พิมพ์

[raponsan]

รับลมหนาวใกล้กรุง มุ่งหน้าอุทัยธานี

สัมผัสลมในเมืองแห่งสายน้ำที่ไม่ไกลจากรุงเทพมากนัก พร้อมซึมซับความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ที่ จังหวัดอุทัยธานี

ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลส่งท้ายปี เป็นช่วงที่หลายครอบครัวมักเลือกวางแผนเดินทางไปพักผ่อนยังต่างจังหวัด ทำให้การคมนาคมในหลายเส้นทางโดยเฉพาะทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดขัดกว่าปกติ วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ มีทางเลือกใหม่สำหรับการท่องเที่ยวมากับจังหวัดใกล้กรุงเทพฯที่สัมผัสได้ถึงลมหนาวไม่ต่างจากภาคเหนือมาแนะนำ

ฤดูหนาวปีนี้ใครที่อยากสัมผัสลมหนาวแต่ไม่อยากเดินทางไปไกลถึงภาคเหนือหรือภาคอีสานตอนบน จังหวัดอุทัยธานี ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักคิดว่าจังหวัดอุทัยธานีเป็นแค่เมืองทางผ่าน มีสถานที่น่าสนใจเพียง แม่น้ำสะแกกรัง และ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เท่านั้น แต่ผมยืนยันว่าความคิดของทุกคนจะเปลี่ยนไปถ้ามีโอกาสได้เข้ามาสัมผัสและพักผ่อนอย่างจริงจังที่ เมืองแห่งสายน้ำอันทรงเสน่ห์แห่งนี้

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่อยากแนะนำเมื่อมาถึงอุทัยธานีคือ วัดสังกัสรัตนคีรี บนยอดเขาสะแกกรัง ดินแดนอันศักสิทธิ์ที่ชาวอุทัยธานีทุกคนเคารพบูชา เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาอุทัยธานีควรแวะเวียนมาสักการะสิ่งศักสิทธิ์ที่วัดแห่งนี้เป็นอันดับแรก โดยสามารถเลือกทางขึ้นยอดเขาสะแกกรังได้สองเส้นทางคือ ทางรถยนต์ หรือเดินจากบริเวณลานวัดขึ้นบันได 449 ขั้นตัดตรงขึ้นสู่ยอดเขาสะแกกรัง

โดยบนยอดเขาสะแกกรังมีสถานที่สำคัญอยู่หลายแห่งไม่ว่าจะเป็น พระมณฑปทรงไทยสวยงามชื่อว่า สิริมหามายากุฎาคาร ซึ่งเปรียบให้เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปเทศนาโปรดพระพุทธมารดาบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ ระฆังศักสิทธิ์ด้านหน้าพระมณฑป ซึ่งชาวอุทัยบอกว่าใครมาแล้วไม่ได้ตีถือว่ามาไม่ถึงอุทัยธานี ศาลเจ้าศักสิทธิ์ของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาบ่อยครั้ง อีกหนึ่งไฮไลท์คงต้องยกให้ จุดชมวิวยอดเขาสะแกกรัง สามารถมองเห็นเมืองอุทัยธานีได้อย่างชัดเจน และมองเห็นไกลไปจนถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

จากนั้นเดินทางมาชมวิวธรรมชาติแสนร่วมเย็นและสวยงามกันต่อที่ จุดชมวิวน้ำตกผาร่มเย็น แนะนำเลือกใช้ทางขึ้นทางด้านหนองปรือ เพื่อให้ได้อรรถรสอีกหนึ่งรูปแบบการเดินทาง เพราะต้องใช้รถขนาดเล็กหรือรถสองแถวที่ชาวบ้านเตรียมไว้ให้เท่านั้นในการเดินทาง ตรงจุดนี้สามารถมองเห็นน้ำตกผาร่มเย็น เป็นลักษณะสายน้ำสีขาวทิ้งตัวลงมาในป่าทึบอยู่เบื้องล่างได้อย่างชัดเจน ซึ่งน้ำตกแห่งนี้ชาวอุทัยยกให้เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในจังหวัด พร้อมการันตีว่าถ้าได้มาเยือนแล้วจะติดใจ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมรู้สึกทึ่งในการมาเยือนอุทัยธานีครั้งนี้ต้องยกให้ ศูนย์ทดลองปลูกไม้เมืองหนาว บ้านอีมาด อีทราย ที่ดูแลโดย สำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานี  กรมส่งเสริมการเกษตร โดยทดลองปลูกไม้ดอกและพืชผักเมืองหนาว ได้แก่  ลิลลี่ หลากสีหลายสายพันธุ์ ทิวลิป สีสันสดใส ซึ่งจะออกดอกสวยงามช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ถึงจะมีพื้นที่ไม่มากแต่ก็สามารถเข้ามาถ่ายรูปเก็บความประทับใจได้ อีกทั้งยังมีการนำ สตรอเบอร์รี่ และผักเมืองหนาวมาทดลองปลูก เพื่อเป็นต้นแบบทางเลือกอาชีพใหม่ของชาวบ้าน และให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาสัมผัสความงาม

ปิดท้ายการเดินทางเยือนอุทัยธานีด้วยการเดินทางไปทำบุญไหว้พระที่ วัดผาทั่ง เพื่อนมัสการ พระพุทธรูปหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 23 เมตร สูง 52 เมตร สร้างโดยแรงศรัทธาของคณะศิษย์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) นอกจากจะสะดุดตาด้วยความใหญ่โตแล้ว ธรรมชาติที่แถบไม่ได้ถูกทำลายรอบบริเวณวัด ช่วยทำให้สถานที่ศักสิทธิ์แห่งนี้ร่มรื่น เงียบสงบ ไม่แปลกใจเลยที่ชาวอุทัยมักเดินทางมาพักผ่อน สงบจิตใจที่รุ่มร้อน พร้อมทำบุญทำกุศลที่วัดแห่งนี้

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอุทัยธานีไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ใครที่อยากลองวางแผนเดินทางมาที่นี่ช่วงปีใหม่ แนะนำให้ลองพักผ่อนทางกลางธรรมชาติที่ห้วยขาแข้งดูสักคืนหลังจากตระเวนเที่ยวเสร็จ รับรองว่าความสมบูรณ์ของธรรมชาติจะทำให้การพักผ่อนของคุณมีความสุขมากขึ้น

นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดอุทัยธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานอุทัยธานี โทร 0 5651 4982

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.dailynews.co.th/article/821/5290