ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กองทุน "สาธยายพระไตรปิฎก"...อานิสงส์นี้ยิ่งใหญ่นัก  (อ่าน 5203 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29302
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

การสาธยายพระไตรปิฎก
เปรียบเสมือนได้เข้าเฝ้า ต่อหน้าพระพักตร์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า “ ธรรมและวินัยที่ตถาคตตรัสไว้ดีแล้วธรรมเหล่านั้นจะเป็นศาสดาของพวกเธอ” พระไตรปิฎกภาษาบาลี ๒๕๓๘ เล่มที่๑๐ ข้อ๑๔๑ ภาษาไทย ๒๕๑๔ ข้อ๑๔๑

รศ.๑๑๒(พ.ศ.๒๔๓๖)พระไตปิฎกซึ่งมีคุณค่าสูงยิ่ง ชุดหายากพิมพ์ครั้งแรกของโลก สมัยรัชกาลที่ ๕ ส่งไปทั่วโลก ๒๖๐ สถาบันด้วยอานิสงส์ เราสามารถคงความเป็นเอกราชหลุดพ้นจากอำนาจยึดครองอธิปไตยจากจักรวรรดินิยมตะวันตกในเวลานั้นได้





ความเป็นมาของกองทุนสาธยายพระไตรปิฎก

    กองทุนสาธยายพระไตรปิฎก ถูกจัดตั้งโดย พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ ได้เอาแบบมาจากการสาธยายพระไตรปิฎกที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในไทยเมื่อปี ๒๕๔๙ ครั้งนั้นได้รับพระราชทานเทียนจากในหลวง

      ครั้งที่สำคัญที่ผ่านมาคือ การสาธยายพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๕๕ และที่สำคัญอีกที่คือ

      การสาธยายพระไตรปิฎก ฉลองพุทธชยันตี เนื่องในวโรการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมีพระชนมายุ ๘๕ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตฯ ๘๐ พรรษา สมเด็จพระบรมโอสาธิราชฯ ๖๐ พรรษาและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ๕๘ พรรษา ฉลองพุทธชยันชตี ที่สนามหลวง ในวันที่ ๒๙-๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๕
      สิ่งที่เป็นที่ปราบปลื้มของพสกนิกรชาวไทยก็คือ สมเด็จพระราชินีฯและสมเด็จพระเทพฯได้ร่วมสาธยายพระไตรปิฎกในครั้งนี้ด้วย

 
      ในปัจจุบันได้มีผู้ใจบุญบริจาคที่ดิน ที่อำเภอไทรน้อย นนทบุรี ให้พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ เพื่อจัดสร้างอาคารถาวร เพื่อการสาธยายพระไตรปิฎก
      แต่การโอนที่ดินต้องเสียภาษีเป็นล้าน การจัดสร้างสิ่งปลูกสร้างต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก

    จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบุญ สามารถบริจาคได้ที่
     ธนาคารทหารไทย สาขาบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
     ชื่อบัญชี : กองทุนสาธยายพระไตรปิฎก
     เลขที่บัญชี : 113-2-13961-7


     ติดต่อสอบถามได้ที่ พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ ผศ.ดร.D.Litt
     www.narongsak.org โทร. ๐๘๙-๙๖๓-๔๕๐๕
     หรืออีเมล์ narongsak@narongsak.org





อานิสงส์การสาธยายพระไตรปิฎก

๑.พระไตรปิฎกเป็นตาวิเศษอันยิ่งบุคคลใดสาธยายพระไตรปิฎกแล้ว สามารถที่จะรู้ได้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ทำให้เป็นสัมมาทิฎฐิ นำไปสู่ความสำเร็จและเข้าถึงความเป็นอริยบุคคล คือตั้งแต่โสดาบัน สกทาคามี อนาคามีและอรหันต์เข้าสู่นิพพาน

๒.พระไตรปิฎกเป็นหูที่วิเศษอันยิ่งฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สอนให้บุคคลนั้นดำรงชีวิตด้วยความถูกต้อง ที่เป็นสัมมาทิฎฐิ อย่างน้อยไม่ทำบาปทำแต่กุศล ได้ฟังแต่สิ่งที่เป็นมงคล การพูดก็ดี สุขภาพจิตก็ดี มีจิตใจที่ผ่องใส เมื่อจิตใจผ่องใสความคิดก็ดีความจำก็ดีขึ้นมีสติไม่ทำให้เกิดอกุศลหน้าตาผ่องใสเป็นต้น

๓.พระไตรปิฎกเป็นจมูกที่วิเศษอันยิ่ง กลิ่นหอมที่ว่าหอมแม้จะลอยตามลมไปได้ ๑,๐๐๐ โยชน์ แต่ไม่สามารถที่จะทวนลมได้ แต่กลิ่นของความดี กุศลนั้นสามารถจะทวนลมและกระจายออกไปได้ทุกทิศ จะเป็นมีจมูกที่ได้กลิ่นของกุศลที่กระจอนไปทุกทิศ และไม่หลงติดอยู่กับกลิ่นหอมอย่างอื่น

๔.พระไตรปิฎกเป็นลิ้นที่วิเศษอันยิ่ง ลิ้นคนเราแม้จะจำรสต่าง ๆ ได้ ไม่ช้าก็ลืมมีความสุขชั่วคราวทำให้คนขาดสติ แต่ลิ้นที่ลิ้มรสของพระธรรมนั้น ไม่มีความอิ่มในรสของพระธรรม เมื่อคนเราได้รับลิ้มรสของพระธรรมแล้ว จะทำให้ร่างกายผ่องใสทั้งภายในและภายนอกและจะช่วยรักษาโรคได้ทุกชนิด

๕.พระไตรปิฎกเป็นกายที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายแล้วทำให้มีสภาพที่ผ่องใสทั้งภายในและภายนอก มีกายที่เบาไม่เชื่องช้าเลือดลมในตัวเราที่เรียกว่าธาตุ๔นั้นก็สมบูรณ์ทำให้มีอายุยิ่งยืนนานสามารถหายจากโรคที่เกิดแต่กรรมได้

๖.พระไตรปิฎก เป็นใจที่วิเศษอันยิ่ง ใจดี ใจผ่องใส ใจเป็นหัวหน้า เมื่อใจเบิกบาน จิตใจเป็นกุศลก็สามารถเข้าถึงความเป็น โสดาบันสกทาคามีอนาคามีและพระอรหันต์ในที่สุด





๗.พระไตรปิฎกเป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษอันยิ่ง สามารถที่จะสอนให้เรารู้ว่าอะไรเป็นกุศลอะไรเป็นอกุศล เมื่อรู้อย่างนี้แล้วสอนให้เรานำเอาหลักธรรมไปประพฤติปฏิบัติอันเป็นทางที่มีความสำเร็จในชีวิตนำทางไปเพื่อเข้าถึงพระนิพพาน

๘.พระไตรปิฎก เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษอันยิ่ง พ่อแม่ไม่ได้หวังค่าตอบแทนจากลูกฉันใด พระไตรปิฎกเป็นผู้ที่สอนให้เรารู้ทุกอย่างที่เรายังไม่เคยรู้ นำทางให้เราเข้าถึงความเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ แล้วแต่ทางดำเนินชีวิตอันทำให้ถึงจุดหมายปลายทางคือพระนิพพาน

๙.พระไตรปิฎกเป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายก็จะมีแต่มิตรนำทางไปสู่ที่ดีนำชีวิตไปสู่ความสุขทั้งตัวเอง ครอบครัวและสังคมที่ดีนำทางไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองทั้งในทุกสถานในกาลทุกเมื่อ

๑๐.สมัยพระพุทธเจ้าชื่อว่ากัสสปะ พระสงฆ์สาธยายอภิธรรมในถ้ำ ค้างคาว ๕๐๐ ตัวได้ฟังเมื่อถึงคราวตายแล้วไปจุติที่ชั้นดาวดึงส์ชาติสุดท้ายมาเกิดเป็นลูกศิษย์พระสารีบุตรและเป็นอรหันต์เป็นที่สุด

๑๑.การสาธยายพระไตรปิฎกที่ว่า “กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบันจะช่วยได้ จงจำไว้ กรรมที่ทำด้วยเจตนาไม่ว่าดีหรือชั่ว ย่อมมีผลต่อผู้กระทำทั้งสิ้น ไม่มีพรหมเทพองค์ใดจะช่วยลบล้างกรรมนั้นได้ เธอจงช่วยตนเอง ด้วยการสวดมนต์ ภาวนาแผ่เมตตาผลแห่งบุญอันเป็นกรรมปัจจุบันจะช่วยเธอได้”ตอนหนึ่งที่กล่าวกับนางโรหิณี

๑๒.การสาธยายหรือการสวดมนต์ ย่อมจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตของตนและประโยชน์แก่จิตอื่น และสามารถที่จะทำให้ผู้ที่สวดมนต์สาธยายมีความสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้

    มหากุศลบุญที่ยิ่งใหญ่อันพึงจะเกิดขึ้นในครั้งนี้



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
board.palungjit.com/f45/สาธยายพระไตรปิฎกตลอดปี-ฉลองพุทธชยันตี-336670.html
http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3272
http://www.spm18.go.th/index1.php?name=news&file=readnews&id=564
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=10&t=42763&view=unread
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

mitdee

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 67
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา กับข่าวสารงานบุญครั้งนี้ ครับ คงจะมีโอกาสได้ไปร่วมงานสาธยายพระไตรปิฏกบ้างสักครั้ง

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า