« เมื่อ: มกราคม 29, 2013, 09:57:46 am »
0
หลวงปู่ติง 'ธุดงค์ธรรมชัย' ไม่ใช่วิถีพุทธ
หลวงปู่พุทธะอิสระติงวัดธรรมกายจัด 'ธุดงค์ธรรมชัย' ไม่ใช่วิถีพุทธ เกณฑ์นักเรียนชาวบ้านโปรโมทสร้างความเดือดร้อน โยนเจ้าอาวาสวัดกงลาดจัดการปัญหาโรงงานเผายางรถยนต์
28 ม.ค.2556 หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม กล่าวถึงกรณีที่วัดธรรมกาย จ.ปทุมธานี จัดธุดงค์ธรรมชัยในพื้นที่ต่างๆโดยเฉพาะกรุงเทพมหานครว่า การออกมาเดินธุดงค์นั้นหากพิจารณาตามหลักพุทธศาสนามีหลักคิดอยู่ 2 อย่างคือ
1.เป็นที่พึ่งตนเองได้ และเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้ ซึ่งเป็นวิธีคิดของหลักพุทธศาสนาในสายโพธิ์สัตว์ และ
2.วิธีคิดของหลักพุทธศาสนาในสายหินยานหรือเถรวาท ซึ่งเป็นสายที่มีอยู่ในประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งมีวิธีคิดว่าไม่เบียดเบียนตนและไม่ทำให้ผู้อื่นอื่นเดือดร้อน
ถ้าวัดธรรมกายมีหลักคิดแบบนี้ไม่เบียดเบียนตนและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
การจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม หากทำแล้วเบียดเบียนตนทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ถือว่าผิดหลักพุทธศาสนา
เมื่อการกระทำผิดหลักพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนต้องต่อต้าน
ซึ่งประชาชนทั่วไปทุกศาสนาทำได้ คือ การบีบแตรรถไล่
หลายครั้งเมื่อพระภิกษุของวัดธรรมกายออกมาเดินธุดงค์ตามท้องถนน ทำให้รถติดสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้รถใช้ถนน อย่างที่มาเดินธุดงค์ที่จังหวัดนครปฐมส่งผลให้รถติดไปถึงอำเภอบ้านโป่ง จ.ราชบุรี การสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนไม่เป็นข่าวมีแต่ข่าวด้านบวก
วัดธรรมกายควรคำนึงว่า การเผยแพร่ธรรมทุกชนทุกชั้นต้องยอมรับได้
แต่ถ้าเผยแพร่เฉพาะบริษัทและบริวารของตน แล้วทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนยอมรับไม่ได้
ไม่น่าจะเป็นการเผยแพร่ธรรม น่าจะเป็นการทำร้ายพระธรรมมากกว่า
รวมทั้งทำให้พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้ามัวหมอง 
"การเดินธุดงค์บนดอกกุหลาบ ดอกดาวเรือง ไม่ไช่วิธีของพระภิกษุที่สันโดษ
และพระภิกษุที่มาเดินต้องพ้นนิสัยมุตตกะ หรืออุปสมบทมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 พรรษา
จึงจะถูกต้องตามพุทธานุญาต พระบัญญัติขององค์พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้ามีอยู่ 2 อย่าง คือ
สิ่งที่ทรงอนุญาตให้ทำ และสิ่งที่ห้ามไม่ให้ทำ"
เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย กล่าวและว่า
กรณีของการเดินธุดงค์เป็นสิ่งพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ทำ ไม่ใช่ข้อห้ามว่าทำไม่ได้
และผู้ที่คิดให้พระเดินธุดงค์ของวัดธรรมกายก็ไม่ได้ออกมาเดินธุดงค์ด้วย ไม่ต้องทุกข์ทรมาน
นอกจากพระเดินธุดงค์แล้ว นักเรียนและประชาชนยังถูกเกณฑ์ให้ไปตากแดดรับคณะ ไม่ได้ไปเพราะศรัทธา
แต่ไปเพราะโดนเกณฑ์ไป ศรัทธาที่เกิดจากการแสดงเป็นศรัทธาที่หลอกลวงไม่ใช่ศรัทธาที่บริสุทธิ์
เพราะศรัทธาต้องเกิดด้วยการเคารพนบนอบ ยินดีพลีกาย พลีใจไม่ใช่มาบังคับขู่เข็ญหรือกะเกณฑ์ เรื่องนี้มหาเถรสมาคมทำอะไรอยู่ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำอะไรอยู่
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวต่อว่า และที่อ้างว่าเดินตามรอยบูรพาจารย์ (หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ)
แต่นั่นเป็นการเดินธุดงค์ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน หลวงพ่อสดไปทางเรือหากน้ำแห้งก็ขึ้นไปเดินตามคันนาไม่ได้ไปเดินตามข้างถนน แต่การเดินธุดงค์ของวัดธรรมกายทำให้คนเดือดร้อนอย่างนี้ หากหลวงพ่อสดยังไม่มรณภาพคงคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในแผ่นดินนี้ ที่พระออกธุดงค์แล้วมีผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งข้าราชการก็เป็นไปด้วย ทั้งสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติและกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งตำรวจที่ให้ความอนุเคราะห์ เพราะตอนนี้เป็นรัฐบาลธรรมกายไปแล้ว
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวถึงปัญหากลิ่นของโรงงานใกล้วัด รวมถึงกรณีที่ชาวบ้านใน ต.ห้วยด้วน อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาโรงงานเผายางรถยนต์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 5 ต.ห้วยด้วน อ.ดอนตูม จ.นครปฐม โดยโรงงานแห่งนี่จะเผายางรถยนต์เพื่อสกัดเอาน้ำมัน และได้ปล่อยมลภาวะออกสู่ชุมชนรอบๆ โรงงานว่า อาตมาได้ให้ชาวบ้าน ต.ห้วยด้วน รวมตัวกันไปหาเจ้าอาวาสวัดกงลาดเพื่อให้เป็นแกนนำชาวบ้านในการต่อสู้กับโรงงาน รวมทั้งให้รวมตัวแจ้งไปยังยัง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอำเภอ และทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม และกรมควบคุมมลพิษ ให้เข้ามาดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น
“เรื่องนี้ชาวบ้านต้องรวมตัวกัน ผนึกกันเป็นพลังต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพื่อคนในชุมชนเอง เรื่องนี้ฉันเข้าไปยุ่งมากไม่ได้เพราะอยู่ต่างถิ่น แต่จะประสานกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งท่านอธิบดีรับปากฉันว่าหากฉันต้องการให้ช่วยอะไรก็บอก ฉันจะบอกให้มาช่วยชาวบ้าน” หลวงปู่พุทธ อิสระ กล่าว 
พล.ต.ท.จรัมพร สุรมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องการข่มขู่หลวงปู่พุทธะอิสระว่าจะใช้รถบรรทุก 10 ล้อ ก่อเหตุ เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ เป็นเรื่องของ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ตนคงไม่ลงไปก้าวก่าย แต่หากหลวงปู่พุทธะอิสระ มีปัญหาความไม่ปลอดภัยก็ขอให้แจ้งมา โดยในเบื้องต้นขอให้ไปแจ้งตำรวจท้องที่ก่อน หากตำรวจท้องที่ไม่ดำเนินการให้ ก็แจ้งมายังตนได้ทันทีซึ่งตนพร้อมจะลงไปดำเนินการให้
ส่วนปัญหาโรงงานเผายางรถยนต์ใน ต.ห้วยด้วน ร.ต.โสภา บุญพวง เลขานุการประธานชมรมกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมตำบลห้วยด้วน กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านที่ออกมาเคลื่อนไหว ก็ไม่กล้าทำอะไรมากเพราะเกรงอันตราย
นางปิยนุช ภูศรี กรรมการชมรมกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมตำบลห้วยด้วน กล่าวว่า ก่อนการสร้างโรงงานแห่งนี้ได้มีการทำประชาคม แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่รู้ จึงมีผู้เข้าประชุมเพียง 28 คน รวมทั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยด้วนด้วย จากประชากรทั้งหมู่บ้าน 500 คนเศษ แต่กลับเป็นเรื่องแปลกที่ชาวบ้านเข้าลงชื่อจำนวน 126 ราย
นางวาสนา วงษ์ทองแท้ รองประธานชมรมกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมตำบลห้วยด้วน กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมมีคำสั่งปิดโรงงานแห่งนี้ แต่ในช่วงกลางคืนโรงงานแห่งนี้ก็ยังคงประกอบการตามปกติขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130128/150468/หลวงปู่ติงธุดงค์ธรรมชัยไม่ใช่วิถีพุทธ.html#.UQc01fLcAithttp://www.dhammakaya.net/,http://p.s1sf.com/,http://mahachaiyo.com/