าว ของชาวห้วยรั้ว อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ ที่พวกเขาใช้เป็นเส้นทางเรือสัญจรเข้าออกหมู่บ้านแทนถนนมาเกือบสองเดือนแล้ว ส่วนถนนก็ถูกใช้เป็นเส้นทางรถไถรับส่งชาวบ้าน ค่าโดยสารไปกลับเข้าออกหมู่บ้าน คนละ 40 บาท คุณป้าทองใบ เป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการเรือของอบต.หนองเต่า โดยสารเข้าออกบ้านทุกวันเช้าเย็น ไปทำงานก่อสร้างในตัวเมือง แม้การเดินทางจะยากลำบากและใช้เวลามากกว่าเดิมช่วงก่อนน้ำท่วม ก็ต้องสู้และอดทน เพื่อรายได้วันละ 200 บาท และถึงจะกลัว เสี่ยงภัยต่ออุบัติเหตุที่ไม่มีแม้เสื้อชูชีพก็ไม่หวั่น
คุณป้าทองใบ ใช้เวลาเดินทางกว่าครึ่งชั่วโมง ก็ถึงบ้านซึ่งอยู่ติดกับประตูระบายน้ำคลองห้วยรั้วที่ล้นท่วมทั้งหมู่บ้านจน ไม่เห็นสภาพคลอง ต้องต่อเรืออีกลำเข้าจึงจะถึงบ้านบ้านชั้นเดียวของป้าทองใบถูกท่วมเกือบมิด หลังคา การเข้าออกจึงยากลำบากทุลักทุเลอย่างที่เห็น
ส่วนนี่คือสภาพ ภายในบ้านของป้าทองใบที่ใช้ชีวิตบนขื่อบ้าน โดยใช้ไม้กระดานเรียงต่อกันเสมือนห้องใต้หลังคา ทุกอย่างรวมเบ็ดเสร็จในห้องเดียว ข้าวของถูกเก็บขึ้นพ้นน้ำ รวมถึงถุงยังชีพของครอบครัวข่าวสามที่ป้าทองใบได้รับก็เก็บไว้กินไว้ใช้ยาม ขาดแคลน ทุกวันนี้ป้าทองใบใช้ชีวิตอยู่บนขื่อบ้านกับหลานสาวสองคน ส่วนลูกไปทำงานหาเงินที่กรุงเทพฯ และหากน้ำท่วมขึ้นสูงกว่านี้ เธอบอกว่า ก็จะไม่ยอมทิ้งบ้านและจะขอตายอยู่ที่นี่
ทั้งหมู่บ้านห้วยรั้ว 284 หลังคาถูกตัดขาด น้ำท่วมจมทุกหลัง ทุกบ้านต่างต้องปรับตัวให้อยู่รอดได้ โดยที่นี่เป็นหมู่บ้านรับน้ำจากทุกแห่ง ทั้งจากแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน ซึ่งปีนี้มาเร็วและปริมาณมาก อีกทั้งมีแนวโน้มท่วมขังนานถึงสองเดือน ชาวบ้านห้วยรั้วจึงต้องใช้ความอดทนอยู่กับน้ำ ไม่ต่างจากชาวบ้านในอีกหลายจังหวัดที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม
ขอบคุณที่มาข่าว
http://www.krobkruakao.com