« เมื่อ: ตุลาคม 31, 2012, 07:42:18 am »
0
ฮือฮา.! เงาดำโผล่น้ำโขง..ขณะทำพิธีบวงสรวงบั้งไฟ เชื่อเป็นพญานาค
ฮือฮา! เงาดำโผล่กลางน้ำโขงหลายจุด ขณะทำพิธีบวงสรวงบั้งไฟ ที่ จ.หนองคาย เชื่อเป็นการแสดงปาฏิหาริย์ของพญานาค ขณะที่นักท่องเที่ยวแห่จับจองพื้นที่ รอชมบั้งไฟพญานาคคืนนี้...
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 30 ต.ค.55 นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำพุทธศาสนิกชนชาวหนองคายทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 1,250 รูป ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเนื่องในวันออกพรรษา
หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวได้ทยอยเดินทางเข้าสู่พื้นที่อำเภอโพนพิสัยและอำเภอรัตนวาปี จุดใหญ่ที่มีการจัดกิจกรรมและจุดชมบั้งไฟพญานาค โดยที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าวัดไทย อ.โพนพิสัย นักท่องเที่ยวได้ปูเสื่อ กางผ้ากันแดด จับจองที่นั่งรอชมบั้งไฟพญานาค แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวก็ไม่ย่อท้อ ต่างพากันปักหลัก นอนรอ บ้างรับประทานอาหารเป็นหมู่คณะ
โดยกิจกรรมที่วัดไทยในช่วงเย็นมีพิธีบวงสรวงเปิดโลก เป็นการเชื่อมระหว่างโลก ชั้นบาดาล และสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยจะมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานในพิธี
เวลา 09.00 น. ที่ศาลหลักเมือง อ.โพนพิสัย นายสรร สุนทรธนากุล นายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย พร้อมคณะได้ประกอบพิธีบวงสรวงพญานาคด้วยเครื่องบูชาแบบโบราณ ทั้งเหล้าขาว ไก่ตัว หมาก พลู พร้อมการรำบวงสรวง
ส่วนที่วัดไทยริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย ซึ่งเป็นจุดเกิดบั้งไฟพญานาคและเชื่อว่าเป็นเมืองบาดาลและเป็นวังพญานาค พระอาจารย์ทวีป อธิวโร เจ้าอาวาสวัดป่าสักเรไร อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ได้ประกอบพิธีบวงสรวงพญานาค โดยมีผู้เข้าร่วมพิธีนุ่งขาวห่มขาวจำนวนมาก พร้อมได้ปูพรมจากหน้าพิธีลงไปยังแม่น้ำโขง เพื่ออัญเชิญพญาศรีสุทโธ พญานาคผู้สร้างแม่น้ำโขงให้มารับเอาเครื่องเซ่นไหว้
ซึ่งในระหว่างนั้นได้เกิดคลื่นเงาสีดำทะมึนให้เห็นกลางแม่น้ำโขงหลายจุด ทั้งที่ท้องฟ้าโปร่ง ท่ามกลางสายตาของประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ผู้พบเห็นต่างพนมมือสาธุ และถ่ายภาพไว้ดู โดยเชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นเหล่าพญานาคทั้งหลายที่มาแสดงอภินิหารให้เห็น 
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากต่างถิ่น ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชายคนหนึ่งระบุว่า เดินทางจากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย 30 คน เหมาทัวร์เดินทางมุ่งหน้าเข้าอำเภอโพนพิสัย ตั้งใจจะมาชมบั้งไฟพญานาค หากมีบุญวาสนาก็คงจะได้เห็นบั้งไฟพญานาคสักครั้งในชีวิต เพราะที่ผ่านมาได้เห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ยังไม่มีโอกาสได้มาสัมผัสบรรยากาศจริงเช่นนี้
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบจำนวนนักท่องเที่ยวกับปีที่ผ่านมา พบว่าปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาชมบั้งไฟพญานาคมากกว่าปีที่แล้ว แต่ถือว่าลดลงจากเมื่อช่วงปี 2545-2550 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางมากับครอบครัว แต่สภาพการจราจรยังคล่องตัว จากถนนสายหนองคาย-โพนพิสัย เฉลี่ยมีรถยนต์สัญจรนาทีละ 30 คัน
ซึ่ง พล.ต.ต.สมยศ พรหมนิ่ม ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุด ตามทางร่วมทางแยก และประสานกำลังกับอาสาสมัคร ตำรวจชุมชน คอยอำนวยความสะดวก แนะนำเส้นทางแก่นักท่องเที่ยว โดยได้กำหนดเส้นทางการเดินรถทางเดียว ถนนหนองคาย -โพนพิสัย เริ่มจากกิโลเมตรที่ 10 หน้าโรงงานสุรา ไปถึงอำเภอโพนพิสัย ตั้งแต่เวลา 15.00 น.-19.00 น. และให้เดินรถทางเดียวจากอำเภอโพนพิสัย ถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 10 ตั้งแต่เวลา 21.00 น.-24.00 น.
ขณะที่ห้องพัก โรงแรมต่างๆ ในจังหวัดหนองคาย ปรับราคาสูงขึ้นเท่าตัว จากเดิมราคาปกติ ห้องราคาเฉลี่ย 600-1,200 บาท ช่วงเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค ปรับตัวสูงถึงห้องละ 3,000 บาท ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกที่จะเดินทางกลับไปพักยังจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะที่จังหวัดอุดรธานีแทน แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เปิดห้องพักในจังหวัดหนองคาย
แต่ที่นิยมคือการพักแบบโฮมสเตย์ในหมู่บ้านที่มีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น เช่น ที่บ้านน้ำเป, บ้านท่าม่วง, บ้านตาลชุม อ.รัตนวาปี มีการจับจองที่พักล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ที่ไม่มีที่พักสามารถพักแบบเต็นท์นอน ที่ทางจังหวัดหนองคายกางเต็นท์ไว้ให้บริการที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.หนองคาย. ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/302465