ปณิธาน มุ่งส่งเสริม กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
Welcome to
www.madchima.org
4
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
kajjayanasutung special
»
ปุจฉา - วิสัชนา
»
ถามตอบเรื่องกรรมฐาน
»
สัพเพเหระ-อาหาร เนื้อนาบุญ ไทยทาน
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ผู้เขียน
หัวข้อ: สัพเพเหระ-อาหาร เนื้อนาบุญ ไทยทาน (อ่าน 1954 ครั้ง)
dhammawangso
Administrator
ผู้อุปถัมภ์
กระทู้: 205
สัพเพเหระ-อาหาร เนื้อนาบุญ ไทยทาน
«
เมื่อ:
พฤศจิกายน 04, 2016, 02:32:14 am »
อะไรชื่อว่า หนึ่ง ในสามเณรปัญหา ข้อแรกคำตอบก็คือ
อาหารชื่อว่าหนึ่ง บุคคลทุกวันนี้ที่วุ่นวายก็เพราะเรื่องอาหารเป็นหลักถ้าลองมีอาหารกินกันได้ไม่หมดทั้งชาติละก็ เขาก็จะไม่ต้องออกไปทำงานให้เหน็ดเหนื่อยกัน ไม่ต้องเสียเวลาเรียนอะไรทั้งนั้น ดังนั้นเรื่องปาก เรื่องท้องถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก
สำหรับพระสงฆ์ก็เช่นเดียวกัน อาหารจัดเป็นเรื่องแรกที่ต้องจัดการ แต่พระสงฆ์ก็มีข้อห้าม ๆ ปรุงอาหารในสายวินัย ห้ามปลูกธัญญพิชเพื่อการเกษตรอีกหลายอย่าง เนื่องด้วย พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงมีพระปรีชาญาณแล้วว่า พระสงฆ์สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงาน ดังนั้นให้พระสงฆ์เอาเวลาทำงานที่ชาวบ้านเหน็ดเหนื่อยนั้นมาเป็นเวลาพัฒนาตนให้เป็นเนื้อนาบุญที่ชาวบ้านลงทุนไปแล้ว จะได้ผลกำไรมากขึ้น ดังนั้นพระสงฆ์จึงไม่มีอาชีพอย่างชาวบ้าน แต่ดำรงตนเป็นเนื้อนาบุญ
ที่นี้พระสงฆ์ถ้าบวชเข้ามาแล้วไม่ภาวนา ไม่รักษาศีล เอาแต่สวดเสก แสวงลาภยศ เงินทองแบบชาวบ้าน ถามว่าพระสงฆ์แบบนี้จะเป็นเนื้อนาบุญได้อย่างไร นั่นแหละชาวบ้านเขา ๆ อย่างเรา ๆ ก็คิดเป็นดังนั้นก็เลยเลือกที่จะทำบุญกับพระอริยะสงฆ์
ที่นี้พระสงฆ์พวกนี้ก็ต้องดิ้นรนเพิ่มขึ้นต้องหาพระสูตรมาพูดยืนยันว่าทำบุญกับตนยังได้บุญไปสู่การสอนการทำบุญแบบพระอริยะ เรียกว่าทำบุญตรงไหนก็ไม่ได้บุญเท่ากับ ทำบุญสังฆทาน อย่างนี้เป็นต้น เรียกว่า ต้องรักษผลประโยชน์เอาไว้ก่อน ชาวบ้านก็หลงเชื่อ ยอมซื้อสังฆทานเวียนไปเวียนมา ดอกไม้ธูปเทียนเวียนปักไปปักมา ถามว่ามันจะได้บุญจริงหรือ นี่คือธรรมเนียมที่ผิด
พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสสอนว่าทำบุญสังฆทานจะดีกว่าทำบุญกับพระพุทธเจ้า แต่ที่ท่านตรัสก็คือให้เข้าใจขณะที่ทำบุญขณะนั้นมีโอกาสอะไรก็ทำตรงนั้นให้ดีที่สุด มันก็เป็นแบบนี้ พระสงฆที่พระพุทธเจ้ายกย่องว่าควรแก่สักการะ ควรแก่ไทยธรรม ในบทสังฆคุณ ไม่มีสมมุติสงฆ์ แต่ยกย่องว่า พระอริยสงฆ์ 4 คู่ คือ พระโสดาบัน จนถึงพระอรหันต์ นั่นแหละสมควรแก่สักการะ และไทยธรรมทั้งปวง แม้องค์เดียวก็ได้บุญมาก
วันนี้ฉันอยู่ได้ด้วยนมสี่กล่อง ก็คือนม ที่คุณ ณฐพลสรรค์ นำมามอบถวายไว้ ต้องรู้ใจหน่อย นมที่ฉันดื่มก็คือ นมเดนมากสระบุรี มีสองรสเท่านั้นคือ รสหวาน และ ช๊อกโกแลึค ส่วนนมจืดไม่ดื่มแต่จะนำมาทำอาหารประเภทแกงใส่ร่วมกับ กระทิ ดังนั้นถ้าไม่มีโครงการทำแกง หรือ กระทิ มานมจืดก็จะวางไว้อย่างนั้นไม่ได้ฉัน จนหมดอายุ
คุยกันพอได้สนทนาธรรม ไม่ได้มีอะไรในหัวข้อนี้
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
kajjayanasutung special
»
ปุจฉา - วิสัชนา
»
ถามตอบเรื่องกรรมฐาน
»
สัพเพเหระ-อาหาร เนื้อนาบุญ ไทยทาน