พิมพ์

[raponsan]

เชื่ออาถรรพ์ "ปราสาทช่างปี่" ทำคนตาย 33 ศพ ชาวบ้านแห่นำเครื่องเซ่นบวงสรวงขอขมา

นายยงยุทธ จิววุฒิพงศ์ นายก อบต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์  เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ถึงกรณีมีคนนำวัตถุโบราณที่ขุดพบจากตัวปราสาทช่างปี่ ติดมือไป จนเป็นสาเหตุให้มีชาวบ้านในพื้นที่เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุไปแล้วจำนวน 33 ราย  ส่วนใหญ่ด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ว่า   ตนเชื่อเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขององค์ปราสาทช่างปี่ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ 

ส่วนเหตุอาถรรพณ์ที่เกี่ยวข้องนั้น มิใช่มีเพียงที่มีเหตุไฟไหม้โรงเรียน ที่นำเอาหินปราสาทไปเท่านั้น  เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พื้นที่แห่งนี้ก็เกิดเหตุพายุใหญ่พัดถล่มบ้านเรือน ในเขตพื้นที่ตำบลช่างปี่กว่า10 หมู่บ้านจนเสียหายกว่าร้อยหลังคาเรือนมาแล้วโดยเฉพาะที่หมู่บ้านช่างปี่เสียหายมาก

ส่วนที่ชาวบ้านเห็นว่า เหตุอาถรรพ์ที่เกิดกับเจ้าหน้าที่ อบต.ช่างปี่ จำนวน 3 ราย ที่เสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน นายชัยณรงค์ ทองหล่อ  ผญบ.บ้านช่างปี่ กล่าวว่า อาจเป็นเพราะที่ตั้ง อบต.อยู่ติดกับปราสาทห่างกันเพียง 50 เมตร และพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของ อบต.ก็อยู่ในบริเวณปราสาทมาแต่ก่อน  บริเวณนั้นเป็นบารายหรือสระน้ำ ด้านทิศตะวันออกมีเขตแนวกั้นด้วยหินศิลาแลง และมีสระน้ำโบราณอยู่จริง 

ต่อมาทาง อบต.ได้มาถมที่เพื่อสร้างสำนักงาน อบต.ทับบารายหรือสระน้ำขององค์ปราสาท พอจะขุดแต่งองค์ปราสาท จึงมีเหตุประจวบเหมาะกันก็เป็นได้ แต่ตนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้  และที่สำคัญเมื่อเริ่มขุดแต่งองค์ปราสาท แล้วมีผู้คนล้มตายลงกลายเป็นเรื่องโจษขาน และหวาดกลัวแก่คนทั่วไป ชาวบ้านที่ยึดครองที่ดินติดกับตัวปราสาท ได้บริจาคที่ดินผืนนั้นคืนให้ทางวัด เพื่อเป็นเขตปราสาท กว่า 3 ไร่ และมีอีกหลายคนที่แสดงความประสงค์จะบริจาคเพิ่มให้

นายชัยณรงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนบารายอีกแห่งทางทิศตะวันตกติดเขตวัด ปัจจุบันยังมีสภาพหินเป็นแนวกั้นสระน้ำหลงเหลืออยู่ หากขุดแต่งใหม่ก็ทำได้  แต่ต้องรอการพุดคุยกับเจ้าของที่ดินที่ครอบครองอยู่เท่านั้น  ในขณะที่บริเวณปราสาท หลังการเสนอข่าวออกไปอย่างแพร่หลาย มีชาวบ้านจำนวนมากจากหลายหมู่บ้านทั้งในตำบลช่างปี่ และตำบลข้างเคียง ต่างเดินทางนำเครื่องเซ่นไหว้มาบวงสรวงเพื่อขอขมาต่อทวยเทพที่รักษาองค์ปราสาทอย่างไม่ขาดสาย

ทั้งนี้  ปราสาทช่างปี่  อดีตเป็น อโรคยศาล หรืออโรคยศาลา หรือโรงพยาบาล หนึ่งในจำนวน 102 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมโบราณ โปรดให้สร้างขึ้น ตั้งอยู่ที่บ้านช่างปี่ ตำบลช่างปี่ อำเภอศีขรภูมิ  จังหวัดสุรินทร์มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 18 มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยนผืนผ้า ก่อด้วยศิลาแลง และหินทราย

ตั้งแต่ปี 2553 กรมศิลปากร ได้ทำการบูรณะปราสาทช่างปี่ พบโบราณวัตถุจำนวนมาก  ไม่ว่าเป็นเทวรูปประธาน พระคเนศวร์ กลีบขนุนที่ยอดปราสาท ซึ่งมีความสมบูรณ์หลายชิ้น ส่วนหนึ่งนำไปเก็บรักษาไว้ (แต่ยังไม่ได้จัดแสดง: พฤษภาคม 2555) ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ อีกส่วนหนึ่งเก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านช่างปี่


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1345165220&grpid=&catid=19&subcatid=1906