พิมพ์

[นิรตา ป้อมนาวิน]

เมื่อคืนก่อน (ซึ่งเป็นวันพระ) ป้อมฝันแปลกๆ(ไม่เคยฝันแบบนี้มาก่อน)ป้อมฝันเห็นสระบัว มีดอกบัวแดงเต็มสระ แต่ละดอกใหญ่มากๆใหญ่เท่าต้นไม้สูง และมีดอกบัวอยู่ดอกหนึ่งที่อยู่กลางสระ และดอกใหญ่ที่สุดในสระ ดอกสูง สุดลูกหูลูกตา และป้อมก็ปีนดอกบัวดอกนั้น และก็ตื่น ใครทราบรบกวนช่วยทำนายฝันให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ

[raponsan]

อรรถกถา ขุททกนิกาย มหานิทเทส อัฏฐกวัคคิกะ
๑๔. ตุวฏกสุตตนิทเทส

ผู้ฝันย่อมฝันด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ
     ธาตุโขภะ ธาตุกำเริบ ๑
     อนุภูตปุพพะ เคยเสพมาก่อน ๑
     เทวโตปสังหาระ เทวดาดลใจ ๑
     ปุพพนิมิต ลางบอกเหตุ ๑.

               ในความฝัน ๔ ประการนั้น
   ผู้มีธาตุกำเริบ เพราะดีเป็นต้นกำเริบ ชื่อว่าฝันโดยธาตุกำเริบ.
   ผู้ฝันโดยเคยเสพมาก่อนแล้ว ย่อมเห็นอารมณ์ที่เคยเสพมาแล้วในกาลก่อน.
   ฝันโดยเทวดาดลใจ ย่อมเห็นอารมณ์ทั้งหลายด้วยอานุภาพของเทวดาทั้งหลาย.
   ฝันโดยบอกเหตุล่วงหน้า ย่อมฝันเห็นลางบอกเหตุล่วงหน้าแห่งสิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
   อันประสงค์จะให้เกิดด้วยอำนาจบุญและบาป.

   ในความฝันเหล่านั้น ฝันโดยธาตุกำเริบและโดยที่เคยเสพมาก่อนแล้ว ไม่เป็นจริง.
   ฝันโดยเทวดาดลใจ จริงบ้างไม่จริงบ้าง. เพราะเทวดาโกรธ ประสงค์จะให้ถึงความพินาศโดยอุบาย ก็แสดงทำให้วิปริต.
   ฝันโดยบอกเหตุล่วงหน้า จริงโดยส่วนเดียว.

พระอเสขะไม่ฝัน
               ประเภทแห่งความฝัน ย่อมมีโดยประเภทแห่งความเกี่ยวข้องกันของมูลเหตุ ๔ อย่างเหล่านี้
               ปุถุชน ผู้เป็นเสกขะย่อมฝัน ๔ อย่างนี้ เพราะยังละความวิปลาสไม่ได้.
พระอเสกขะไม่ฝัน เพราะละวิปลาสได้แล้ว.

            เมื่อฝันหลับฝันหรือตื่นฝัน หรือไม่หลับไม่ตื่น.
               ในข้อนี้ผิว่าหลับฝัน ผิดทางอภิธรรมโดยแท้ เพราะว่าฝันด้วยจิตเข้าสู่ภวังค์ (ไม่รู้สึกตัว) ความฝันนั้นไม่มีอารมณ์มีรูปนิมิตเป็นต้น หรือไม่สัมปยุตด้วยกิเลสมีราคะเป็นต้น.

ลิงหลับแล้วฝันอย่างไร
               อนึ่ง เมื่อฝันจิตเช่นนี้ย่อมเกิดขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น ตื่นฝันจึงผิดทางวินัย เพราะว่าตื่นฝัน ย่อมฝันด้วยจิตเป็นอัพโพหาริก (มีเหมือนไม่มี) ชื่อว่าไม่เป็นอาบัติในเพราะทำการละเมิดด้วยจิตเป็นอัพโพหาริกไม่มี เมื่อผู้ฝันทำการละเมิด ไม่เป็นอาบัติโดยส่วนเดียวเท่านั้น ดังนั้นไม่หลับไม่ตื่นฝัน ใครๆ ก็ไม่ฝัน เมื่อเป็นอย่างนี้ ความฝันก็ไม่มี ไม่ฝันก็ไม่มี. เพราะเหตุไร. เพราะฝันเช่นเดียวกับลิงหลับ.

               ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า มหาบพิตร ฝันย่อมเห็นเช่นกับลิงหลับแล.
               บทว่า กปิมิทฺธปเรโต คือ ประกอบแล้วด้วยการนอนหลับของลิง. การหลับใดเปลี่ยนไปเร็ว เพราะเจือด้วยจิตเป็นกุศลเป็นต้นบ่อยๆ การออกจากภวังคจิตบ่อยๆ ย่อมมีในความเป็นไปของการหลับใด ย่อมฝันประกอบด้วยการหลับนั้น เหมือนการหลับของลิงเปลี่ยนแปลงไปได้เร็วฉะนั้น. ด้วยเหตุนั้น ความฝันนี้จึงเป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง อัพยากฤตบ้าง.

               ในความฝันนั้นพึงทราบว่า ความฝันของบุคคลผู้กระทำการไหว้พระเจดีย์ การฟังธรรมและแสดงธรรมเป็นต้นเป็นกุศล ความฝันของบุคคลผู้กระทำปาณาติบาตเป็นต้นเป็นอกุศล ความฝันนอกเหนือจากสองอย่างนั้นเป็นอัพยากฤต ในขณะที่อารมณ์นั้นเป็นอาวัชชนะ. ความฝันนั้นไม่สามารถฉุดรั้งปฏิสนธิได้ เพราะมีกำลังน้อย แต่กุศลอกุศลอื่นค้ำจุน ย่อมให้วิบากได้ในเพราะยังเป็นไปอยู่.

อ้างอิง
ที่มา  http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=29.0&i=699&p=3
อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก ตุวฏกสุตตนิทเทสที่ ๑๔
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ ,พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๑ , ขุททกนิกาย มหานิทเทส 
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=29&A=7639&Z=9093
ขอขอบคุณภาพจากเว็บ rmutphysics,2.bp.blogspot,thaimtb

[sunee]

ฝันแปลกดีเนอะ ถ้าเป็นผู้ภาวนาก็จัดว่า ฝันดี

  การได้ปีนดอกบัว นี่ หมายถึง กำลัง จิต กำแสวงหา เครื่องพ้นทุกข์ แต่ยังอยู่ระหว่างการปีนนี้ อาจจะตกได้นะจ๊ะ ดังนั้น ก็ บอกว่าเป็นนิมิตที่ดี มาก ๆ แล้วปฏิบัติภาวนาอะไรอยู่ กัน จ๊ะ

 

[raponsan]

ความฝันกับการพยากรณ์

     "เรื่องของความฝัน" นี้ใครๆก็คงได้เจอกันทุกคน   แต่ถ้ามองในแง่ของโหราศาสตร์แล้ว   ความฝันนี้ในบางครั้งสามารถที่จะนำไปใช้ในการพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้เหมือนกัน   อันที่จริงแล้วการที่บุคคลเราจะมีความฝันได้นั้นเนื่องจากเหตุต่างๆหลายประการ   อาจจะมองได้ในหลายแง่หลายมุม   ไม่ว่าจะมองในแง่ของวิทยาศาสตร์ จิตศาสตร์ หรือสรีรศาสตร์   

     ผู้เขียนได้ศึกษาจากตำรับตำราเกี่ยวกับเรื่องของความฝันของท่านผู้รู้ต่างๆ   อยากจะแนะนำว่าถ้าอยากจะเข้าใจเรื่องของความฝันได้อย่างละเอียดแล้ว   ขอให้อ่านจากหนังสือ เรื่อง "จิตตานุภาพ พุทธานุภาพ คงวามฝัน" ของ หลวงวิจิตรวาทการ   ท่านได้เขียนไว้อบ่างละอเอียดทุกแง่ทุกมุม   พอที่จะยึดถือเป็นหลักเกณฑ์ได้   และผู้เขียนจะขอนำเนื้อหายางส่วนเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์มาเล่าสู่กันฟัง

      พระนันทาจารย์ ปราชญ์องค์หนึ่งในพระพุทธศาสนา   ผู้แต่งคัมภีร์สารัตถสังคหะ   ได้ระบุถึงมูลเหตุของความฝันไว้ 4  ประการ คือ

      1. เกิดจากธาตุกำเริบ   กล่าวคือ ร่างกายไม่ปกติ   ครั้นหลับลงก็จะเกิดความฝันต่างๆ   สาเหตุมาจากการกินอาหารนั่นเอง   อาจจะกินมากหรือกินน้อยเกินไป   หรืออาจจะกินใกล้กับเวลาที่จะเข้านอน   อาหารอาจจะย่อมไม่หมด   หรือระบบการย่อยอาหารไม่ปกติ   ความฝันเนื่องจากเหตุนี้จึงไม่อาจเอามาพยากรณ์ในสิ่งใดได้

      2. เกิดจากดวงจิตพัวพันถึงสิ่งหนึ่ง   แล้วก็เก็บเอาสิ่งนั้นมาเป็นความฝัน   สาเหตุมาจากการคิดฟุ้งซ่านของเรานั่นเอง   สิ่งที่จะเข้ามาพัวพันกับจิตของเรานี้   ก็ด้วยการสัมผัสทางประสาททั้ง 5 คือ หู ตา จมูก ลิ้น และสัมผัสทางร่างกาย   สัมผัสต่างๆเหล่านี้จะเกาะติดอยู่กับจิตของเรา   หากมิได้มีการชำระให้ออกไปจากจิตของเราก่อนที่เราจะนอน   สิ่งเกาะเกี่ยวเหล่านี้จะชักนำให้เกิดความฝันขึ้นได้   ความฝันที่เกิดจากสาเหตุนี้เราจึงไม่สามารถนำมาใช้ในการพยากรณ์ได้เช่นกัน

      3. เกิดจากมารยาของเทวดา   ก่อนอื่นต้องเข้าใจความหมายของ "เทวดา" เสียก่อน   ในหนังสือ "ไตรภูมิพระร่วง" เป็นหนังวสือที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยสมัยของพระยาลิไทแห่งกรุงศรีสัชนาลัย   เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นโดยอ้างอิงหลักทางพระพุทธศาสนาในเรื่องของการเวียนว่ายตายเกิด  

      ไตรภูมิแปลว่า แดนสาม ได้แอก่ กามภูมิ รูปภูมิ และอรูปภูมิ   กามภูมิคือแดนที่เกี่ยวข้องกับกามตัณหา   ยังมีความโลภ โกรธ หลง   ดิ้นรนวนเวียนอยู่ด้วยเรื่องหยาบๆเรื่องรักๆใคร่ๆ   มีสุข มีทุกข์   เริ่มตั้งแต่สัตว์นรกในแดนนรก   เปรตในแดนเปรต   และยักษ์มารในแดนอสุรกาย 
 
      สามแดนนี้รวมเรียกว่าอบายภูมิ คือ แดนอันเป็นทุกข์และเดือดร้อนมาก   ถัดไปเป็นแดนของสัตว์ เรียกว่า ดิรัจฉานภูมิ   ดิรัจฉานหรือเดรัจฉานแปลว่าตามขวางหรือตามเส้นนอนหมายถึงสัตว์ที่ไปไหนมาไหนต้องคว่ำอกไป   ตรงกันข้ามกับคนซึ่งตัวตรงเป็นเส้นตั้ง   อันเป็นแดนมนุษยภูมิ   สัตว์ไปเกิดเป็นคนในแดนมนุษย์   และมนุษย์ไปเกิดเป็นเทวดาในแดนสวรรค์   และสวรรค์ก็แบ่งออกเป็น 6 ชั้นด้วยกัน
   
     เมื่อรวมกับแดนของมนูษย์ด้วยจะเป็น 7 แดนด้วยกันเรียกว่า สุขคติภูมิ   คือเป็นแดนที่มีสุข   แต่ยังเป็นแดนที่เกี่ยวข้องทะเยอทะยานเกี่ยวกับเรื่องของกามอยู่   จึงยังเป็นกามภูมิ

       แม้มนุษย์และเทวดาจะยังอยู่ในภูมิเดียวกัน   แต่ร่างกายของมนุษย์มีความหยาบ ไม่เหมือนกับเทวดามีกายที่ละเอียด   การที่จะพบเห็นเทวดาได้ก็ต้องด้วยดวงจิตที่ละเอียดใสสะอาด   ทั้งเทวดามีฤทธิ์มีอำนาจอาจดลบันดาลให้เกิดสิ่งใดๆแก่มนุษย์ได้   การที่มนุษย์มีความฝันอาจจะเกิดจากการดลบันดาลของเทวดาได้   ไม่ว่าในทางที่เป็นคุณและเป็นโทษ   ฉะนั้น ความฝันที่เกิดจากสาเหตุนี้จึงสามารถที่จะนำมาใช้ในการพยากรณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้   ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องมีการถอดความหรือตีความหมายของความฝันนั้นด้วย   แต่ในบางครั้งก็จะชัดเจนตรงๆ

      4. ฝันโดยบุพพนิมิตบอกให้ทราบล่วงหน้าว่าจะมีเหตุดีหรือเหตุร้ายเกิดขึ้นล่วงหน้า   บุพพนิมิตนี้เกิดจากดวงจิตของตัวผู้ฝันเอง   อาจจะเรียกว่าเป็น "ญาณล่วงหน้า" ของตัวผู้ฝันเองก็ได้   ดวงจิตที่สงบ ดวงจิตที่ใสสะอาด   เหมือนแก้วหรือกระจกใส ปราศจากสิ่งปิดบังให้มืดมัว   สามารถมองเห็นภาพที่อยู่ระยะไกลได้
   
      อันนี้เป็นสาเหตุมาจากตัวผู้ฝันเอง   ซึ่งอาจจะเกิดจากความจำและแรงปรารถนาอย่างแรงกล้า   ความฝันประเภทนี้อาจจะเป็นความฝันตรงๆ   ไม่จำเป็นต้องถอดความหรือตีความหมายของความฝันเลยก็ได้   แต่ในบางครั้งก็อาจจะต้องมีการถอดความหรือความหมายขแองความฝัน   เนื่องจากความฝันนั้นไม่มีความชัดเจนเพียงพอ

      สรุปก็คือ ความฝันที่จะนำมาใช้ในการพยากรณ์ได้จะต้องเกิดจากมารยาของเทวดา หรือจะเรียกว่าเทพสังหรณ์ก็ได้    อีกอย่างหนึ่งก็คือ บุพพนิมิต   นอกจากนี้ไม่อาจจะนำมาใช้ในการพยากรณ์ได้เลย

เมื่อเราฝัน เราจะต้องพิจารณาเสียก่อนว่า ความฝันนั้นเป็นความฝันที่จะบอกเหตุการณ์ความเป็นไปที่จะเกิดในอนาคตได้   และเมื่อแน่ใจแล้ว   เราถึงจะถอดความหรือแปลความหมายของความฝันนั้นในโอกาสต่อไปได้   ลำดับต่อไปจะได้พูดถึงวิธีการแปลความฝันในทัศนะต่างๆ

      1. หลักของอาร์เตมิดอเร
      ในสมัยของอาร์เตมิดอเรนั้นถือว่าการทำนายฝันเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง   ผู้ทำนายฝันจะถือตนว่า มีคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้มาจากสวรรค์   และคนสามัญไม่มีตำราจึงไม่อาจทำนายได้   ฉะนั้น เมื่อใครฝันอย่างไร   ก็จะไปขอให้ผู้มีอาชีพในทางนี้ทำนายให้

      อาร์เตมิดอเร ได้วางหลักวิธีแปลความฝันไว้ 5 ประการ คือ
      1. ผู้ทำนายฝันจะต้องพิจารณาความฝัน   ดำเนินตั้งแต่ต้นมาหาปลาย   และทบทวนตั้งแต่ปลายมาหาต้น   เพราะในบางครั้งตอนต้นของความฝันเป็นเรื่องอธิบายความหมายของความฝันโดยตลอด   แต่ในบางครั้งตอยปลายเป็นเรื่องอธิบาย
      2. ผู้ทำนายจะต้องซักไซ้ไล่เลียงผู้ฝัน   ว่าความฝันนั้นเกิดขึ้นในเวลาใด   เพราะเวลาฝันเป็นข้อสำคัญที่จะทายว่าความฝันนั้นจะถูกต้องควรเชื่อได้เพียงใด
      3. ผู้ทำนายต้องซักถาม   ว่าผู้นั้นรับประทานอะไรบ้างก่อนนอน
      4. ผู้ทำนายต้องพิจารณาถึงฐานะความเป็นอยู่ ความประพฤติ และกิจการประจำวันของผู้ฝันนั้นด้วย
      5. ผู้ฝันจะต้องเล่าให้ตลอดทุกกระทงตามที่จำได้   โดยไม่ปิดบังอำพราง   เพราะบางทีความข้อเดียวถ้าละเว้นเสียอาจทำให้ผู้ทำนายทายผิดไปได้มากๆ

      2. หลักของท่านผู้หญิงเดอซีเร
      ท่านผู้นี้ถือว่า ความฝันที่จะบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าได้นั้น   คือความฝันที่มีขึ้นตั้งแต่เที่ยงคืนถึงย่ำรุ่งเท่านั้น   ท่านผู้นี้ยังอธิบายต่อไปว่า อานุภาพของพระจันทร์   เป็นเครื่องทำความฝันให้เป็นความจริงหรือไม่จริงได้   สุดแต่ว่าจะฝันวันไหน   ตามทางโคจรของพระจันทร์   ซึ่งมีความหมายต่างๆกัน ดังนี้

      ขึ้น 1 ค่ำ   เป็นความฝันที่ดีเสมอ   กล่าวคือ ถ้าหากฝันดี ก็จะได้ผลดีตามความฝัน   ถ้าฝันร้าย ผลร้ายก็จะบรรเทา   ไม่ร้ายเท่าที่ฝันในวันอื่นๆ
      ขึ้น 2 ค่ำ   เป็นความฝันที่เชื่อไม่ได้   ฝันดีหรือฝันร้าย ก็จะไม่เป็นไปตามฝัน
      ขึ้น 3 ค่ำ   เป็นความฝันที่เชื่อไม่ได้เลยเหมือนกัน
      ขึ้น 4 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงตามคำทำนาย
      ขึ้น 5 ค่ำ   เป็นความฝันที่เชื่อไม่ได้ และไม่ควรเอาใจใส่
      ขึ้น 6 ค่ำ   ตัวความฝันเองไม่แปลว่าดีหรือร้ายประการใด   และอยู่ในจำพวกความฝันที่เชื่อไม่ได้   แต่ความฝันที่เกิดขึ้นในวันนี้   ผู้ฝันจะต้องปกปิดเป็นความลับที่สุด   ถ้าเอาไปเล่าให้ใครฟังจะเคราะห์ร้าย   (โดยที่เจ้าตำราเป็นผู้หญิงจึงมีการถือโชคลางชนิดนี้ด้วย)
      ขึ้น 7 ค่ำ   ฝันดีหรือร้ายจะเป็นจริงตามคำทำนายทั้งหมด
      ขึ้น 8 ค่ำ   ความฝันมีลักษณะเหมือนขึ้น 7 ค่ำ
      ขึ้น 9 ค่ำ   มีลักษณะเหมือนขึ้น 7 ค่ำ   และจะเป็นจริงเร็วขึ้นด้วย
      ขึ้น 10 ค่ำ   มีลักษณะเหมือนขึ้น 7 ค่ำ

      ขึ้น 11 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงตามคำทำนาย   แต่ต้องรอไปอีกหลายๆวันภายหลัง
      ขึ้น 12 ค่ำ   ความฝันจะตรงกันข้ามหมด   คือฝันดีจะกลายเป็นฝันร้าย   ฝันร้ายจะกลายเป็นดี
      ขึ้น 13 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงเฉพาะเรื่องเดียวคือการแต่งงาน   ความฝันอย่างอื่นนอกจากนั้นเชื่อไม่ได้
      ขึ้น 14 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงตามคำทำนาย   แต่จะต้องคอยไปอีกนาน
      ขึ้น 15 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงใน 10 วันข้างหน้า   นับจากวันที่ฝัน
      แรม 1 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงตามคำทำนาย
      แรม 2 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงใน 3 วันข้างหน้า
      แรม 4 ค่ำ   เป็นฝันดีหมดทุกอัน   ถึงแม้จะฝันร้ายจะกลายเป็นดี
      แรม 5 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงใน 4 วันข้างหน้า
      แรม 6 ค่ำ   เป็นความฝันที่เชื่อไม่ได้เลย
      แรม 7 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงตามคำทำนายโดยรวดเร็ว
      แรม 8 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงใน 3 วันข้างหน้า
      แรม 9 ค่ำ   ความฝันจะดีเสมอ   คงแม้ฝันร้ายก็จะกลายเป็นดี
      แรม 10 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงและได้ข่าวภายใน 8 วัน
      แรม 11 ค่ำ   เป็นความฝันที่เตือนให้ระวังตัว
      แรม 12 ค่ำ   เป็นความฝันที่บอกข่าวดีสำหรับอนาคตของผู้ฝัน
      แรม 13 ค่ำ   ความฝันจะเป็นจริงและเป็นผลดีเสมอ
      แรม 14 ค่ำ   มีลักษณะอย่างเดียวกับแรม 13 ค่ำ
      แรม 15 ค่ำ   ไม่ว่าจะเป็นฝันดีหรือร้ายจะเป็นจริงตามคำทำนายในวันนั้น

      3. หลักของยอร์ซอังเกอติล
      เขาไปบอกลักษณะของความฝันตามทางโคจรของอาทิตย์   ซึ่งเป็นหลักที่ได้มาจากตำราของอียีปต์ ดังนี้

      เดือนเมษายน   วันที่ 5 และ 27 ความฝันจะไม่เป็นความจริงเลย   วันที่ 10 20 29 30 เป็นฝันที่ร้ายเสมอ   ถึงฝันดีก็จะตรงกันข้าม

      เดือนพฤษภาคม   วันที่ 1 2 4 6 9 14 เป็นฝันดีพอใช้   ควรทำนายให้หนักไปในทางดี   วันที่ 10 17 20 เป็นฝันที่เกี่ยวกับตัวอนาคตของผู้ฝันและหนักไปในทางร้าย

      เดือนมิถุนายน   วันที่ 3 5 7 9 12 13 เป็นความฝันที่จะเป็นจริงในไม่ช้า   วันที่ 4 และ 20 พระเจ้าจะช่วยให้ได้ดี

      เดือนกรกฎาคม   วันที่ 2 6 10 23 30 ตามปกติเป็นฝันดี   ให้ทำนายให้หนักไปในทางดี   วันที่ 5 13 27 เป็นฝันที่เกี่ยวกับฐานะของตัวผู้ฝันและหนักไปในทางร้าย

      เดือนสิงหาคม   วันที่ 5 7 10 14 19 อย่าเล่าความฝันให้ใครทราบ   วันที่ 2 13 27 31 เป็นความฝันที่ไม่มีผลอะไรเลย

      เดือนกันยายน   วันที่ 6 10 15 18 30 เป็นความฝันที่ดีหรือร้ายเกี่ยวกับฐานะของผู้ฝันเอง   วันที่ 13 16 22 23 เป็นฝันที่จะทำให้เกิดความยุ่งยาก   ต้องทายให้หนักไปทางร้าย

      เดือนตุลาคม   วันที่ 13 16 23 31 เป็นฝันที่ดีเสมอ   วันที่ 3 9 27 เป็นลางร้าย

      เดือนพฤศจิกายน   วันที่ 8 13 23 30 ต้องทายใหเหนักไปในทางดี   วันที่ 6 25 เป็นความฝันที่ไม่มีผลอะไรเลย

      เดือนธันวาคม   วันที่ 10 20 29 เป็นฝันที่จะนำความรื่นเริงมาให้   ต้องทายหนักไปในทางดีให้มาก   วันที่ 13 28 31 เป็นความฝันที่จะนำความลำบากมาให้   ต้องทายให้หนักไปทางร้าย

      เดือนมกราคม   วันที่ 1 19 27 31 เป็นความฝันที่จะนำความพอใจมาให้   ต้องทายให้หนักไปในทางดี   วันที่ 13 23 ต้องทายตรงกันข้าม

      เดือนกุมภาพันธ์   วันที่ 7 8 18 เป็นความฝันที่ดีที่สุด   วันที่ 1 10 17 22 ไม่มีความหมายอะไรเลย

      เดือนมีนาคม   วันที่ 3 9 12 14 อย่าบอกให้ใครทราบ   วันที่ 13 19 23 28 ให้ระวังตัว     

คัดจากหนังสือ “จิตตานุภาพ พุทธานุภาพ ความฝัน” โดยหลวงวิจิตนวาทการ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.forlayman.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=419812
ขอบคุณภาพจาก http://www.horolive.com/,http://www.chongter.com/,http://forums.212cafe.com/,http://uc.exteenblog.com/

[raponsan]

ความรู้เรื่องความฝันตามตำราโบราณ

ต้นเหตุของความฝัน
     คัมภีร์โบราณได้อธิบายว่า มีมูลเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เกิดเป้นความฝันขึ้นมา มูลเหตุของความฝันนั้นเกิดขึ้นได้ดังนี้

     ความฝันเกิด เพราะธาตุไม่ปกติ(ธาตุพิการ) ความฝันแบบนี้เป็นเพราะกายไม่ปกติ ใจไม่ปกติ กายใจของผู้ฝันจึงมีอันเกิดขึ้นมา ซึ่งโดยมากเป็นความฝันร้าย เป็นฝันไม่ค่อยดีเท่าไร จะทำให้เป็นทุกข์ เกิดความกังวล

     ความฝันเกิด เพราะมีอารมณ์จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความฝันอย่างนี้เป็นเพราะอารมณ์จิตใจของผู้ฝันได้ผูกพัน กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างมากตลอดเวลา เมื่อหลับไปก็เกิดความฝันในสิ่งนั้น ในเรื่องนั้น ที่ผู้ฝันฝักใฝ่อยู่ หรือได้พบเห็นแล้วจดจำโดยไม่มีวันลืม

     ความฝันเกิด ขึ้นเพราะเทวดาบันดาล ความฝันเช่นนี้เป็นเพราะเทวดาผู้ปกปักรักษาคุ้มครองธรรมะ ได้ดลบันดาลให้ผู้ฝันเกิดความฝันไป เพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้ายเรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือนผู้ฝันให้ระวังภัยและป้องกัน

     ความฝันเกิดขึ้น เพราะอำนาจจิตของผู้ฝันเอง ซึ่งจะเป็นกุศลจิต หรืออกุศลจิตก็ตาม เพื่อบอกเหตุดี หรือเหตุร้ายล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นในกาลข้างหน้า

วันของความฝัน
   ฝันวันอาทิตย์ ท่านฝันคืนวันอาทิตย์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับคนอื่นๆ
   ฝันวันจันทร์ ท่านฝันคืนวัน จันทร์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับญาติหรือเพื่อนฝูงของท่าน
   ฝันวันอังคาร ท่านฝันคืนวันอังคาร ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับพ่อแม่พี่น้องของท่าน
   ฝันวันพุธ ท่านฝันคืนวันพุธ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับ บุตรและภรรยาหรือสามีของท่าน
   ฝันวันพฤหัสบดี ท่านฝันคืนวันพฤหัสบดี ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับ ครู อาจารย์ หรือผู้ที่ให้ความเคารพ
   ฝันวันศุกร์ ท่านฝันคืนวันศุกร์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับสัตว์เลี้ยงของท่าน
   ฝันวันเสาร์ ท่านฝันคืนวันเสาร์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับตัวท่านเอง

เวลาที่ท่านฝัน
   ฝันเวลาหัวคํ่า หรือเวลาสองยาม เป็นฝันที่ไม่อาจเป็นจริงไปได้ เพราะว่าท้องใส้ไม่ปกติ ทำให้ความฝันวุ่น จิตใจวุ่น แต่ถ้าหลับสนิทบางทีก็จริง
   ฝันเวลายามสี่ เป็นความฝันที่เป็นจริง ตามที่ท่านฝันดีหรือฝันร้าย (ถ้าท่านฝันร้ายก็ขอให้แก้ฝันกับแม่พระคงคา คือสระผม อาบนํ้า ล้างหน้าทันทีที่ท่านตื่นนอน ฝันร้ายก็จะกลายเป็นดี และถ้าเป้นฝันดีก็จะมีโชคลาภเป็นอันมาก)
  ฝันเวลากลางวัน ไม่จำเป็นต้องเชื่อฝันกลางวัน(ความฝันที่นิยมถือเป็นความจริงได้ ต้องฝันเวลากลางคืนไม่มีแสงอาทิตย์) อนึ่งลาภ ลาภ เป็นของมีค่าหรือเงินทองที่ได้มาโดยไม่คาดฝัน หรืดค้าขายได้กำไรมากมายอย่างไม่นึกฝัน โชค หมายถึงคราวหรือจังหวะ ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของผู้นั้นเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าได้ระมัดระวังตัวดี แล้วก็จะดีได้

ที่มา http://astro.meemodel.com/dreammain.php
ขอบคุณภาพจาก http://www.vcharkarn.com/

[raponsan]

เมื่อคืนก่อน (ซึ่งเป็นวันพระ) ป้อมฝันแปลกๆ(ไม่เคยฝันแบบนี้มาก่อน)ป้อมฝันเห็นสระบัว มีดอกบัวแดงเต็มสระ แต่ละดอกใหญ่มากๆใหญ่เท่าต้นไม้สูง และมีดอกบัวอยู่ดอกหนึ่งที่อยู่กลางสระ และดอกใหญ่ที่สุดในสระ ดอกสูง สุดลูกหูลูกตา และป้อมก็ปีนดอกบัวดอกนั้น และก็ตื่น ใครทราบรบกวนช่วยทำนายฝันให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ

ความฝันของคุณ คุณฝันว่า...
เห็นดอกบัวหรือถือดอกบัว

คำทำนาย
จะได้ลาภเป็นเงินทองหรือสิ่งของ

       

เลขโชคประจำความฝัน
71 41 617 514 657

คำทำนายนี้มาจากเว็บ http://www.mahamodo.com/tamnai/dream_view.asp?id=762&find=%B4%CD%A1%BA%D1%C7
ขอบคุณภาพจาก http://www.dailynews.co.th/

[raponsan]

ฝันแปลกดีเนอะ ถ้าเป็นผู้ภาวนาก็จัดว่า ฝันดี

  การได้ปีนดอกบัว นี่ หมายถึง กำลัง จิต กำแสวงหา เครื่องพ้นทุกข์ แต่ยังอยู่ระหว่างการปีนนี้ อาจจะตกได้นะจ๊ะ ดังนั้น ก็ บอกว่าเป็นนิมิตที่ดี มาก ๆ แล้วปฏิบัติภาวนาอะไรอยู่ กัน จ๊ะ

 

   ขอบคุณมากครับ..คุณสุนีย์..ที่ใส่ใจในกระทู้นี้ คงต้องสอบถาม"สัมมาอาชีวะ"ของคุณสุนีย์สักนิด
   เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า เว็บนี้หาคนตอบกระทู้ยาก ส่วนใหญ่ชอบอ่าน(แอบอ่าน)
   อยากให้คุณสุนียช่วยตอบกระทู้บ้าง เท่าที่จะทำได้
   หากไม่สะดวกที่จะเปิดเผย เชิญหลังไมค์เลยครับ(คลิกที่ข้อความส่วนตัวที่อยู่ด้านบน)
   

[นิรตา ป้อมนาวิน]

ขอบคุณ ทุกท่านที่ตอบกระทู้นะค่ะ