ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'ชิมิชิมิ-กังนัมฯ' สไตล์เทศน์พระครูปลัดราชันย์  (อ่าน 2026 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29312
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


'ชิมิชิมิ-กังนัมฯ' สไตล์เทศน์พระครูปลัดราชันย์

เทศน์ชิมิชิมิ-แหล่กังนัมสไตล์ ร้อยรสลีลาเทศน์ลีลาธรรมสไตล์...'พระครูปลัดราชันย์'
 เรื่องและภาพ โดยไตรเทพ ไกรงู


      "พระนักเทศน์อ้วน-ผอม" เป็นฉายาของ พระณัฐวัฒน์ จิตรสี หรือ พระมหาตุ้ยนุ้ย และพระครูวาทีพัชรโสภณ หรือ พระครูปลัดราชันย์ เจ้าอาวาสวัดวังศาล ต.วังโป่ง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ และรักษาการเจ้าอาวาสวัดกวางทอง ต.บ่อทอง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ท่านเป็นพระนักเทศน์ที่ผสานมุกตลกและลีลาการแหล่ กลายเป็นที่ติดอกติดใจของญาติโยม จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีกิจนิมนต์ตลอดทั้งปี ตั้งแต่เหนือจรดใต้นับร้อยๆ งาน พร้อมกับสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวของท่านอย่างต่อเนื่อง

      ทุกวันนี้แม้ข่าวคราวของท่านไม่ค่อยจะปรากฏผ่านสื่อเท่าใดนัก แต่ใช่ว่ากิจนิมนต์ท่านจะลดลง ในขณะที่มุกตลกและลีลาการแหล่ของท่านกลับเข้มข้นขึ้น ทั้งความบันเทิงที่เต็มไปด้วยสารธรรม

      รูปแแบการเทศน์ของพระครูปลัดราชันย์สามารถสร้างความบันเทิงให้คนฟังเป็นอย่างดี คือการแหล่โดยเอาเรื่องราวที่เป็นข่าวในสังคมไปประกอบเป็นตัวอย่าง และสิ่งหนึ่งที่พระนักแหล่ทุกรูปจากทุกสำนักใช้ คือ เพลงที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนั้นๆ โดยล่าสุดได้นำเพลงคันหู และเพลงกินตับ เข้าไปประกอบ ซึ่งสามารถเรียกเสียงฮาและตรึงคนให้ฟังเทศน์จนครบ ๓ ชั่วโมง ได้เป็นอย่างดี

     “ฉันเป็นพระบ้านนอก ก็ต้องเทศน์แบบชนบท ทุกวันนี้ถ้าเราเอาพระสูตร พระธรรม พระวินัยในภาษาบาลีมาเทศน์ คนจะไม่ฟัง ยิ่งเด็กจะไม่เข้าใจเลย ภาษาบาลีแต่ละหัวข้อ ถึงจะอธิบายให้เด็กฟัง เด็กก็ไม่เข้าใจ เราก็คิดว่าจะเทศน์อย่างไร ก็เทศน์เรื่องใกล้ๆ ตัว เพื่อให้เด็กหรือโยมฟัง ไม่ต้องมาคิดแบบคณิตศาสตร์ ไม่ต้องเกรงว่าไม่เข้าใจ อย่างพระเทศน์เป็นบาลีว่า “คนสะอาดไม่ยินดีในความชั่ว” บางคนก็คิดไม่ออก ฉันก็เลยหยิบเรื่องใกล้ตัวมาเทศน์” นี่เป็นคำยืนยันของพระครูปลัดราชันย์

      โดยล่าสุด พระครูปลัดราชันย์ ได้นำสร้อยเพลง "ชิมิ ชิมิ" ของนักร้องเกิร์ลกรุ๊ป วงบลูเบอร์รี่ ของค่ายอาร์สยาม มาสอดไว้ในเนื้อหากการเทศน์ ชนิดที่เรียกว่า เรียกเสียงฮาจากผู้ฟังทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้จะเทศน์ตอนแหล่พระคุณพ่อพระคุณแม่ เพื่อเอาและเข้าถึงใจวัยรุ่นที่ว่า

      "คุณใดในโลกาจะเท่าคุณมารดาชิมิ ชิมิ ไม่มีพระคุณของใคร ที่จะมากมายชิมิ ชิมิ ส่งลูกให้ได้การศึกษาพอได้เงินมาไปซื้อบีบีชิมิ ชิมิ เห็นสาวเขาขี่ฟีโน่อยากได้เบอร์โทรชิมิ ชิมิ เห็นหนุ่มอย่าทำโปรยยิ้มประเดี๋ยวเหมือนฟิล์มกับน้องแอนนี่ชิมิ ชิมิ อยากให้พระมีความสุขจะให้พระหมดทุกข์ต้องถวายแม่ชีชิมิ ชิม กล้วยบวชชี"

       ขณะเดียวกันเพื่อให้รับกับกระแสฟีเวอร์ของกังนัมสไตล์ หรือ ปาร์ค แจ ซาง ศิลปินชาวเกาหลีใต้ พระครูปลัดราชันย์ยังสามารถนำมุกการร้องเพลงของกังนัมสไตล์มาใส่ในเทศน์แหล่ แม้ว่าจะไม่มีท่าเต้น แต่ก็สามารถเรียกเสียงฮาจากญาติโยมได้ไม่น้อยเช่นกัน

       อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เพลง "คันหู" ที่ขับร้องโดย "หลิว วาริสสรา" และเคยตกเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อ "จ๊ะ เทอร์โบ" หรือ "จ๊ะ คันหู" นำไปร้องประกอบท่าเต้นดังกระหึ่มไปทั้งประเทศ โดยท่านไปสอดแทรกใส่ไว้ในแหล่เทศน์ทรงเครื่อง พระเวสสันดรชุดใหญ่ ร่วมทั้งนำเพลง "กินตับ" ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์จีวรบิน ที่ขับร้องโดย "เท่ง เถิดเทิง" ไปสอดแทรกใส่ไว้ในแหล่เช่นกัน

       เพลงคันหูจะใช้เทศน์แหล่สอนพ่อแม่และวัยรุ่น ที่ว่า “...เห็นวัยรุ่นสมัยนี้แล้วพระอดสู มาร้องคันหู คันหูอยู่ได้ ว่าเราเป็นพระฟังแล้วไม่สบายใจ ว่าคันตรงไหน เขาก็บอกว่าคันหู คันหู...” รวมทั้งยังใช้แหล่ตอนที่เฒ่าชูชกสั่งลานางอมิตดา ที่ว่า “...จะจากเมียไปก็ให้อดสู กลัวเมียคันหูใครจะปั่นให้ จะจากเมียไปนานนะ เมียจ๋า อย่านอกใจพี่เฒ่าชรานะแม่ทรามวัย ว่าพี่ทั้งรักทั้งห่วงนะแม่พุ่มพวงสุดดวงใจ จะจากนานกลัวเมียคันหูไม่รู้จะมีใครมาปั่นให้...”
 
      ส่วนเพลงกินตับจะใช้เทศน์แหล่ช่วงที่เฒ่าชูชกร้องสั่งนางอมิตดา ที่ว่า "...นางอมิตดาอายุ ๑๕ สวยบาดตาบาดใจ นางอมิตดาก็ยังเด็ก สวยเหมือนน้องแพนเค้กรู้ใหม่ ไอ้เฒ่าชูชกอายุ ๗๐ กว่าๆ ได้เมียเด็กโยมจ๋านั่งน้ำลายไหล จะจากเมียไปก็ให้กระส่ายกระสับ ตับๆๆๆ ลาแล้วลาไม่ลับเดี๋ยวจะกลับมาใหม่ ตับๆๆๆ..."

       ไม่เฉพาะเพลงที่ยกตัวอย่างเท่านั้น ก่อนหน้านี้ พระครูปลัดราชันย์ ได้เอาหลายเพลงยอดฮิตขณะนั้นมาใช้เทศน์แหล่ประกอบหลายเพลง เช่น เพลงไหล่นี้อย่าให้ใครมากอด ที่ขับร้องโดย มนต์สิทธิ์ คำสร้อย เพลงคุณลำใย ที่ขับร้องโดย ลูกนก สุภาพร รวมทั้งเพลง คนไม่ใช่แฟนทำแทนกันไม่ได้ ที่ขับร้องโดย ตั๊กแตน ชลดา เป็นต้น

        "จริงๆ แล้วการแหล่ก็มีมานานแล้ว ตั้งแต่โบราณ การร้องหรือแหล่เพื่อทำให้คนฟังไม่เบื่อ ไม่ใช่ยัดเยียดแต่ธรรมะอย่างเดียว ก็เหมือนคนเรากินข้าว ก็ต้องมีอิ่ม ถ้าเอาธรรมะยัดเยียดให้โยมอย่างเดียว คุณคิดว่าไหวไหม ถ้าทำอย่างนั้น โยมก็จะง่วง และเดี๋ยวนี้คนก็ไม่ได้เกรงใจพระ ถ้าพระเทศน์ไม่ดีก็คุยกัน แล้วคนไทยฟังเทศน์ได้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ถ้าเลยสี่สิบนาทีก็พวกเลบานอน ห้าสิบนาทีก็พวกอาหรับ ถ้าไปถึงหนึ่งชั่วโมงไม่สรุปให้จบ ก็หยิบรองเท้าเดินกลับบ้านใครบ้านมัน เราก็ต้องมีกุศโลบายให้คนสนใจฟัง" พระครูปลัดราชันย์กล่าวทิ้งท้าย


 


ฉันเป็นพระภูธรไม่ใช่พระนครบาล


      พระครูปลัดราชันย์ บอกว่า ฉันเป็นคนชนบท แล้วฉันก็เป็นเจ้าอาวาสวัดวังศาลองค์แรกที่ถูกต้องตามเถรสมาคม เราบวชเป็นพระก็เพื่อให้วัดอาศัยเรา ปัจจัยที่ได้จากการเทศน์และการขายซีดีนั้น ไม่ได้ไปไหนก็ช่วยกันสร้างโบสถ์และเมรุเพื่อพระรุ่นหลังจะไม่เหนื่อย ฉันไม่เคยแจกซองเรี่ยไรใคร ก็เอาเงินจากการเทศน์และขายซีดีมาสร้างวัด เพราะคนชนบทไม่ค่อยมีเงิน ถ้าเราจะไปเบียดเบียนชาวบ้านก็ไม่ดี

       ฉันเป็นพระภูธร ไม่ใช่พระนครบาล แต่ถ้าจะให้เทศน์แข่งกับพระนครบาลทั้งจำนวนคนฟัง จำนวนเงินติดกัณฑ์เทศน์ รวมทั้งอรรถรสในการเทศน์ ฉันกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า สไตล์การเทศน์แบบภูธรของฉันนั้นกินขาด ทั้งเด็กวัยรุ่น รวมทั้งคนมีอายุฟังได้

       อาตมาเชื่อว่า ๙๙% ญาติโยมทุกคนยอมรับในสิ่งที่อาตมาเทศน์ได้ อาตมาคิดว่าคนที่ยอมรับอาตมาไม่ได้ก็คงเป็นคนที่หูตึง ฟังอะไรไม่รู้เรื่อง เพราะถ้าคนลองมานั่งฟังอาตมาเทศน์ จะรู้ว่าสิ่งที่เทศน์เป็นการนำเสนอ คืออะไร ไม่ใช่อาตมาเทศน์เป็นการนำเสนอแต่เรื่องตลกโปกฮา ให้คนได้เฮได้ฮา ตรงนั้นไม่ใช่ แต่เป็นการนำเสนอความจริงมาเป็นสื่อแห่งการสอน

       ตลอด พ.ศ.๒๕๕๖ มีกิจนิมนต์ตั้งแต่เดือนมากราคม-ธันวาคม ประมาณ ๒๐๐ งาน
       และมีการจองข้ามปีไปถึง พ.ศ.๒๕๕๗ แล้ว
       โดยแต่ละครั้งเจ้าของงานจะถวายเงินค่ารถ ค่าทีมงาน และค่านิมนต์ประมาณ ๓๕,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ บาท
       แต่ถ้าเป็นเทศน์มหาชาติทรงเครื่องจะอยู่ที่ ๗๐,๐๐๐ บาท
       และหากมีทศพล หิมพานต์ และไวพจน์ เพชรสุพรรณ และศรีไพร จะสูงถึงงานละ ๑๗๐,๐๐๐ บาท


       ทั้งนี้หากเทียบกับค่าใช้จ่ายแล้ววัด จะมีคนทำบุญเฉพาะเทศน์มหาชาติประมาณ ๗๐๐,๐๐๐-๘๐๐,๐๐๐ บาท
       เคยได้หลักล้านก็มีหลายสิบงาน ปัจจัยที่ได้นอกจากเป็นค่าใช้จ่ายลูกศิษย์แล้ว
       ฉันเสียภาษีสังคมไม่ต่ำกว่าเดือนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท

      สำหรับการฝึกพระนักเทศน์ในรูปแบบแหล่นั้น พระครูปลัดราชันย์ บอกว่า ตอนนี้ฉันมีพระลูกศิษย์ที่เป็นหม้อ ๓ คน ที่จะคอยสืบวิธีการเทศน์แหล่ คือ สามเณรนิชคุณ พระขวัญชัย และพระเข็มเพชร ทั้งนี้เป็นเรื่องยากที่จะฝึกพระนักเทศน์สไตล์แหล่ ต้องมีพรสวรรค์ ๓๐% ส่วนอีก ๗๐% เป็นพรแสวง มีพระหลายรูปที่เอามาฝึก แต่สุดท้ายแล้วไปไม่รอดก็ต้องให้หยุด

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130115/149411/ชิมิชิมิกังนัมฯสไตล์เทศน์พระครูปลัดราชันย์.html#source_video
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ