พิมพ์

[raponsan]

ถ่ายทอดสดจันทรุปราคาผ่านเว็บไซต์

สดร.ตั้งกล้องถ่ายทอดสดปรากฎการณ์จันทรุปราคา 10 ธ.ค.ผ่านเว็บไซต์ พร้อมจัดกิจกรรมหน้าอุทยานหลวงราชพฤกษ์เชียงใหม่

วันนี้ (9ธ.ค.) ดร.ศรัณย์   โปษยะจินดา   รองผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือสดร. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า การชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ในคืนวันที่ 10 ธ.ค.นี้ 

นอกจากจะสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยแล้ว   สดร. ได้ร่วมกับเครือข่ายทางดาราศาสตร์ และหน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรมสังเกตการณ์จันทรุปราคาครั้งสำคัญ ทั่วประเทศ  พร้อมถ่ายทอดสดการเกิดปรากฎการณ์จาก จังหวัดเชียงใหม่  และที่ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏิ์  จังหวัดฉะเชิงเทรา  ผ่านเว็บไซต์ของสถาบัน ฯ  ที่ www.narit.or.th 

ซึ่งปีนี้มีการเตรียมการและขยายเซิร์ฟเวอร์รองรับ หลังจากการถ่ายทอดสดปรากฎการณ์จันทรุปราคา เมื่อวันที่16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจมีผู้เข้าชมผ่านเว็บไซต์พร้อมกันเป็นจำนวนมากจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่ม

นอกจากนี้ ยังร่วมกับสำนักบริหารจัดการงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ตั้งจุดสังเกตการณ์และถ่ายทอดสดจันทรุปราคาเต็มดวง  ณ บริเวณลานกิจกรรมหน้าอุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่  โดยมีการตั้งกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่มากกว่าสิบตัว มีเจ้าหน้าที่แนะนำการดูดาวและเรียนรู้ท้องฟ้าเบื้องต้น    พร้อมชมภาพยนตร์สามมิติในดิจิทัลโดมขนาดใหญ่จากประเทศรัสเชีย

สำหรับหน่วยงานเครือข่ายมีการจัดกิจกรรมในวันดังกล่าวทั่วประเทศ  โดยที่ จ.ฉะเชิงเทรา จัดขึ้น ที่ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏิ์  โรงเรียนไผ่แก้ววิทยาและ หอดูดาวบัณฑิต   จ.   เพชรบูรณ์  จัดที่ โรงเรียนน้ำหนาววิทยาคม  จ.พิษณุโลก จัด ที่บริเวณดาดฟ้า ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร  ส่วนที่ จ.น่าน   จัดที่ศูนย์การเรียนรู้ดาราศาสตร์และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติน่าน องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน

ด้านนายอารี   สวัสดี   นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า  สมาคมฯ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี   สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ  และชมรมอนุรักษ์โบราณวัตถุสถานและสิ่งแวดล้อม จ.ลพบุรี   จะจัดกิจกรรมสังเกตจันทรุปราคาเต็มดวงในวันเสาร์ที่  10 ธ.ค.นี้ เวลา  18:00 น. – 22:00 น.    ที่บริเวณวงเวียนเทพสตรี (วงเวียนพระนารายณ์) อ.เมืองลพบุรี   

ทั้งนี้นับตั้งแต่ พ.ศ. 2475  เคยเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงเห็นได้ในประเทศไทยตรงกับวันระลึกพระราชทานรัฐธรรมนูญ  ในเช้ามืดวันที่ 10 ธ.ค.2535  นับจากนั้น 19 ปีต่อมา   ถึงปีนี้ วันที่ 10 ธ.ค.2554  ได้เห็นอีกครั้ง  และจะเกิดขึ้นอีกครั้งใน 65 ปีข้างหน้า  ในวันที่ 10 ธ.ค. 2619

สำหรับปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ที่จะเกิดขึ้นในวันที 10 ธ.ค.นี้ ถือเป็นปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์ที่สำคัญส่งท้ายปี 2554     และเป็นจันทรุปราคาเต็มดวงที่เห็นได้ในประเทศไทยครั้งที่ 2 ของปี  ซึ่งครั้งที่ผ่านมาเกิดขึ้นเมื่อ 16 มิถุนายน 2554  

โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวดวงจันทร์จะเริ่มเข้าสู่เงามัวของโลก ตั้งแต่เวลา 18.33  น. และเกิดจันทรุปราคาบางส่วน ตั้งแต่เวลา 19.46 น.ซึ่งจะเริ่มมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่ง  จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงจันทรุปราคาเต็มดวงซึ่งจะเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐทั้งดวง  ตั้งแต่เวลา 21.06 น. ถึง 21.57 น. คิดเป็นระยะเวลาจันทรุปราคาเต็มดวงยาวนานถึง 51 นาที  และสิ้นสุดการเกิดปรากฎการณ์ในเวลา 24.30 น. รวมเวลาการเกิดปรากฏการณ์ทั้งหมดเกือบ 6 ชั่วโมง

ปรากฎการณ์ดังกล่าวสามารถชมได้ทางทิศตะวันออกสูงจากเส้นขอบฟ้าประมาณ 40 องศา หากพลาดชมจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้คนไทยต้องรออีก 3 ปี จึงจะได้ชมจันทรุปราคาเต็มดวงในประเทศไทยอีกครั้ง ในวันที่ 8 ต.ค.2557 และครั้งถัดไปในวันที่ 4 เม.ย. 2558

นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวคนไทยยังมีโอกาสเห็นจันทรุปราคาของดาวพฤหัสบดี    ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่หาชมได้ยากอีกด้วย  โดยปรากฏการณ์จันทรุปราคาของดาวพฤหัสบดี เกิดจากดวงจันทร์ไอโอของดาวพฤหัสบดี  โคจรเข้าไปในเงามืดของดาวพฤหัสบดี ทำให้คนบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์ไอโอค่อยๆ เคลื่อนที่หายเข้าไปหลังดาวพฤหัสบดี ในเวลา 18.12 น. และเคลื่อนที่ออกจากเงามืดของดาวพฤหัสบดีในเวลา 21.22 น. 

ซึ่งการสังเกตปรากฏการณ์จันทรุปราคาบนดาวพฤหัสบดีนี้ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเนื่องจากดาวพฤหัสบดีอยู่ไกลมาก จึงต้องสังเกตการณ์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ที่มีกำลังขยายตั้งแต่ 50 เท่า ขึ้นไปเท่านั้น

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
http://www.dailynews.co.th/technology/2379