พระอัมพปาลีเถรีเมื่อบวชแล้วปฏิบัิติวิปัสสนา อาศัยความที่สรีระของตนทรุดโทรมลงเพราะชรา ก็เกิดสังเวชใจ
เมื่อจะชี้แจงถึงความที่สังขารไม่เที่ยงอย่างเดียว ไม่เป็นอื่น จึงได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า
แต่ก่อน ผมของข้าพเจ้ามีสีดำเสมือนสีแมลงภู่
มีปลายงอน เดี๋ยวนี้ ผมเหล่านั้นก็กลายเป็นเสมือน
ป่านปอ เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัส
แต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน มวยผมของข้าพเจ้าเต็มด้วยดอกไม้
หอมกรุ่น เหมือนผอบที่อบกลิ่น เดี๋ยวนี้ ผมนั้นมีกลิ่น
เหมือนขนแพะ เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้า
ผู้ตรัสแต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน ผมของข้าพเจ้าดกงามด้วยปลายที่รวบ
ไว้ด้วยหวีและเข็มเสียบ เหมือนป่าไม้ทึบที่ปลูกไว้เป็น
ระเบียบ เดี๋ยวนี้ ผมนั้นก็บางลงในที่นั้นๆ เพราะชรา
พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสแต่ความจริง เป็นคำ
จริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน มวยผมดำ ประดับทอง ประดับด้วย
ช้องผมอย่างดี สวยงาม เดี๋ยวนี้ มวยผมนั้นก็ร่วงเลี่ยน
ไปทั้งศีรษะเพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้
ตรัสแต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน คิ้วของข้าพเจ้าสวยงามคล้ายรอยเขียน
ที่จิตรกรบรรจงเขียน เดี๋ยวนี้ กลายเป็นห้อย ย่นลง
เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสแต่ความ
จริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน ดวงตาทั้งคู่ของข้าพเจ้าดำขลับมีประ-
กายงาม คล้ายแหวนมณี เดี๋ยวนี้ ถูกชราทำลายเสีย
แล้วจึงไม่งาม พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสแต่
ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน เมื่อวัยสาว จมูกของข้าพเจ้าโด่งงาม
เหมือนเกลียวหรดาล เดี๋ยวนี้ กลับเหี่ยวแฟบ เพราะ
ชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสแต่ความจริง
เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน ใบหูทั้งสองของข้าพเจ้าสวยงามเหมือน
ตุ้มหูที่ช่างทำอย่างประณีตเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวนี้
กลายเป็นห้อยย่น เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธ
เจ้าผู้ตรัสแต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน ฟันของข้าพเจ้าสวยงามเหมือนหน่อตูม
ของต้นกล้วย เดี๋ยวนี้กลับหักดำ เพราะชรา พระดำรัส
ของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสแต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่
แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน ข้าพเจ้าพูดเสียงไพเราะเหมือนนก
ดุเหว่า ที่มีปกติเที่ยวไปในไพรสณฑ์ในป่าใหญ่ ส่ง
เสียงร้องไพเราะ เดี๋ยวนี้ คำพูดของข้าพเจ้าก็พูดพลาด
เพี้ยนไปในที่นั้นๆ เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธ
เจ้าผู้ตรัสแต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่ แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน คอของข้าพเจ้าสวยงามกลมเกลี้ยง
เหมือนสังข์ขัดเกลี้ยงเกลาดีแล้ว เดี๋ยวนี้ กลายเป็น
งุ้มค้อมลง เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้
ตรัสแต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน แขนทั้งสองของข้าพเจ้าสวยงาม
เปรียบเสมือนไม้กลอน กลมกลึง เดี๋ยวนี้ กลายเป็น
ลีบเหมือนกิ่งแคคด เพราะชรา พระดำรัสของพระ
พุทธเจ้าตรัสแต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็น
อย่างอื่น.
แต่ก่อน มือทั้งสองของข้าพเจ้าสวยงาม ประดับ
ด้วยแหวนทองงามระยับ เดี๋ยวนี้ กลายเป็นเสมือน
เหง้ามัน เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัส
แต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน ถันทั้งสองของข้าพเจ้าอวบอัดกลมกลึง
ประชิดกันและงอนสล้างสวยงาม เดี๋ยวนี้ กลายเป็น
หย่อนยานเหมือนถุงหนังที่ไม่มีน้ำ เพราะชรา พระ
ดำรัสของพระพุทธเจ้า ตรัสแต่ความจริง เป็นคำจริง
แท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน กายของข้าพเจ้าเกลี้ยงเกลาดังแผ่น
ทอง สวยงาม เดี๋ยวนี้ กลายเป็นสะพรั่งด้วยเส้นเอ็น
อันละเอียด เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้
ตรัสแต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน ขาอ่อนทั้งสองข้างของข้าพเจ้าสวยงาม
เปรียบเหมือนงวงช้าง เดี๋ยวนี้ กลายเป็นเหมือนข้อ
ไม้ไผ่ เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัส
แต่ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน แข้งทั้งสองของข้าพเจ้าประดับด้วยกำไล
ทองเกลี้ยงเกลาสวยงาม เดี๋ยวนี้ กลายเป็นเหมือนต้น
งาขาด เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสแต่
ความจริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
แต่ก่อน เท้าทั้งสองของข้าพเจ้าสวยงามเปรียบ
เสมือนรองเท้าหุ้มปุยนุ่น เดี๋ยวนี้ แตกเป็นริ้วรอย
เพราะชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสแต่ความ
จริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.
บัดนี้ ร่างกายนี้ เป็นเช่นนี้ คร่ำคร่า(ชำรุดทรุดโทรม)เป็นแหล่ง
ที่อยู่แห่งทุกข์เป็นอันมาก ปราศจากเครื่องลูบไล้ เป็น
เรือนชรา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสแต่ความ
จริง เป็นคำจริงแท้ ไม่แปรเป็นอื่น.พระอัมพปาลีเถรี ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว ก็พิจารณาทบทวนข้อปฏิบัติของตนแล้ว ก็เอื้อนเอ่ยคาถาเหล่านั้นออกมาเป็นอุทาน
***************************
อัมพปาลีเถรีคาถา
คาถาของพระอัมะปาลีเถรีผู้บรรลุเป็นพระอรหันต์
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=26&A=9609&Z=9666