พิมพ์

[raponsan]

ไทย-ลาวร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์แห่ "พระอุปคุต"

ชาวไทย-ลาว ร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์แห่พระอุปคุต เปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม เชื่อเสมือนเชิญพระสาวกของพระพุทธเจ้า มาประดิษฐานภายในวัดพระธาตุพนมฯ เพื่อคุ้มครองปกป้องภยันตรายต่างๆ ...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ม.ค. บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พร้อมด้วย นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ข้าราชการ พี่น้องประชาชน ทั้งชาวไทย และลาว รวมถึงนักท่องเที่ยว ร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ แห่พระอุปคุต เปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ประจำปี 2555 ซึ่งถือเป็นประเพณีอันสำคัญของพี่น้องชาวจังหวัดนครพนม ที่จัดขึ้นในช่วงวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี

โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2555 รวม 9 วัน 9 คืน และก่อนการเปิดงานนมัสการพระธาตุพนมทุกปี จะต้องมีการประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์สำคัญตามความเชื่อ เป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ คือ การแห่พระอุปคุต ซึ่งจากตำนานถือเป็นพระอรหันต์ผู้มีอิทธิฤทธิ์ เป็นผู้ดูแลคุ้มครองพระพุทธศานา เสมือนพระสาวกของพระพุทธเจ้า เพื่ออัญเชิญมาประดิษฐานไว้ภายในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร คุ้มครองปกป้องภยันตรายต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้น

จนกว่างานจะสำเร็จเรียบร้อยเป็นไปด้วยดี ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ในโอกาสนี้ได้มี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลโท ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาค 2 และคณะ เดินทางไปร่วมทำบุญในการเปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนมด้วย

สำหรับองค์พระธาตุพนม ถือเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมายาวนาน อายุเก่าแก่ราวกว่า 2,000 ปี ภายในได้มีการบรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอก ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และคนที่เกิดปีวอก ซึ่งงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ถือเป็นประเพณีสำคัญสืบทอดมาแต่สมัยโบราณ

โดยบรรดาชาวพุทธในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและในประเทศลาว เชื่อถือสืบๆ กันมาว่า ถ้าใครมีโอกาสเดินทางไปไหว้พระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์ ถวายเครื่องสักการบูชาหน้าองค์พระธาตุพนม จิตใจจะสงบเยือกเย็นอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง ถ้ายังไม่บรรลุนิพพานในชาตินี้ เมื่อตายแล้ววิญญาณก็จะได้ไปสู่สวรรค์ ชาวพุทธในถิ่นนี้ถือกันว่าองค์พระธาตุพนม ไม่เพียงแต่จะเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

แต่ยังเป็นสถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ ได้ทรงเสด็จมาประทับแรมอยู่หนึ่งราตรี อีกด้วย ทำให้ทุกปีในวันงานจะมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศของไทยและชาวลาว ต่างเดินทางกันมาร่วมพิธีกรรมมากมาย กว่า 100,000 คน พร้อมมีการจัดมหรสพสมโภชคึกคักสนุกสนานจัดเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน.


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/234886