ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'ว.วชิรเมธี' เจาะธรรมผ่าน 'สตีฟ จ็อบส์'!!!  (อ่าน 1601 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


'ว.วชิรเมธี' เจาะธรรมผ่าน 'สตีฟ จ็อบส์'!!!

ใครจะเชื่อว่าผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะไอที อย่าง ''สตีฟ จ็อบส์'' จอมยโสโอหัง จะศรัทธา ''เซน'' จนถึงขนาดที่จะอุทิศตนเพื่อศาสนา คนๆนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ผู้ชายที่รวยมากขนาดนั้น กลับใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย รวมทั้งเสื้อผ้าที่เราคุ้นตา ซึ่งเขามักจะสวมใส่ เช่น เสื้อสีดำคอเต่า กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบ ช่างเรียบง่ายและธรรมดา ทำไมกัน?

เป็นเรื่องที่น่าสนใจในระดับน่าค้นหา ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้พูดคุยกับ ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์มือทองในเมืองไทย ถอดรหัสความเป็น เซน ของสตีฟ จ็อบส์ บุรุษผู้ล่วงลับ



“สตีฟ จ็อบส์ สนใจในปรัชญาเซน….” ว.วชิรเมธีบอกว่าจ็อบส์เกิดมาในยุคซิตี้ อเมริกาทำสงครามกับทั่วโลก คนในยุคนั้นจึงเป็นคนที่ต่อต้านสงครามและหันหลังให้กับสังคม

“ณ เวลานั้นเอง ญี่ปุ่นก็เข้าไปในอเมริกา ลัทธิของกูรูจากอินเดียก็เข้าไปในอเมริกา สตีฟ จ็อบส์ ได้กลิ่นอายของจิตวิญญาณ และเขาก็เป็นบุปผาชน หรือเป็นฮิปปี้คนหนึ่ง พุทธปรัชญา สนใจเซน เขาไปอยู่สำนักเซนถึง 18 เดือน ไปอยู่อินเดียถึง 7 เดือน เพราะจะแสวงหาคำตอบทางจิตวิญญาณว่า

แท้ที่จริงสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะได้รับคืออะไร แสดงว่าเขามาสนใจ เพราะบริบทของอเมริกา มันเป็นบริบทของจิตวิญญาณ เขาศึกษาลัทธิหลายลัทธิด้วยกัน แต่สุดท้ายเขาเลือกเซน เพราะมันตอบชีวิตเขาได้ว่า เซนนั้นเต็มไปด้วยความเรียบง่าย แต่มีความสุขลุ่มลึก แท้ที่จริง เซนก็คือพุทธศาสนานั่นเอง"



และนี่คือสิ่งที่เราทุกๆ คน ควรเรียนรู้ทั้ง 5 ข้อ

1. ทำในสิ่งที่รัก สตีฟ จ็อบส์ พูดเสมอว่า ที่เขาประสบความสำเร็จ เพราะเขาได้ทำในสิ่งที่เขารัก เขาจะไม่ไปเสียเวลาทำในสิ่งใดก็ตามที่เขาไม่มีความจริงจัง คลั่งไคล้ใหลหลง พอเขาได้ทำในสิ่งที่รัก เขาก็ประสบความสำเร็จ ซึ่งหลักตรงนี้ ตรงกับหลักของพระพุทธเจ้า ในอิทธิบาท 4 พระพุทธเจ้าบอกว่า คนที่อยากประสบความสำเร็จ ต้องมีฉันทะ ทำในสิ่งที่รัก ดังนั้น สตีฟ จ็อบส์ เขาทำตรงเป๊ะเลย

2. ทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ถ้าไม่ดีที่สุด อย่าเสียเวลาไปทำ

3. เป็นคนที่กล้าคิดต่าง ทำให้โลกนี้มีคนอย่างสตีฟ จ็อบส์ เขาบอกว่า ถ้าเขาคิดเหมือนคนอื่น เขาก็ไม่สามารถสร้างนวัตกรรมอะไรได้ ฉะนั้น เขากล้าคิดต่าง กล้าคิดนอกกรอบ นวัตกรรมของเขาจึงเป็นนวัตกรรมที่ล้ำยุคมาก

4. สตีฟ จ็อบส์ นั้น เป็นสุดยอดของมืออาชีพ เวลาที่เขาจะพรีเซนต์นวัตกรรม เขาศึกษาทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งขวดน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เขาก็ไปหมุนเกลียวดูว่า มันมีเกลียวหมุนยังไง แม้แต่แสงไฟที่ส่องลงบนเวที   สตีฟ จ็อบส์ ก็ไปเช็กดูว่า มันเหมาะสมมั้ย สตีฟ จ็อบส์ ดูทุกรายละเอียด ขนาดลงลึกระดับพิกเซล



"ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องทำงานแบบมืออาชีพ อย่าคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว แน่แล้ว ไม่ต้องฝึก ขนาดสตีฟ จ็อบส์ ยังต้องฝึกทุกครั้งก่อนลุกขึ้นพูดบนเวที ทำอะไรก็ตาม อย่าทำทิ้งๆ ขว้างๆ แบบว่าขอไปที ให้ทำอย่างคนที่เป็นมืออาชีพ"

ประการสุดท้าย คือ สตีฟ จ็อบส์ บอกว่า ผมอยากเปลี่ยนโลกนี้ให้ดีขึ้น อาตมาคิดว่า สำคัญมาก คนบางคนเกิดมาเพื่อให้โลกนี้แย่ลง แต่สตีฟ จ็อบส์ บอกว่า อยากเปลี่ยนโลกนี้ให้ดีขึ้น ถ้าเราคนไทยบอกว่า ผมอยากเปลี่ยนประเทศไทยให้ดีขึ้น และลงมือทำอย่างสตีฟ จ็อบส์ ประเทศไทยจะไปได้ไกลกว่านี้

การเสียชีวิตไม่เสียเปล่า หากเราเรียนรู้...!!


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/life/226081
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ