ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 2,600 ปี...ธรรมปาฏิโมกข์ ร่วมสร้าง..อรหันต์ 1,250 องค์  (อ่าน 1996 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29302
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พระอรหันต์ 1,250 องค์.


2,600 ปี...ธรรมปาฏิโมกข์ ร่วมสร้าง..อรหันต์ 1,250 องค์

มาฆปุรณมีบูชา.....หรือ มาฆบูชา คือการ บูชาในวันเพ็ญเดือน 3 (ในปีอธิกมาส เลื่อนไปอีกเดือน คือเดือน 4)...

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งแผ่นดินรัตนโกสินทร์ ได้รำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในสมัยพุทธกาล ทรง สถาปนาวันมาฆบูชา ขึ้น โดยโปรดให้จัดกิจกรรมทำบุญและเวียนเทียน ซึ่งได้สืบสานเป็นพุทธประเพณีมานานถึง 152 ปี

เมื่อ....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ถึง อมตธรรม อันเป็น ศาสตร์ที่เข้าถึงความสว่างชี้ทางให้หลุดพ้นห้วงกิเลส จึงได้ดำรัสสั่งสาวก 60 รูปให้ออกประกาศธรรม เป็นการแรกเริ่มเผยแผ่ศาสนา.......ดั่งปรากฏใน พระบาลีมหาวรรค ว่า

“.......พวกเธอจงเที่ยวไปเพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก อนุเคราะห์คนหมู่มากเพื่อประโยชน์แก่สัตว์และมนุษย์ทั้งหลาย แต่อย่าไปทางเดียวกันถึงสององค์ จงไปองค์เดียวหลายๆทาง นำธรรมอันดี ในเบื้องต้นท่ามกลางที่สุด บุคคลทั้งหลาย ผู้มีธุลีน้อยเป็นปกติยังมีอยู่ แต่ได้เสื่อมจากธรรมเพราะไม่ได้ฟังธรรม จงประกาศพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์บริบูรณ์ พร้อมทั้งอรรถพยัญชนะ...”

แล้ว.....พระอรหันต์เหล่านั้นก็ออกประกาศธรรมเผยแผ่ศาสนาไปทั่วชมพูทวีป ส่วนพระพุทธ-องค์ก็มุ่งสู่อุรุเวลาเสนานิคมเพื่อแสดงธรรม.....เช่นกัน

9 เดือนหลังจากพระพุทธองค์ตรัสรู้ พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ วันนั้น (เพ็ญเดือน 3) พระอรหันต์ 1,250 รูป (รวมทั้ง 60 รูปที่ออกเผยแผ่ศาสนา) อันเป็น เอหิภิกขุ (อุปสมบทจากพระพุทธองค์) ได้เดินทางมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ เวฬุวันมหาวิหาร ในกรุงราชคฤห์ ซึ่งถือว่าเป็น วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา

ในอดีต....กับการที่จะให้มวลมนุษย์ 1,250คน มิได้อยู่ชิดใกล้ ให้ได้รับข่าวสารการนัดแนะ เพื่อประกอบกิจร่วมกันนั้นยากนัก ด้วยสมัยพุทธกาลการสื่อสารโทรคมนาคมยังไม่เจริญ การนัดหมายติดต่อถึงกันบนโลกที่จะยิ่งยวดเหมือนยุคปัจจุบันจึงหมดโอกาส


พระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาฏิโมกข์.

หรือ.....แม้แต่จะแจ้งข่าวด้วยจดหมายลายลักษณ์อักษรไปแก่พระอรหันต์ทั้งหลายที่กระจายกระจัดทั้งปวงก็เช่นกัน แต่ทำไมพระอรหันต์ทุกองค์ต่างมาพร้อมกันได้....เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์

...ด้วยอภิญญาแห่งพระพุทธองค์ที่สื่อสารด้วยโทรจิต จิตตรึกนึกถึงพระผู้เป็นสาวกผ่านญาณทัสสนะไปจดฌาณของพระอรหันต์ทุกองค์ ให้รำลึกถึงภาพพระพุทธประสงค์ไปปรากฏทำให้ได้รับสารพร้อมกัน ทำให้สาวกทั้ง 1,250 องค์ไม่ว่าจะอยู่ในทางทิศใดหรือว่าไกลกันเพียงไหนก็ตาม  ได้รับรู้และมาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยอภิญญาพลังแห่งอานุภาพ

นี่คือ.....ความมหัศจรรย์ล้ำลึกของพุทธศาสตร์ ซึ่งเจริญ ก้าวหน้าเกินกว่าเทคโนโลยีที่ทางโลกจะก้าวทัน....ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปกี่พันกี่หมื่นปีก็ตาม...!!!

ยามนั้น...เวฬุวันมหาวิหารงดงามอย่างมหัศจรรย์ในกาล “ศิวาราตรี” (ใกล้สิ้นแสงตะวันพระจันทร์เพ็ญก็ทอแสงกระจ่างฟ้ารับช่วง โลกสว่างไสวไม่มีกลางวัน ไม่มีกลางคืน) ให้เป็นที่ประจักษ์เป็นนิมิตหมายว่า......ธรรมได้สาดส่องกลางใจ ขับความมืดมิดแห่งอวิชชาให้พ้นจากกระแสโลก

แล้ว....พระพุทธองค์จึงได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ อันประกอบด้วยจุดหมาย (สูงสุดของพระพุทธศาสนาคือ นิพพาน หลักการ 3 ข้อคือ ไม่ทำความชั่ว ก่อกุศล ชำระ


จิตให้ผ่องใส) และวิธีการคือ มุ่งมั่นในความเพียร อดทน อดกลั้น ไม่ว่าร้าย ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ทั้งกาย วาจา ใจ...ฯลฯ


พระราชพิพัฒน์โกศล.

บทแห่ง ธรรมปาติโมกข์ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงต่อมหาสันนิบาตสาวกครั้งนั้น เป็นการวางรากฐานความมั่นคงให้เกิดขึ้นแก่พระพุทธศาสนา ซักซ้อมการเผยแผ่เพื่อให้พระอรหันต์ทั้ง 1,250 องค์ (เพราะในช่วงต้นพุทธกาล ในการเผยแผ่อาจมีความแตกต่างกันออกไป) ได้เข้าใจตรงกัน......

.....อันเปรียบเสมือนธรรมนูญแห่งพระพุทธศาสนา ให้ชาวพุทธทั้งหลายได้ยึดถือเป็นแม่บทสำหรับการปฏิบัติ เพื่อเป็นแนวทางในการพ้นทุกข์  และเป็นแบบฉบับในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา...จะได้ เกื้อกูลประโยชน์สูงสุดแก่ชาวโลก

จากอดีตอันไกลโพ้นกระทั่งถึงปัจจุบัน......

นับเวลาถึง 26 ศตวรรษ (พระพุทธศาสนาเริ่มนับหลังจากองค์พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพาน และบวกเวลาย้อนหลังที่พระองค์ทรงตรัสรู้ไปอีก 45 ปี ก็เท่ากับ 2555 + 45 จึงเป็น 2,600 ปี

พระราชพิพัฒน์โกศล (หลวงพ่อเณร) เจ้าอาวาสวัด ศรีสุดารามวรวิหาร แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. ได้มีความ มุ่งมั่นในการสืบสานพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป จึงนำเอาประวัติแห่งพุทธศาสตร์ในช่วงคาบเวลาการวางธรรมนูญพระพุทธศาสนามาบันทึกเป็นอนุสรณ์สถานในรูปของประติมากรรม ณ ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก โดยให้ชื่อว่า....พุทธอุทยานสัมพุทธ-ชยันตี 2,600 ปี


บริเวณสร้างพุทธอุทยานฯ กำลังสร้างฐานพระพุทธโอวาทปาฏิโมกข์ ท่ามกลางขุนเขา นครนายก.

ศาสนสถาน....พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ท่าม กลางพระอรหันต์ 1,250 องค์นี้ถือว่าเป็น การสร้าง ครั้งแรกของโลก.....เพราะไม่มีประเทศใดจัดสร้างมาก่อน...!!!

โดย.....ความเชื่อของพุทธศาสนิกชน ที่สืบสานกันมาอย่างยาวนานว่า บิดามารดาคือพระอรหันต์ของลูกๆ เนื่องจากคุณธรรม จริยธรรมของพระอรหันต์มีความปรารถนาดีต่อมวลมนุษย์ทุกประการเช่นใด ก็เฉกเช่นคุณธรรม จริยธรรมของบิดามารดาที่มีต่อลูกๆเฉกนั้น ไม่ว่าจะเป็นความ ปรารถนาดี สร้างสรรค์ สั่งสอน ส่งเสีย ส่งเสริม เพื่อให้ลูกเกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต....การทำบุญต่อบิดามารดาจึงเทียมเท่าต่ออรหันต์และการทำบุญต่ออรหันต์ก็เท่าเทียมบิดามารดา

มหากุศล ในครั้งนี้....นอกจากจะเปิดโอกาสให้ได้ร่วมศรัทธาสร้างองค์พระพุทธรูปแล้ว ด้วยอานิสงส์แห่งบุญบารมี ในวาระ 2,600 ปี แห่งปาฏิโมกข์ จึงเปิดโอกาสให้ได้ร่วมแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อคุณบิดามารดาด้วยการร่วมสร้างพระอรหันต์ .....มากหรือน้อย นั่นก็แล้วแต่พลังศรัทธา...!!



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/column/life/badal/235877
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ