ผู้เขียน หัวข้อ: เล่าต่อ เรือ่งเกี่ยวกับหลวงปู่สุก  (อ่าน 435 ครั้ง)

dhammawangso

  • Administrator
  • ผู้อุปถัมภ์
  • *****
  • กระทู้: 205
    • ดูรายละเอียด
เล่าต่อ เรือ่งเกี่ยวกับหลวงปู่สุก
« เมื่อ: มีนาคม 07, 2022, 04:41:09 pm »
( มาเล่าต่อ  )
ในปี พ.ศ. 2325 หลังจาก ร1 ได้ทรงชำระ วัด สระแก ก็เปลี่ยนชื่อวัด เป็นวัด สระเกศ มีความหมายว่า ชำระล้าง ในครั้งนั้น ก็ทรงตั้งสมเด็จพนรัตน์ อาจ เป็นเจ้าอาวาส  ความเดิมตอนนี้ มีความเกี่ยวข้อง กับ หลวงปู่ เนื่องด้วย ในหลวงได้ นิมนต์ท่าน เข้ามาดูแลวัดสระเกศ แต่เป็นเพราะท่าน คุ้นเคยและชอบบรรยากาศที่เป็นป่า ของวัดพลับ ในสมัยที่หนึพม่า ออกมา และได้เรียนกรรมฐาน เพิ่มเติมคือ ออกบัวบานพรมหวิหาร 4 กับพระอาจารย์จ้าว ที่ วัดพลับครั้งนั้น ดังนั้นพอหลวงปู่เข้ามาถึงวัดสระเกศแล้ว จึงปฏิเสธฝั่งพระนครและ ขออนุญาตไปอยู่วัดพลับ ฝั่งธนบุรี แทน ( ความนัยมีมากกว่า นี้ สวนนี้ แต่เล่าแล้วจะยาว นอกประเด็นไปมาก ) ดังนั้นในยุครัตนโกสินทร์ จึงมี สมเด็จพันรัต อาจ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ต่อมาเมื่อหลวงปู่ได้เป็นสังฆราช ใน พ.ศ. 2364 ซึ่งตอนนั้นมีเหตุการณ์ สำคัญตอนหนึ่งเกิดขึ้น ก็คือเกิดการระบาด ของ โรคอหิวาต ทำให้ประชาชนตายกันเป็นหมื่น สมัยนั้นการแพทย์ ก็ไม่ได้รุ่งเรืองมากนัก ในหลวงจึงทรงต้องปลอบขวัญประชาชน ด้วยการตั้งพิธี ปัดเป่าภัยพิบัติโรคร้าย โรคระบาดเกิดก่อนหลวงปู่เป็นสังฆราช 1 ปี คือเริ่มเกิดขึ้นในปี 2363 และสิ้นสุดลงในปี 2364 มีประชาชนตายกันเป็นหมื่น กล่าวว่าตายร่วม 30000 คน ศพต้องนำไปกอง สุมรวมกันตามวัดต่าง ๆ เพราะว่าฝัง และ เผา ไม่ทัน ในช่วงนั้น สมเด็จอาจก็ มรณภาพ ลงก่อนในปี พ.ศ. 2361 ช่วงนั้นเช่นกัน ทำให้เจ้าอาวาสไม่มี แต่มีรองเจ้าอาวาส ซึ่งมีตำแหน่งเป็น สมเด็จเช่นกัน แต่ไม่อยู่วัดออกเที่ยวจาริก อยู่ดังนั้น ก็เป็นกาลเวลา ที่วัดถูกปกครองด้วย รองเจ้าอาวาส และ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ( ตำแหน่งยังมไ่ม่มี ) แต่บรรดา พระที่เป็นสัทธิวิหาริก ก็ทราบข่าว อันเตวาสิกอยู่ ครั้นพอหลวงปู่ เป็นพระสังฆราช ได้ 2 พรรษา (ปี ) ในหลวงเลยรับสั่งให้ พระพนรัตน์ ( ด่อน ) ที่อยู่วัดมหาธาตุ ไปปกครองวัดสระเกศ ในปี พ.ศ.2362 กล่าวว่าท่านเป็นศิษย์ ใน หลวงปู่สุข ตั้งแต่ อยู่วัดหงส์ มาก่อน พอหลวงปู่ มรณภาพลง ท่่านก็ได้รับการสถาปนา เป็น พระสังฆราชองค์ที่ 5 นับว่า วัดสระเกศ มีผู้ปกครองเป็นพระสังฆราชส องค์แรกสมตามที่ ร1 ปรารถนาไว้ ว่า ควรเป็นในสายศิษย์วัดพลับ ( แต่ ใช่หรือไม่ใช่ ไม่ได้ระบุให้ทราบ ) ท่านเป็นพระสังฆราชถึง 20 พรรษา ก็ มรณภาพลง พ.ศ.2395 ในระหว่างที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส สมเด็จสน ที่เที่ยวอยู่ก็กลับมา แต่ก็อายุมากกว่า ท่านไม่สนใจในการบริหารวัด และให้ความเคารพสมเด็จพนรัตน ด่อน ด้วยและมีความปรารถนาไปเรียนกรรมฐาน กับหลวงปู่สุก คราที่ท่านไปเรียน กรรมฐาน กับหลวงปู่สุกนั้น กล่าวว่าอายุมากแล้ว มีประวัติอยู่ในหนังสือ ที่หลวงพ่อพระครูกล่าวไว้นิดหนึ่ง ประมาณ สองสามบรรทัดเคยอ่านพบในเล่มสีชมพู หลังจากสมเด็จพันรััตน ( ด่อน ) มรณภาพ สมเด็จพุฒาจารย์ ( สน ) ก็ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสต่ไปอีก สองสามปี แล้วก็หายตัวไป โดยให้ลูกศิษย์ อาจารย์เขียน เป็นผู้ดูแลวัด ดังนั้น อาจารย์เขียนจึงไได้เป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อไป ผ่านไป ร้อยกว่าปี เจ้าอาวาสรุ่นที่ 9 จึงได้เป็นสังฆราช ซึ่งท่านเป็นชาวบางกอกใหญ่ ฝั่งธนบุรี ( พระสังฆราช อยู่ ญาโณทโย )
ที่จริงเล่าได้พิศดารมากกว่า นี้ แต่คร่าวเท่านี้ก่อน สำหรับคนอยากรู้ต้องติดตาม กันต่อไป