ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 5 วิธีการที่ควบคุมระบบการเงิน ให้อยู่ดี เท่าที่จะทำได้น่าตะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ใ  (อ่าน 2101 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มาในช่วงเศรษกิจ ที่มีค่าครองชีพ ขยับตามฐานเงินเดือนบางกลุ่ม ยังมีกลุ่มที่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือน แต่ก็เดือดร้อนทันที แพนด้า ก็เดือดร้อนเพราะค่าครองชีพถีบตัวขึ้นมากระทันหัน ในขณะที่รายได้ของเราไม่ได้เพิ่มเลย ที่เห็น น้ำแข็งจากแก้วละ 1 บาท กลายเป็น 2 บาท น้ำแข็งถุง 5 บาทเป็น 6 บาท อันนี้แบบย่อย ๆ ที่ใหญ่ ๆ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่ารถ ค่าอาหาร ที่ถึบตัวทันทีขึ้นมา อย่างกระทันหัน

จะโวยวายกับใคร ก็คงไม่ได้แล้ว เพราะใครจะเห็นใจเรา ก็ไม่ได้ลดราคาอะไรลง


ดังนั้น 5 วิธีการที่ควบคุมระบบการเงิน ให้อยู่ดี เท่าที่จะทำได้น่าตะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในขณะนี้



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

หลังจากแต่งงานแล้ว ความรักของคุณก็จะต้องพบกับความรับผิดชอบที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะคุณไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไป คุณยังต้องดูแลครอบครัวของคุณด้วย ฉะนั้น การใช้จ่ายของคุณจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ และส่งผลกระทบต่อพวกเขาโดยตรง จนทำให้ความเครียดจากปัญหาเรื่องเงิน กลายมาเป็นเรื่องที่ทำให้สามีภรรยาหลาย ๆ คู่ เกิดผิดใจจนถึงขั้นหย่าร้างกันไปได้

ดังนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมวิธีแก้ปัญหาเรื่องการเงินในครอบครัวมาฝากกัน เพื่อให้คุณได้มีความสุขกับการใช้ชีวิตคู่มากขึ้น โดยไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับเรื่องเงินอีก ส่วนจะมีวิธีการอย่างไรบ้างนั้น ลองไปอ่านกันดูเลยค่ะ

1. รายได้น้อยนิด

สามีภรรยาหลาย ๆ คู่มักจะกดดันกันและกัน ในเวลาที่ไม่สามารถหารายได้มากพอจะมาใช้ดูแลครอบครัว อย่างไรก็ตาม การโทษกันไปมาก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น มีแต่จะทำให้เครียดมากขึ้นเสียเปล่า ๆ เพราะฉะนั้น ควรพยายามส่งเสริมให้กำลังใจกันและกัน ด้วยการสนับสนุนให้ทำในสิ่งที่รักจะดีกว่า นอกจากนี้ ไม่ควรเอาเรื่องการเงินของครอบครัวคุณไปเปรียบเทียบกับครอบครัวอื่นเด็ดขาด จะเป็นการบั่นทอนกำลังใจกันและกันเสียมากกว่า

2. ใช้จ่ายมากเกินตัว

คุณควรจำกัดรายจ่ายของครอบครัวเอาไว้ จะได้มีเงินเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินบ้าง อย่าลืมว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ นอกจากนี้ สามีของคุณคงไม่พอใจหรอก หากเงินเดือนที่เขาหามาอย่างยากลำบาก ต้องหมดไปกับการช้อปปิ้งอย่างบ้าระห่ำในเวลาสั้น ๆ ของคุณ ดังนั้น คุณจึงควรตกลงกันให้ดี ว่าสามารถใช้จ่ายได้มากที่สุดประมาณเท่าไหร่ต่อเดือน เพื่อให้มีเงินเก็บเหลือไว้ใช้กันบ้าง

3. หนี้สินท่วมหัว

การใช้ชีวิตคู่ท่ามกลางหนี้สินมากมาย ย่อมทำให้เกิดความเครียดเป็นธรรมดา เพราะอาจนำมาสู่การฟ้องร้องและสูญเสียทรัพย์สินทีมีอยู่ได้ ดังนั้น คุณจึงควรหลีกเลี่ยงปัญหานี้เสียแต่แรก ด้วยการกำหนดวงเงินในการใช้บัตรเครดิตให้น้อยที่สุด และจำกัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน รวมทั้งปรึกษากันให้ดีก่อนจะตัดสินใจกู้เงินหรือทำสัญญาซื้อบ้าน

4. ใครจะเป็นคนจ่ายในส่วนไหน

หากคุณทั้งคู่ต่างก็ทำงานหารายได้ให้กับครอบครัว ควรปรึกษากันให้ดีว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบรายจ่ายในส่วนไหน ทั้งนี้ ผู้ที่มีรายรับมากกว่า ควรจะเป็นผู้รับผิดชอบรายจ่ายส่วนที่มากกว่า เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาเงินไม่พอจ่ายในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ต้องมั่นใจว่าตกลงกันได้ด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย เพื่อจะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกันในภายหลัง

5. ซื่อสัตย์ต่อกัน

สามีภรรยาหลาย ๆ คู่มักพยายามปกปิดเรื่องเงินจากกันและกัน ด้วยการซ่อนสมุดบัญชีเงินฝาก และโกหกเรื่องเงินเก็บในบัญชี เพื่อเหตุผลหลาย ๆ อย่าง เช่น เพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อว่าตัวเองเหลือเงินเก็บน้อยและออกตัวจ่ายแทน หรือเพื่อปิดบังไม่ให้โดนกล่าวโทษ หลังจากใช้จ่ายเกินตัวจนเงินเก็บในบัญชีเหลือน้อยนิด อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนี้ จะทำให้ชีวิตคู่ของคุณมีปัญหา ขาดความไว้ใจซึ่งกันและกัน จนทำให้เขาไม่สามารถเชื่อใจคุณในเรื่องใด ๆ ได้อีก แม้แต่เรื่องอื่นที่นอกเหนือจากเรื่องเงิน

อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องเงินแล้ว ชีวิตหลังแต่งงานยังต้องพบเจอปัญหาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเลี้ยงดูลูก การแบ่งเวลาให้กันและกัน ดังนั้น ควรเติมความหวานให้ชีวิตคู่ของคุณในทุก ๆ วันเพื่อไม่ให้รักจืดจางลงไปนะคะ
บันทึกการเข้า