ไม่มีผู้สำเร็จธรรม ได้ โดยไม่ได้รับ วิบากกรรม สกัดกั้น หรอก ในศาสนานี้ อุปสรรค ที่สำคัญ ของผู้ภาวนา จริง ๆ ก็คือ ต้องทำใจ และ เตรียมใจ กับความสูญเสีย สิ่งที่ตนรัก ตนหลง ตนชอบ ตนหวัง ทั้งนั้น บางคนหนักถึง โดนวิบากขั้นสูง เรียกว่า กรรมตัดรอน คือ ถึงแก่ชีิิวิต ก็มี แม้ในครั้งพุทธกาล มีพระพุทธเจ้า ดำรงอยู่ก็ไม่สามารถจะสกัดกั้น หมู่มาร ที่คอยจ้องล้างผลาญ ผู้ที่จะสำเร็จธรรม แม้พระอนาคามี ก็สูญเสียชีวิตไปมากมาย ที่เรียกว่ากรรมตัดรอน นี้คือวิบาก กรรมที่ ผู้เจริญธรรม เพื่อต้องการหลุดจากสังสารวัฏฏ์ อันโสมม นี้
แม้ฉันเอง ก็ยังถูกกรรมตัดรอน เช่นกัน หากแต่ครูอาจารย์ ท่านมีกำลังมาก สามารถช่วยไว้ได้ โดยเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ต้องยอมรับ กับ แต่ สำหรับฉัน ไม่เรียกว่า วิบากกรรม แต่เรียกหนทางแห่ง มรรควิถี ซึ่งเป็นหนทาง แห่งพระอริยะที่ใช้เดินกันไปสู่เป้าหมาย ที่แท้จริง
ชีวิตเรายังไม่สิ้น ก็มีความหวัง จะมากจะน้อย ก็ต้องอาศัยความอดทน อดกลั้นในความฉลาด ที่จะดำรง ชีวิตให้รอดจาก พญามาร ให้ได้
ถ้าเป็นชาวโลก เมื่อเสียสละอะไรลงไป ก็หวังว่าจะมีคนเข้าใจ หรือเห็นใจ หรือ ยกย่องในความเสียสละอันได้ลงไป ทั้งแรงกายแรงใจ แต่สำหรับ เส้นทางพระอริยะนั้น การลงอะไรไป ก็ไม่ใช่เพื่อ ให้ใครมาเห็นอก เห็นใจ หรือยกย่อง แต่เป็นการทำไปเพื่อการไปสู่ เส้นทางแห่งการไม่มาเกิด ขึ้น อีกต่อไป เป็นการดับที่เหนือกว่า
ดังนั้นศิษย์ ใกล้ตัว ใกล้ธรรม ก็ย่อมรับผลวิบากสูงขึ้น เพราะบรรดา มารทั้งหลาย ต้องสกัดกั้น การหยั่งลงแห่งมรรค ของผู้ที่ต้องการหยั่งลงสู่ธรรม
แม้ฉันเอง ก็ได้รับวิบาก หลายประการ แต่ก็ยืนหยัด เพื่อเป้าหมายเดียวเท่านั้น คือ ความสิ้นไปแห่งทุกข์ นั่นก็คือการได้บรรลุธรรม เพื่อพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด นี้ เสียที
เจริญพร
