ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เส้นทางการเกิดแห่งปัญญา  (อ่าน 9479 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sangtham

  • สมาชิก
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 53
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
เส้นทางการเกิดแห่งปัญญา
« เมื่อ: เมษายน 28, 2010, 12:41:09 am »
0
วันนี้ นั่งกรรมฐานดึกครับ ตั้งสัจจะไว้ว่าจะไม่นอนในคืนนี้ ก็เลยแว่บมาพักสมองสักนิดกับเว็บหน่อย
เพื่อน ๆ สมาชิก หายไปกันเยอะนะครับ ( ผมเองก็ด้วย )ไปฝึกฝนตนเองเพิ่มขึ้น (  5555 )
========================================================
ปัญญา หมายถึงการรู้แจ้ง แทงตลอด

เส้นทางการเกิดปัญญา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ทรงแสดงไว้ 3 ประการ

คือ 1 สุตามยปัญญา ปัญญาเกิดแต่การฟัง ดังนั้นปัญญาส่วนนี้เกิดจากการเรียน การถือเอาไว้ด้วยความรู้


    2 จินตามยปัญญา ปัญญาเกิดจากไตร่ตรอง คิดตาม ปัญญาส่วนนี้เกิดจากการทบทวนสิ่งที่เรียนมาเหมือนตั้ง
คำถาม ตอบโจทย์

    3 ภาวนามยปัญญา ปัญญาเกิดแต่การปฏิิบัีติ หรือ ภาวนา หมายถึงการทดสอบ ทดลอง เอาจริง เอาจังในส่วนที่สะสมไว้ 2 ประการในส่วนต้น

ดังนั้น ถ้าวิเคราะห์ให้ดี แล้ว ปัญญา ระดับที่ 1 เป็นไปเพื่อ ปัญญา ระดับที่ 2 ปัญญาระดับที่ 1 และ 2 เป็นปัญญาที่ส่งเสริม ระดับที่ 3  และปัญญา ระดับที่ 3 ก็ไปสนับสนุนปัญญาระดับที่ 1 และ 2



สำหรับนักภาวนาจริง ๆ แล้ว ในทางพระพุทธศาสนานั้น ไม่ได้เิริ่มต้นที่ ฟัง และ คิด

แต่การภาวนาในส่วน ภาวนา จริง ๆ นั้น เริ่มจากการที่จิต เห็นตามความเป็นจริง ว่า ทุกข์ ในสังสารวัฏฏ์ นั้นเป็นอย่างนี้ ไม่พึงยินดี หรือ ยินร้าย ไม่พึง เพลิดเพลิน ในสังสารวัฏฏ์ ต่อไป ในส่วนของการภาวนานั้น อาศัย

ปัญญา ที่มองเห็นตามความเป็นจริง ในโทษของสังสารวัฏฏ์

ศัพท์ ทางพระพุทธศาสนา นั้นเรียกว่า นิพพิทา คือ ความเบื่อหน่าย


ดังนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงตรัสบ่อย ๆ ในช่วงท้ายสูตรว่า

เมื่อบุคคลเห็นแจ้งตามความเป็นจริง ย่อมเบื่อหน่าย

เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด

เมื่อจิตคลายกำหนัด จึงรู้เห็นตามความเป็นจริง

เมื่อรู้แจ้งตามความเป็นจริง ย่อมไม่ยึดมั่น ถือมั่น

เมื่อไม่ยึดมั่น ถือมั่นในสิ่งทั้งปวงแล้ว

จึงสิ้นสุดแล้ว เขาผู้นั้นย่อมถึงซึ่งการสิ้นสุดแห่งพรหมจรรย์

กิจที่ควร ได้ทำเสร็จแล้ว

กิจอื่นยิ่งกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว


ในช่วง ท้าย อนัตตลักขณสูตร ยกตัวอย่างมาอีกบทครับ

[๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้ฟังแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ 

         ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในรูป  ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา  ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสัญญา  ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสังขารทั้งหลาย  ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในวิญญาณ

         เมื่อเบื่อ หน่าย ย่อมสิ้นกำหนัด  เพราะสิ้นกำหนัด จิตก็พ้น, เมื่อจิตพ้นแล้ว ก็รู้ว่าพ้นแล้ว

         อริยสาวกนั้นทราบ ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว  กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.

         [๒๔] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระสูตรนี้แล้ว พระปัญจวัคคีย์มีใจยินดี เพลิดเพลิน ภาษิตของผู้มีพระภาค.

         ก็แลเมื่อพระผู้มี พระภาคตรัสไวยากรณภาษิตนี้อยู่ จิตของพระปัญจวัคคีย์พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือ มั่น
บันทึกการเข้า

lastman

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +10/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 158
  • สระบุรี มีอรอยพระพุทธบาทมากที่สุด.................
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เส้นทางการเกิดแห่งปัญญา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 28, 2010, 03:55:32 pm »
0
 :25: เป็นบทความในช่วงที่เงียบ ๆ ได้ดีครับ
บันทึกการเข้า
อนันตริยกรรม ๖ พึงงดเว้น
มีเพื่อนบอกว่าคุณจะเลวอย่างไรก็ได้ แต่อย่าทำผิดศีล ๕

ทิด...คนหนึ่งที่นับถืออาจารย์

TCnapa

  • สมาชิก
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 82
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เส้นทางการเกิดแห่งปัญญา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 29, 2010, 07:26:02 am »
0
กระทู้อาจจะเงียบ ไป เพราะคุณปุ้ม คงไม่ว่าง คะ

แต่พวกเราก็ตามอ่านกันอยู่

เหตุเพราะไม่รู้ จะโพสต์ อะไร คะ

 :13: :13: :13: :13: :13:
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นครูบ้านนอก แต่ก็ไม่ออกจากศีล และธรรม นะจ๊ะ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28906
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: เส้นทางการเกิดแห่งปัญญา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2010, 11:36:42 am »
0

เพื่อนๆครับ โพสต์เถิดครับ อะไรก็ได้ ไม่ต้องซีเรียส

ผมไม่ว่างในบางเวลา ต้องขอโทษด้วย

แต่ขอให้เพื่อนๆทำหน้าที่อุบาสก อุบาสิกา

ที่ต้องร่วมกันเผยแพร่ ข้อธรรมต่างๆ ตามจริต ตามวาสนา

ขอให้ธรรมคุ้มครอง
:49: :bedtime2: :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ