ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บูรณะ ลุมพินีสถาน สถานที่ประสูติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า  (อ่าน 1841 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 29304
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

สภาพหลังการบูรณะ


บูรณะ ลุมพินีสถาน สถานที่ประสูติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

1 ในสังเวชนียสถานที่สำคัญ นั่นก็คือ สถานที่ประสูติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า อยู่ในเขตประเทศเนปาล แต่ได้ถูกทอดทิ้งมิได้รับการบูรณะ จนขณะนี้ ได้บูรณะผ่านพ้นไปแล้ว 2 เฟส และในปีนี้ การบูรณะเพิ่มเติม เฟสที่ 3 จึงใคร่อยากเรียนเชิญ พุทธศาสนิกชน ร่วมบุญสมโภชแผ่นทอง...

สภาพก่อนการบูรณะ ขณะที่ทางเดินยากลำบาก


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เมื่อครั้งได้เดินทางไปสักการะ สถานที่ประสูติฯ ได้เห็นถึงความยากลำบาก


1 ในสังเวชนียสถานที่สำคัญ นั่นก็คือ สถานที่ประสูติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง ซึ่งพระองค์ได้ประสูติ ณ ลุมพินีสถาน  ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศเนปาล จากอดีตที่มีการศึกษา เมื่อหลายพันปีมาแล้ว หลังจาก พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้บูรณะลุมพินีสถาน ครั้งแรก ได้มีการชี้จุดกำหนดว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงประสูติขึ้น และได้ตั้ง เสาอโศกมหาราช ปักไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวพุทธ ให้ได้รับรู้กันทั่วโลก

จากนั้นเป็นต้นมาสถานที่แห่งนี้จึงได้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด  ตลอดนานนับหลายปีที่สถานที่แห่งนี้ ได้ถูกทอดทิ้ง มิได้รับการบูรณะ อาจเป็นเพราะว่า ชุมชนของคนในละแวกนี้ มิได้นับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก นั่นก็คงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง แต่อีกเหตุผลส่วนหนึ่งน่าจะมาจากภูมิประเทศที่ห่างไกลความเจริญและผู้คน อีกทั้งยังยากลำบากในการเดินทางไปถึง

จนถึงปี พ.ศ. 2513 ฯพณฯ อูถั่น ซึ่งในขณะนั้นเป็นเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ซึ่งเป็นชาวพุทธ ได้เป็นผู้เข้ามาบูรณะ ลุมพินีสถาน เป็นครั้งที่ 2 แต่โครงการก็มิได้ลุล่วงไปได้อย่างที่สุด อาจจะมาจากปัจจัยต่างๆดังที่กล่าวมาแล้ว


ที่นั่งปฏิบัติธรรม ไม่สะดวก


สร้างทางเดินโดยรอบ


จนเมื่อปี พ.ศ. 2553 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ได้มีโอกาสเดินทางไปนมัสการยังสถานที่ประสูติแห่งนี้ และขณะที่เดินทางไปนั้น ได้เห็นถึงความยากลำบาก พื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำและโคลน ระบบสาธารณสุข ที่แทบจะหาไม่ได้ ห้องน้ำก็ไม่มีไว้คอยบริการผู้คน ถนนหนทางก็แสนยากลำบาก แม้จะนั่งปฏิบัติธรรมยังไม่มีพื้นที่

คุณหญิงฯเอง เลยมีดำริตั้งจิตอธิษฐาน อยากเป็นสะพานบุญครั้งใหญ่ ให้คนไทยร่วมบุญในการบูรณะ ลุมพินี สถานที่ประสูติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นเองจึงเกิดเป็นโครงการ บูรณปฏิสังขรณ์ สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าในปีถัดมา

นั่นคือปี 2554 และ ขณะนี้ ได้บูรณะผ่านพ้นไปแล้ว 2 เฟส และในปีนี้ การบูรณะเพิ่มเติม เฟสที่ 3 ซึ่งจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การจัดสร้างถนนเข้าสู่สวนอันศักดิ์สิทธิ์ บริเวณจุดที่พระพุทธเจ้าประสูติ ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ศาลาอเนกประสงค์ ห้องน้ำ เพื่อบริการแก่พุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาสักการะจากทั่วโลก

รวมไปถึง การจัดสร้างพระพุทธรูป ปางประสูติ “พระพุทธเจ้าน้อย” เพื่อนำไปประดิษฐานเป็นสัญลักษณ์แห่งการบูรณะลุมพินี ในครั้งนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งจะต้องใช้เงินอีกมากมายหลายสิบล้านบาท

แต่นั่นคงไม่ใช่หมายความว่าเป็นเงินจำนวนมากมายมหาศาล แต่เพียงเพราะ คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ต้องการเป็นสะพานบุญให้คนไทยได้มีส่วนร่วม ในการบูรณะใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งในการบูรณะครั้งนี้ ได้มีการลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการ และถือได้ว่าเป็นการมอบสิทธิ์ จาก UNESCO ให้พวกเราชาวไทย ได้มีสิทธิในการบูรณปฏิสังขรณ์ได้อย่างถูกต้องตามหลักการ


ลานอเนกประสงค์ สำหรับใช้ ปฏิบัติธรรม


สำหรับพิธีที่ ลุมพินี ประเทศเนปาล ในค่ำวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา มีการนำแผ่นทองที่มีจำนวนมากถึง 600,000 แผ่น น้ำหนักมากมายหลายกิโลกรัม โดยนำไปจากประเทศไทย เพื่อนำไปเข้าพิธีสมโภช อย่างถูกต้อง โดยพระเกจิชื่อดังจากเมืองไทย และอีกหลายๆ ประเทศ นับร้อยรูป ก่อนนำกลับมาเข้าพิธีสมโภชอีกครั้งในวันที่ 18 มีนาคมที่จะถึงนี้ ในเวลา 15.59 น. ที่วัดสระเกศ (ภูเขาทอง)

จึงใคร่อยากเรียนเชิญ พุทธศาสนิกชน ร่วมบุญสมโภชแผ่นทองในครั้งนี้ โดยสามารถไปจับจองร่วมพิธีได้ ก่อนเวลาที่กำหนด และหลังจากสมโภชเสร็จ ท่านสามารถบูชา แผ่นทองในราคา 99 บาท เพื่อร่วมบุญในการบูรณะในครั้งนี้ และ ยังสามารถตัดส่วนหนึ่งของแผ่นทองนี้ นำกลับมาให้ทางคณะผู้จัดงาน ได้นำไปหลอมรวม เป็น พระพุทธรูปปางประสูติ เพื่อจะนำไปประดิษฐาน ยังลุมพินี ประเทศเนปาล บริเวณทางเข้าอีกด้วย

อีกทั้งยังถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนพรรษา 84 พรรษา ในปี พ.ศ. 2554 และ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพรชนมพรรษา 80 พรรษา ในปี พ.ศ. 2555

สำหรับท่านใด ที่ไม่ได้ไปร่วมสมโภชในครั้งนี้ก็สามารถร่วมบุญได้ ณ ร้าน 7 Eleven ทุกสาขา และ ไปรษณีย์ไทย ทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ 12 เมษายน มาร่วมบุญครั้งยิ่งใหญ่นี้ด้วยกันนะครับ คงเป็นครั้งเดียว ที่ UNESCO อนุญาตให้พวกเราชาวไทย ได้บูรณะ และยังถือเป็นการช่วยทำนุบำรุง ให้พระพุทธศาสนา ยั่งยืนตลอดไป

เรื่องโดย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/life/244080
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ